ศาล รธน. ตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ตัดสิทธิ์กรรมการพรรค 10 ปี

ในวันศุกร์นี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากเห็นว่าการที่พรรคกู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เพื่อนำมาใช้ดำเนินกิจกรรมของพรรคในการรณรงค์เพื่อการเลือกตั้ง เมื่อต้นปี 2562 เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ พร้อมตัดสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 เสียง วินิจฉัยว่า การที่พรรคอนาคตใหม่ในฐานะผู้ถูกร้อง กู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เป็นการกระทำที่ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (พ.ร.ป.พรรคการเมือง) มาตรา 72 ที่ ระบุว่า ห้ามมิให้พรรคการเมือง และผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

“นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคผู้ถูกร้อง ให้เงินกู้แก่ผู้ถูกต้องเป็นการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใด และการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคผู้ถูกร้อง ให้ผู้ถูกร้องได้กู้ยืมเงินเป็นจำนวนมาก คณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้อง ควรจะรู้ว่า การเป็นหนี้จำนวนมากแก่บุคคลใด ย่อมจะก่อให้เกิดการครอบงำ หรือ ชี้นำโดยบุคคลที่เป็นเจ้าหนี้สามารถมีอำนาจแห่งมูลหนี้... กรณีนี้ จึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกร้องกระทำการฝ่าฝืน มาตรา 72 อันเป็นเหตุให้สั่งยุบพรรคผู้ถูกร้อง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง” นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำพิพากษา ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์

“...อาศัยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้อง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยพรรคการเมือง  พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรค 1 (3) และ วรรค 2 ประกอบมาตรา 72 เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องเป็นเวลาสิบปี นับตั้งแต่มีคำสั่งยุบพรรค และห้ามไม่ให้ผู้เคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของพรรคผู้ถูกร้องดังกล่าว ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรรคการเมืองอื่น หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่” นายนครินทร์ เมฏไตรรัตน์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำพิพากษา

ในวันนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวพน้าพรรค รวมถึง คณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษาที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่รวมตัวกันฟังคำพิพากษาซึ่งถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์อยู่ที่ทำการพรรค ณ ตึกไทย-ซัมมิท ย่านถนนเพชรบุรี พร้อมกับผู้สนับสนุนกว่าสองร้อยคน

หลังทราบคำพิพากษา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงข่าวขอโทษผู้สนับสนุน พร้อมประกาศตั้งคณะอนาคตใหม่เพื่อสืบทอดอุมการณ์ของพรรค และรณรงค์เดินหน้าประชาธิปไตย แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันต่อไป

“พรรคอนาคตใหม่สิ้นสุดลงแล้ว ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ผมขอโทษพี่น้องประชาชนทุกคน ที่พวกเราทำตามสัญญาไม่ได้ เราสัญญากับทุกท่านว่า  เราจะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. เราสัญญากับทุกท่านว่าเราจะร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2560 เราสัญญากับทุกท่านที่จะปฏิรูปกองทัพ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เราทำไม่ได้ตามสัญญา” นายธนาธร กล่าวในการแถลงข่าวท่ามกลางผู้สนับสนุน

“ผมขอประกาศจัดตั้งคณะอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นที่รวมตัวกันของกลุ่มคนที่ต้องการสืบสานอุดมการณ์ และแนวคิดอนาคตใหม่ขึ้น ผมขอประกาศตั้งคณะอนาคตใหม่ เพื่อทำงานการเมืองต่อ โดยมีวัตถุประสงค์กลับไปเมื่อครั้งตอนที่เราตั้งพรรคอนาคตใหม่ครั้งแรก คือปักธงความคิด... ทางออกทางเดียวที่เหลืออยู่คือการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560” นายธนาธร กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนางสกุลศรี บุญโชติอนันต์ อายุ 47 ปี ร้องไห้ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษายุบพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กับเบนาร์นิวส์ ระบุว่า ตนมาสมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ในวันนี้ด้วยความหวังทางการเมืองที่ดีขึ้น แต่โดนดับฝันหลังพรรคโดนยุบ

“เสียใจมากเพราะเราไม่คิดว่าศาลจะยุบพรรค” นางสกุลศรี กล่าวแก่เบเนาร์นิวส์ทั้งน้ำตา “ชอบพรรคนี้ เพราะเขาเข้าถึงประชาชนจริง ๆ ใส่ใจประชาชนจริง ๆ ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ คนเหล่านี้คือความหวังในวันที่เราสิ้นหวังในการเมือง และพรรคการเมือง เหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แล้ววันนี้แสงสว่างมันโดนทำให้ดับอีกแล้ว” นางสกุลศรี กล่าว

ด้านนายฐิติพล ภักดีวานิช คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์กับเบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์ว่า การตัดสินยุบพรรคเป็นเรื่องที่ทุกคนคาดการณ์ไว้แล้ว

“การยุบพรรคไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะทุกคนคาดการณ์อยู่แล้ว มันเป็นรูปแบบเดิมในบริบทการเมืองช่วงที่ผ่านมา เช่น พรรคเพื่อไทย การยุบ อนค. ก็เหมือนเป็นวัฏจักรของสองทศวรรษที่ผ่านมา ที่คนทั่วไปเห็น ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้คะแนนนิยมของพรรค กิจกรรมพรรคลดลง ในมุมบวก อาจจะทำให้ได้คะแนนสนับสนุนเพิ่มขึ้นอีก จากกลุ่มคนรุ่นใหม่” นายฐิติพล กล่าว

คดีการยุบพรรคอนาคตใหม่นี้ สืบเนื่องจาก คำร้องดังของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ให้พิจารณาว่า การกระทำของพรรคเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 66 แห่ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 โดยได้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาท ต่อพรรคการเมืองต่อปีหรือไม่ ซึ่งนายธนาธร ได้เคยกล่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ว่า ตนได้ให้พรรคกู้ยืมเงินสองครั้ง เป็นจำนวน 191.2 ล้านบาท เพราะต้องใช้จ่ายในการหาเสียงเพื่อการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 ที่ประชุม กกต. มีมติส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ยุบพรรคอนาคตใหม่ เพราะมีเหตุอันเชื่อได้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการรับบริจาคเงินโดยแหล่งที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 72 ของ พ.ร.ป. พรรคการเมืองฯ ที่ห้ามมิให้พรรคการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นเหตุให้ต้องถูกศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรค ตามมาตรา 92(3) ของกฎหมายพรรคการเมือง ปัจจุบัน กระบวนการอยู่ในชั้นศาล โดยศาลอนุญาตให้พรรคอนาคตใหม่สามารถยื่นเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมจนถึงวันที่ 27 มกราคม 2563 และนัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้

สำหรับกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 16 คน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ประกอบด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายไกลก้อง ไวทยการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายนิรามาน สุไลมาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางสาวเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสุรชัย ศรีสารคาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางสาวจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิกพรรค นายชัน ภักดีศรี กรรมการบริหารพรรค และนายสุนทร บุญยอด กรรมการบริหารพรรค