สธ. พบผู้ป่วยโคโรนาเพิ่ม 6 ราย ส่วนไทย 138 คน กลับจากอู่ฮั่นแล้ว
2020.02.04
กรุงเทพฯ

ในวันอังคารนี้ เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่ม 6 รายแล้ว ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศไทยมี 25 ราย นับจากเมื่อสิ้นเดือนมกราคม และในตอนค่ำวันนี้ คนไทย 138 ราย ที่ติดค้างอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว แต่จะถูกกักบริเวณเฝ้าระวังโรคที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นเวลา 14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ติดเชื้อ
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวว่า ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่มอีก 6 ราย และในนั้นเป็นคนไทยถึง 4 ราย ซึ่งทางการไทยพบผู้ป่วยที่ยืนยันว่าติดเชื้อที่รักษาตัวในโรงพยาบาลรวม 17 ราย กลับบ้านแล้ว 8 ราย
“ยืนยัน ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 6 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 4 ราย 2 ราย เป็นสามี-ภรรยา มีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น อีก 2 ราย เป็นผู้ขับขี่รถรับจ้างไม่ประจำทาง ซึ่งรับผู้โดยสารชาวจีน ส่วนอีก 2 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน”
“ผู้ป่วย 5 ใน 6 ราย ที่แถลงวันนี้ อาการดีขึ้น เมื่อผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นลบ ก็จะอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล” นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าว
ต่อกรณีข่าวที่ว่า มีคนเกาหลีติดเชื้อ หลังจากเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยนั้น นายแพทย์สุวรรณชัย ระบุว่า ทางการไทยได้ติดต่อขอข้อมูลจากทางการเกาหลีแล้ว
“กรณี ข่าวชาวเกาหลีใต้ที่ป่วยหลังจากกลับไทย ประสานงานไปยังประเทศเกาหลีใต้ ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอข้อมูลกลับจากกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ เพื่อรวมรวมข้อมูลสอบสวนโรค เบื้องต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา และระบาดวิทยาของประเทศไทย ได้ให้ความเห็นทางวิชาการว่า กรณีนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการติดโรคจากประเทศไทยหรือไม่ เนื่องจากทั้งไทยและเกาหลีใต้ มีการพบผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศ... ประเทศไทยขณะนี้ยังคงมาตรการอย่างเข้มข้น” นายแพทย์สุวรรณชัย ระบุ
ทั้งนี้ ประเทศไทยพบการติดต่อของไวรัสโคโรนาจากคนสู่คนครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งคาดว่าคนขับแท็กซี่ชาวไทยติดเชื้อมาจากผู้โดยสารชาวจีน
พลเมืองไทย 138 ราย กลับบ้านจากอู่ฮั่น
ในวันเดียว คณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ไทยรวม 14 คน ได้เดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองในช่วงเช้า เพื่อไปรับคนไทย 138 คนจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน หลังเกิดวิกฤตเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ระบาด จนมีผู้ติดเชื้อกว่า 2 หมื่นรายในประเทศจีน โดยคณะแพทย์และชาวไทยทั้งหมดได้เดินทางกลับมาถึง ท่าอากาศยานอู่ตะเภา จังหวัดระยอง เมื่อเวลาประมาณสามทุ่ม
โดยทั้งหมดจะถูกเชิญไปเฝ้าสังเกตอาการในพื้นที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมั่นใจว่า ทั้งหมดปลอดการติดเชื้อจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยการเฝ้าสังเกตอาการครั้งนี้ จะไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยม แต่สามารถติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ได้
ทั้งนี้ กองทัพเรือได้ตั้งกองอำนวยการร่วมเพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์โรคติดต่อ ที่โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ในฐานทัพเรือสัตหีบ โดยจัดที่พัก ห้องแถลงข่าว อาคารรับรองสัตหีบ สวัสดิการอาคารรับรอง กองทัพเรือ บริเวณอ่าวดงตาล เป็นพื้นที่ควบคุม จำนวน 5 อาคาร สามารถรองรับคนไทยที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ขณะนี้ได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งห้องพัก อาหาร ทีมแพทย์ สามารถรองรับการเข้าพักเฝ้าสังเกตอาการจนกว่าจะครบ 14 วัน
ปัจจุบัน ฐานข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 20,677 ราย เสียชีวิตแล้ว 427 ราย รักษาหายแล้ว 697 ราย มีการพบผู้ติดเชื้อใน 24 ประเทศ และ 3 เขตปกครองพิเศษของจีน โดยประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ ประเทศจีน 20,483 ราย รองลงมา คือ ไทย 25 ราย ญี่ปุ่น 20 ราย สิงคโปร์ 18 ราย ฮ่องกง 17 ราย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย อเมริกา ไต้หวัน และประเทศอื่นตามลำดับ
รมต. ท่องเที่ยวคาดโคโรนาระบาด อาจกระทบรายได้ท่องเที่ยวถึง 3 แสนล้านบาท
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ครั้งที่ 1/2563 วานนี้ว่า ไทยอาจสูญเสียรายได้ถึง 3 แสนล้านบาท จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีขออนุมัติวงเงิน 5 ร้อยล้านบาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว
“เบื้องต้นหากกระตุ้นไม่ทัน ไทยจะสูญเสียรายได้ 3 แสนล้านบาท แต่ถ้าเหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายและการท่องเที่ยวกลับมาได้เร็วขึ้น การสูญเสียอาจไม่ถึง 3 แสนล้านบาท แต่หากไม่สามารถยุติไวรัสโคโรนาได้และต้องลากยาวไปการเสียหายอาจมากกว่า 3 แสนล้านบาทก็ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นปัจจัยไม่สามารถกำหนดได้” นายพิพัฒน์ ระบุ
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ ระบุ สมมติฐานที่อาจทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบ 4 สมมติฐาน ดังนี้ กรณีที่ 1 จีนห้ามเดินทางตั้งแต่ มกราคม-มีนาคม 2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 1.47-1.98 ล้านคน รายได้จะหายไป 6.7-9.1 หมื่นล้านบาท กรณีที่ 2 จีนห้ามเดินทางตั้งแต่ มกราคม-เมษยน 2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 2.16-2.83 ล้านคน รายได้จะหายไป 0.99-1.3 แสนล้านบาท, กรณีที่ 3 จีนห้ามเดินทางตั้งแต่ มกราคม-มิถุนายน 2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 3.23-4.37 ล้านคน รายได้จะหายไป 1.48-2.01 แสนล้านบาท และกรณีที่ 4 จีนห้ามเดินทางตั้งแต่ มกราคม-กันยายน 2563 จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 5.21-7.07 ล้านคน รายได้จะหายไป 2.4-3.25 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ที่จังหวัดภูเก็ตมีรถทัวร์ท่องเที่ยวที่ไม่ได้ให้บริการ หลังจากการยกเลิกทัวร์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนถึง 1.2 พันคัน ขณะเดียวกัน การจองโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ของนักท่องเที่ยวจีนถูกยกเลิกทั้งหมด ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2563 ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ได้ประกาศพักชำระหนี้สำหรับลูกค้าซึ่งทำธุรกิจส่งออกเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากที่การส่งออกได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่