ทางการไทยออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิดศาลพระพรหม เพิ่มเติมรวมสองราย

ภิมุข รักขนาม
2015.08.31
TH-BOMB-620 พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษก สตช. แถลงข่าวออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม โดยถือแท็บเล็ตแสดงภาพบุคคลในหมายจับเพื่อสอบสวน คือ น.ส.วรรณา สวนสัน ผู้เช่าอพาร์ทเมนท์ที่ถูกตรวจค้น ย่านมีนบุรี วันที่ 31 สิงหาคม 2558
เอเอฟพี

พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวถึงความคืบหน้าคดีเหตุระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ เหตุเกิดเมื่อในที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า ในวันนี้ ทางการไทยออกหมายจับผู้ต้องสงสัยอีกสองราย เป็นชายชาวต่างชาติหนึ่งราย และผู้หญิงไทยหนึ่งราย

พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ ได้แถลงการทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ร่วมกับพันเอกวินธัย สุวารี ในนามของศูนย์ติดตามสถานการณ์ คณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ในตอนเที่ยงของวันจันทร์นี้ว่า มีความคืบหน้าจากการขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หนึ่งรายในวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถสืบทราบได้ว่า ผู้ต้องหามีเครือข่ายหรือความเกี่ยวเนื่องอยู่ใน อพาร์ทเม้นต์ ไมมูณา การ์เด้น ย่านมีนบุรี จึงได้มีการสนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าตรวจค้น ในวันอาทิตย์

พล.ต.ท. ประวุฒิ กล่าวว่า “ขณะกำลังตรวจค้น เจ้าของห้องไม่อยู่ จึงได้มีการสอบสวนและขยายผลเพื่อขอศาลออกหมายจับ ผู้ที่เป็นผู้เช่าห้องพัก คือ น.ส. วรรณา สวนสัน อายุ 26 ปี และมีผู้อาศัยอยู่ในห้อง เป็นชายที่ยังไม่ปรากฏสัญชาติตามภาพสเก็ตช์อีกหนึ่งคน”

ผลการตรวจค้นปรากฏว่า เจ้าหน้าที่พบดินดำที่อาจใช้เป็นระเบิดหลัก ปุ๋ยยูเรียที่สามารถนำไปขยายแรงระเบิด รถบังคับวิทยุที่คาดว่าผู้ร้ายจะนำไปใช้จุดระเบิดจากระยะไกล น็อตทั้งตัวผู้และตัวเมีย ที่สามารถนำไปใช้ทำสะเก็ดระเบิดได้ หลอดไฟที่อาจจะทำเป็นตัวจุดชนวนได้ รวมทั้ง นาฬิกาที่อาจใช้เป็นตัวตั้งเวลาระเบิด

ไม่ใช่แพะ

ทางด้าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในระหว่างเดินทางมาประชุมติดตามสถานการณ์ ที่ศูนย์ติดตามสถานการณ์ คณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ กรมทหารราบที่หนึ่ง มหาดเล็กรักษาพระองค์ ว่า บุคคลต่างชาติที่เจ้าหน้าที่จับได้ตั้งแต่วันศุกร์นั้น ไม่ได้เป็นแพะแน่นอน

“เรายืนยันว่าไม่ใช่การจับแพะ” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในวันจันทร์นี้

การจับกุมมาจากความพยายามในการสืบสวนของฝ่ายความมั่นคงผ่านพยานหลักฐานที่ได้รับ พลเอกประวิตร กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในระหว่างแถลงข่าวทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า "เจ้าหน้าที่ยืนยันยังไม่สรุปหรือตัดประเด็นใดๆทิ้งจนกว่าจะได้องค์ประกอบทางด้านพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล วัตถุพยาน และผลพิสูจน์ทางด้านนิติวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนประกอบการทำคดีให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด”

ทางการตุรกีพร้อมให้ความร่วมมือทางการไทย

ตามที่มีรายงานข่าวในเบื้องต้นว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมในวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นชายต่างชาติ อายุ 28 ปี ถือหนังถือเดินทางสัญชาติตุรกีปลอม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ค้นพบหนังถือเดินทางปลอมอีกร่วมสิบเล่มในที่พัก ทางสถานทูตตุรกีในประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์มีข้อความว่า “ประเทศตุรกีมีจุดยืนในการต่อต้านการก่อการร้ายในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด มาจากที่ใดๆ หรือด้วยแรงจูงใจใดๆ ก็ตาม ประเทศตุรกีจะต่อสู้กับการก่อการร้าย”

“ส่วนที่มีการคาดการณ์ของรายงานข่าวต่างๆ ว่า เชื่อมโยงว่ามีบุคคลชาวตุรกีเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดพระพรหมเอราวัณนั้น ประเทศตุรกี ได้แจ้งจุดยืนในการต่อต้านการก่อร้าย ไปยังสถานทูตไทยในกรุงแองการ่าแล้ว และได้แสดงความพร้อมที่จะให้การร่วมมือกับทางการไทย หากว่าทางการไทยมีหลักฐานยืนยันได้อย่างแน่นหนาตามที่มีการคาดการณ์ ทางสถานทูตตุรกีได้มีการติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศของไทยในกรุงเทพในเรื่องนี้แล้วด้วย”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง