เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบังกลาเทศกำลังคัดกรองผู้เดินทางแล้ว เพื่อตรวจหาเชื้อซิกา

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.09.01
วอชิงตัน
TH-SEA-zika-620 sdfdsf
เอเอฟพี

หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อซิกาในสิงคโปร์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น บรรดาประเทศในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างก็กำลังเร่งคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ และประชาชนที่เดินทางกลับเข้าประเทศ เพื่อตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสนี้

ทางการกล่าวว่า ผู้ที่ติดเชื้อนี้ในสิงคโปร์เป็นชาวบังกลาเทศ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ขณะที่ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อแล้วจำนวน 13 ราย

“เราได้ติดตั้งเครื่องตรวจอุณหภูมิร่างกายที่ท่าอากาศยาน ท่าขาเข้าบนบก และท่าเรือทั้งหมด เพื่อตรวจหาคนที่เป็นไข้ ซึ่งเป็นอาการแรกของการติดเชื้อซิกา” นพ. เอ็ม. มุชทัก ฮูเซน แห่งสถาบันวิทยาการระบาด ศูนย์ควบคุมและวิจัยโรค (IEDCR) สังกัดกระทรวงสาธารณสุขของบังกลาเทศ บอกแก่เบนาร์นิวส์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันพุธ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ได้ใส่ชื่อประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อซิกาที่ได้รับการยืนยันแล้วจำนวน 115 ราย และหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน เข้าไปในรายชื่อประเทศและดินแดนที่มีการระบาดของเชื้อชนิดนี้ ทำให้มีจำนวนประเทศและดินแดนทั้งหมดที่มีผู้ติดเชื้อนี้แล้วทั้งสิ้น 58 ประเทศ

ยอดผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว ซึ่งติดเชื้อไวรัสซิกาภายในสิงคโปร์เอง พุ่งขึ้นจากหนึ่งรายเป็น 115 ราย ในช่วงห้าวันสุดท้ายของเดือนสิงหาคม ตามรายงานของรอยเตอร์

การแพร่ระบาดของเชื้อซิกา

ส่วนใหญ่แล้ว เชื้อไวรัสซิกาแพร่ระบาดโดยการกัดของยุงลายที่ติดเชื้อนี้ เชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่จากหญิงมีครรภ์ไปยังทารกในครรภ์ได้ และอาจทำให้ทารกที่เกิดมามีความผิดปกติ

ยุงอาจเป็นพาหะได้ หลังจากไปกัดผู้ติดเชื้อนี้ แล้วไปกัดคนอีกคนที่ไม่ติดเชื้อ ผู้ติดเชื้อยังอาจส่งผ่านเชื้อนี้ไปยังคู่นอนได้ด้วย ตามข้อมูลจาก CDC

บราซิล ประเทศเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกภาคฤดูร้อนปี 2559 ในกรุงริโอ เป็นประเทศหนึ่งที่มีการระบาดอย่างหนักของเชื้อซิกา

เมื่อวันพุธ สิงคโปร์กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 22 ราย และผู้ติดเชื้อรายแรกที่เป็นหญิงมีครรภ์ สำนักข่าวเอพีรายงาน

สิงคโปร์ ประเทศที่มั่งคั่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของคนงานผู้อพยพจากบรรดาประเทศใกล้เคียง

“ใช่แล้ว ชาวบังกลาเทศหกคน ถูกตรวจวินิจฉัยว่าติดเชื้อซิกาแล้ว” มาห์บับ อุซ ซาแมน ข้าหลวงใหญ่ของบังกลาเทศประจำสิงคโปร์ บอกแก่เบนาร์นิวส์ ทางการบังกลาเทศเป็นกังวลว่า ชาวบังกลาเทศที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ ซึ่งมีคนจำนวน 160,000 คน เดินทางไปทำงานในประเทศนี้ อาจนำเชื้อซิกากลับไปติดครอบครัวและเพื่อน ๆ

“ถ้าชาวบังกลาเทศที่ติดเชื้อซิกาเดินทางกลับไปบ้าน โดยไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อดังกล่าว อาจนำเชื้อมาแพร่ระบาดได้” ฮูเซนกล่าว

มาเลเซีย: ผู้ติดเชื้อจากสิงคโปร์

ในมาเลเซีย กำลังเร่งการเฝ้าระวังยุงและการป้องกันอื่น ๆ ในทุกรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐยะโฮร์ และรัฐสลังงอร์ นายเอส. สุบรามาเนียม รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี

ในแต่ละวัน ชาวมาเลเซียหลายหมื่นคนจากรัฐยะโอร์ที่ติดกับสิงคโปร์ แห่กันเดินทางเข้าไปทำงานในสิงคโปร์

หญิงวัย 58 ปีคนหนึ่งถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสซิกา หลังจากเดินทางไปสิงคโปร์เป็นเวลาสามวัน ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม โดยลูกสาวของหญิงผู้นี้ก็ติดเชื้อที่นั่น รมต.สาธารณสุขของมาเลเซียกล่าว หญิงคนดังกล่าวมีอาการขึ้นผื่นบนผิวหนัง และไปพบแพทย์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

รมต.สาธารณสุขของมาเลเซียกล่าวว่า ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ระบุว่า ชาวมาเลเซียจำนวนห้าคนที่ทำงาน และอาศัยในสิงคโปร์ ติดเชื้อไวรัสนี้

อินโดนีเซีย: ยืนยันแล้วหนึ่งราย

อินโดนีเซียยังได้ติดตั้งเครื่องสแกนอุณหภูมิร่างกายที่ด่านขาเข้า และออกคำเตือนแก่ประชาชน โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ สำหรับการเดินทางไปสิงคโปร์และประเทศอื่นที่กำลังอาจมีการระบาดของเชื้อซิกา

นายอาร์มานาธา นาซีร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่ามีชาวอินโดนีเซียคนหนึ่งติดเชื้อนี้ในสิงคโปร์

“เราได้รับการยืนยันว่า ขณะนี้ หญิงคนหนึ่งที่ติดเชื้อไวรัสนี้ กำลังอยู่ในโรงพยาบาลในสิงคโปร์” เขากล่าว โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด

เขากล่าวว่า รัฐบาลกำลังแจกข้อมูลและเอกสารเกี่ยวกับไวรัสชนิดนี้ให้แก่ทุกคนที่เดินทางมาจากสิงคโปร์ และชาวอินโดนีเซียที่เดินทางกลับมาจากสิงคโปร์ ขณะนี้ มีชาวอินโดนีเซียประมาณ 200,000 คน อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ และนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียกว่า 2.73 ล้านคน เดินทางไปเยือนสิงคโปร์เมื่อปีที่แล้ว

รัฐบาลกำลังเตือนผู้ที่มีอาการต่าง ๆ เช่น เป็นไข้ มีผื่นบนผิวหนัง ปวดศีรษะ และเยื่อตาอักเสบ ภายใน 14 วัน หลังจากเดินทางมาถึงอินโดนีเซีย ให้ไปพบแพทย์ และบอกแพทย์เกี่ยวกับการเดินทางไปยังประเทศที่มีกรณีการติดเชื้อซิกา

ไทย: ระดับสีแดง

สำหรับในส่วนของประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนที่น่าเป็นห่วง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของยุโรป (ECDC) ระบุว่า ไทยเป็นประเทศ “ระดับสีแดง” สำหรับ “การแพร่ระบาดในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา”

มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อซิกาจำนวน 97 ราย เฉพาะครึ่งปีแรก 2559 แต่ผู้ป่วยทุกรายเหล่านี้หายเป็นปกติดี นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรคของไทย บอกแก่เบนาร์นิวส์

“ปัจจุบันมีเพียง 13 รายที่ยังถือว่ามีอาการอยู่ ในพื้นที่สี่จังหวัด” เขากล่าว

"มาตรฐานควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดจากชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยว่า ได้มีมาตรการอย่างเข้มข้นตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่มีรายงานการระบาด" นพ.อำนวยกล่าว

“เรามีด่านป้องกันควบคุมโรคที่จะนำมาโดยผู้เดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ 68 ด่าน ตั้งแต่ต้นปีมาเนี่ย มีแนวทางให้ปฎิบัติเข้มข้นสูงสุด คือ กรณีที่มีผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่ระบาด เจ้าหน้าที่ที่ด่านจะจับตาดู ตรวจสอบในกรณีที่พบลักษณะอาการที่เข้าข่าย คือถ้าเป็นไข้ก็จะถูกตรวจร่างกาย สุ่มตรวจเลือด และตรวจปัสสาวะ นอกจากด่านตรวจแล้ว ยังมีการคัดกรองอีกชั้นในโรงพยาบาลด้วย” อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว

 

เทีย อัสมารา ในจาการ์ตา, กัมรัน เรซา เชาด์ฮูรี ในธากา, ไฮรีซ อาซีม อาซีซี ในกัวลาลัมเปอร์ และนนทรัฐ ไผ่เจริญ ในกรุงเทพฯ มีส่วนในรายงานชิ้นนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง