คนขับแท็กซี่ไทย เคสแรกไวรัสโคโรนากระจายจากคนสู่คน : สธ.ยืนยัน

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2020.01.31
กรุงเทพฯ
200131-TH-CH-virus-1000.jpg เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายของนักท่องเที่ยวจีน ขณะรอเที่ยวบินกลับเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ วันที่ 31 มกราคม 2563
เอพี

ในวันศุกร์นี้ กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า คนขับรถแท็กซี่ชาวไทยซึ่งเชื่อว่า รับผู้โดยสารชาวจีน ติดเชื้อไวรัส​โคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 1 ราย นับเป็นการติดต่อจากคนสู่คนเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และนอกจากรายนนี้แล้ว ยังพบผู้ติดเชื้อชาวจีนในประเทศไทยเพิ่มอีกจำนวน 4 ราย จากยอดเมื่อวันอังคาร ทำให้ยอดสะสมในประเทศไทยเพิ่มเป็น 19 รายแล้ว

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวที่กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า นับจากวันอังคารที่ผ่านมา ในวันนี้ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 5 ราย ในนั้นเป็นคนขับแท็กซี่ชาวไทย 1 ราย และมีการเฝ้าระวังผู้ที่เสี่ยงติดเชื้ออีกเกือบ 300 ราย

“คณะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่ออุบัติใหม่สามด้าน คลีนิก ระบาดวิทยา ปฏิบัติการ มีการประชุม แล้วก็สรุปยืนยัน ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 วันนี้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่ม 5 ราย รวมเป็น 19 ราย ขณะนี้กลับบ้านได้ 7 ราย เหลือรักษาตัวอีก 12 ราย ซึ่งทุกรายมีอาการดีขึ้น” นายแพทย์สุขุม กล่าว

“ผู้ป่วยที่ยืนยันรายใหม่ เป็นชาวจีน 4 ราย มีประวัติเดินทางมาจากมณฑลเหอเป่ย เมืองอู่ฮั่น และคนไทย 1 ราย เป็นผู้ป่วยคนไทยรายแรก ที่ไม่มีประวัติเดินทางไปจีน ที่เราพบเพราะว่า เราขยายการตรวจคนที่แม้ไม่มีประวัติไปจีน แต่ทำงานเกี่ยวข้องกับคนจีน เราก็นำมาตรวจ” น.พ.สุขุม กล่าว

นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า คนขับรถแท็กซี่ซึ่งติดเชื้อ ไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศจีน จึงถูกตั้งข้อสงสัยว่าจะติดเชื้อจากผู้เดินทางที่เป็นชาวจีน ซึ่งคณะแพทย์พยายามติดตามไปยังแหล่งต้นตอของโรคพบว่า ต้นตอโรคน่าจะมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีน

“สิ่งที่น่ากังวล คือ เมื่อแท็กซี่รายดังกล่าวได้รับเชื้อแล้ว สัมผัสใครบ้าง ซึ่งเราได้ตรวจผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงทั้งหมด 13 คนแล้ว เบื้องต้นไม่พบการติดเชื้อ โดยผู้สัมผัสเป็นคนในครอบครัว 3 คน เป็น ภรรยา ลูก และหลาน และผู้สัมผัสอื่น 10 คน ตั้งแต่ตรวจพบ (คนขับ) ก็หยุดพักไม่ได้ไปทำงาน หลังจากที่เขาป่วย เขาหยุดขับรถ” นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าว

ในวันเดียวกันนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส​โคโรนา สายพันธุ์ใหม่ เป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก” โดย นายแพทย์ เทดรอส อัดดานอม เกรเบเยซัส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า การประกาศภาวะฉุกเฉิน จะทำให้รัฐบาลทั่วโลกเพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ทำให้สาธารณชนตระหนักว่า สถานการณ์นี้เป็นเรื่องท้าทายสำหรับทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีรายได้น้อย และจะเปิดทางให้องค์การอนามัยโลก สามารถร่วมงานกับรัฐบาลทั่วโลกได้อย่างเต็มที่ เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ในครั้งนี้

ปัจจุบัน ฐานข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 9,776 ราย เสียชีวิตแล้ว 213 ราย รักษาหายแล้ว 187 ราย มีการพบผู้ติดเชื้อใน 20 ประเทศ และ 3 เขตปกครองพิเศษของจีน โดยประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ ประเทศจีน 9,658 ราย รองลงมา คือ ไทย ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ไต้หวัน มาเลเซีย และอื่นๆ

ในส่วนการช่วยเหลือชาวไทยที่ติดค้างในอู่ฮั่นนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุ รัฐบาลได้ประสานสายการบินแอร์เอเชียเตรียมพร้อมเพื่อรับคนไทยในเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีนกลับแล้ว รอเพียงรัฐบาลจีนอนุญาต

“(จีน) เขาบอกให้เราสแตนบาย ถ้าเขาพร้อมขอให้เราไปได้เลย ซึ่งวันนี้เราสแตนบายทุกอย่างพร้อมหมดแล้วทั้งทีมแพทย์ ทั้งเจ้าหน้าที่บุคลากรที่จะไปรับพี่น้องประชาชนที่อู่ฮั่นกลับมา… ไม่นานแน่นอน"

"วิธีการที่จะทำให้เกิดความรวดเร็วที่สุด ในการนำลูกหลานคนไทยกลับมาจากอู่ฮั่น คือ ต้องใช้สายการบินแอร์เอเชีย เพราะเป็นสายการบินเดียวที่มีเส้นทางกรุงเทพ-อู่ฮั่น ได้มีการพูดคุยกับประธานสายการบินแอร์เอเชีย โทนี่ เฟอร์นานเดซ ยืนยันความพร้อมที่จะไปรับผู้โดยสาร โดยให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยอย่างเต็มที่ สนับสนุนค่าใช้จ่ายทุกอย่างไม่คิดเงินรัฐบาล” นายอนุทิน กล่าว

สำหรับ เครื่องบินที่จะใช้นำไปรับคนไทยที่เมืองอู่ฮั่นนั้น คือเครื่องบินแอร์บัส รุ่น เอ 320 ความจุ 180 ที่นั่ง ซึ่งเพียงพอสำหรับคนไทยที่ประสงค์จะกลับ 161 คน ทั้งนี้ ปัจจุบัน เมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองเดียวของจีนที่ถูกห้ามเครื่องบินบินเข้าออก ดังนั้นคนไทยที่อยู่ในเมืองอื่นๆ ของจีน จึงสามารถบินกลับไทยได้เองหากมีความต้องการ

ปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ แต่ผู้ติดเชื้อกลุ่มแรก ส่วนใหญ่ทำงานในตลาด หรือมีประวัติเดินทางไปที่ตลาดค้าอาหารทะเลและสัตว์ป่า ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการค้าสัตว์หลายชนิด เช่น นก ไก่ฟ้า งู เครื่องในกระต่าย และสัตว์ป่าอื่นๆ เบื้องต้นจึงเชื่อว่า ไวรัสชนิดนี้้มีต้นตอจากสัตว์ โดยมาตรการแก้ปัญหา ปัจจุบัน จีนได้ส่งบุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศไปยังเมืองอู่ฮั่นราว 1 หมื่นคน และมณฑลเหอเป่ย ได้เปิดศูนย์การแพทย์พิเศษเพิ่ม 70 แห่ง เพื่อรองรับการดูแลผู้ติดเชื้อแล้ว

ในวันเดียวกัน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยแก่สื่อมวลชนว่า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) รัฐบาลได้เตรียมแผนรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่แล้ว โดยมาตรการระยะสั้น อาจมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน ปรับลดค่าธรรมเนียมท่าอากาศยาน ลดหย่อนภาษีการจัดสัมมนาในประเทศ 2 เท่า เลื่อนระยะเวลาจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด เตรียมวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะเสนอให้มีการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี สัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า ไทยจะสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยว ประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมายังประเทศไทย 10.99 ล้านคน ซึ่งก่อนการระบาด ปีนี้ มีการประเมินว่านักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมายังไทยราว 11.1-11.3 ล้านคน แต่ด้วยสถานการณ์ระบาดจึงคาดว่า นักท่องเที่ยวจีนจะหายไปประมาณ 2 ล้านคน เหลือประมาณ 9.1-9.3 ล้านคน ตลอดทั้งปี

โดย นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังได้ระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีโอกาสที่มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของไทยจะขยายตัวต่ำกว่า 2.8 % ซึ่งเป็นตัวเลขเดิมที่ประเมินไว้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง