อู่ตะเภาตรวจพบทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช และนนทรัฐ ไผ่เจริญ
2020.07.13
กรุงเทพฯ
200713-TH-COVID-egypt-1000.jpg ผู้คนขณะเดินทางบนสะพานคนเดิน ในกรุงเทพฯ ขณะที่ประเทศไทยยังคงมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 วันที่ 8 กรกฎาคม 2563
เอเอฟพี

ในวันจันทร์นี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ได้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นทหารอียิปต์ที่บินมาลงสนามบินอู่ตะเภา และเข้าพักที่โรงแรมในจังหวัดระยอง โดยไม่ได้กักตัว เนื่องจากได้รับข้อยกเว้น แต่กลับออกนอกสถานที่ ไปยังสถานที่อื่น ๆ โดยที่รัฐบาลไม่ยอมเปิดเผยชื่อสถานที่เหล่านั้น ทำให้ประชาชนเกิดความกังวลว่า จะมีเกิดการระบาดของโรคโควิดอีกครั้ง

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า เป็นวันที่ 49 แล้ว ที่ไทยไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 จากการติดต่อกันในประเทศ ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในวันนี้ มีสามราย (ยังไม่นับรวมกรณีที่เกี่ยวเนื่องกับครอบครัวนักการทูตซูดาน)

“รายที่สาม คนสัญชาติอียิปต์ อายุ 43 ปี เป็นทหาร เดินทางมาวันที่ 8 กรกฎาคม เข้าพักสเตทควอรันทีน ที่จังหวัดระยอง วันที่ 9 ออกจากโรงแรมไปทำภารกิจทางทหารที่ประเทศจีนกลับมาในวันเดียวกันเข้าพักที่โรงแรมแห่งเดิม ผลตรวจวันที่ 10 (กรกฎาคม 2563) พบเชื้อ วันที่ 11 กรกฎาคม เขาเดินทางกลับไปยังประเทศที่เขามา ผลตรวจออกในวันที่ 12 ก็เลยมารายงานในวันนี้… จากทีมสอบสวนพบว่า ทีมลูกเรือได้ออกจากโรงแรมไปยังสถานที่บางแห่งในจังหวัดระยอง จะต้องได้รับการสอบสวนโรคในพื้นที่สัมผัสทุกแห่งที่ทางกลุ่มนี้เดินทางไป เช่น ห้างสรรพสินค้าบางแห่งในจังหวัดระยอง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทาง ศบค. ไม่มีนโยบายที่จะเปิดเผยชื่อโรงแรมและสถานที่อื่น ๆ ที่นายทหารอียิปต์ที่เดินทางมาด้วยเครื่องบินของรัฐกับคณะ รวม 31 คน เดินทางไปในช่วงสามวันระหว่างที่อยู่ในเมืองไทย

ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยแก่สื่อมวลชนถึงรายชื่อพื้นที่เสี่ยง 3 จุด ในจังหวัดระยอง ซึ่งทหารอียิปต์เดินทางไป ประกอบด้วย ห้างแหลมทอง ห้างเซ็นทรัล และโรงแรมดีวารี เซ็นทรัล โดยระบุว่า ทหารอียิปต์รายดังกล่าว เดินทางไปยังห้างสรรพสินค้า ระหว่างเวลา 11.00-15.00 น. ของวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 โดยถือเป็นการขัดคำสั่งของจังหวัดที่ให้กักตัว ขณะที่มีรายงานว่า เครื่องบิน ซี-130 ของอียิปต์ ได้รับสิทธิพิเศษตามข้อตกลงพิเศษทางทหาร

หลังมีรายงานข่าว นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยองเป็นการด่วน เพื่อดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดระยอง

“ทางจังหวัดได้สั่งการให้ ทีมสอบสวนโรคของสาธารณสุขจังหวัดสอบสวนข้อเท็จจริงในที่พักของกลุ่มทหาร ขณะนี้ยังดำเนินการสอบสวนอยู่ ยังไม่มีการระบุว่า มีผู้ที่จะเสี่ยงในการติดกี่ราย หรือไม่อย่างไร เบื้องต้น กรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้ให้โรงแรมปิดพื้นที่ห้องพักชั้นบนสุด รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง” นายสุรศักดิ์ กล่าวแก่สื่อมวลชน

ซึ่งต่อมา โรงแรมดีวารี เซ็นทรัล ระยอง ได้ออกประกาศว่า ขณะนี้ไม่พบพนักงานโรงแรมติดเชื้อ และทางผู้เข้าพักได้ผ่านการคัดกรองจากสถานทูตก่อนหน้านี้

ในวันเดียวกัน ยังมีรายงานว่าเทศบาลเมืองระยองได้สั่งการให้ปิดโรงเรียนในพื้นที่แล้ว 10 โรงเรียน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ด้าน พล.ร.ท.กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานอู่ตะเภา จังหวัดระยอง กล่าวถึงกรณีเดียวกันแก่สื่อมวลชนว่า คณะทหารอิยิปต์ซึ่งเข้าพักที่โรงแรมในจังหวัดระยอง 31 ราย คาดว่ามีเพียงหนึ่งรายที่หนีออกจากที่พัก อย่างไรก็ตามชี้แจงว่า ผู้โดยสารจากประเทศอิยิปต์ทั้ง 31 คน มิได้ใช้ท่าอากาศยานปะปนกับผู้โดยสารปกติ เนื่องจากเป็นการเข้าประเทศแบบพิเศษ ที่ผ่านการประสานโดยกระทรวงการต่างประเทศ

เหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกวิจารณ์จากประชาชนทางโซเชียล ถึงการใช้สองมาตรฐาน โดยรับบาลไทยเข้มงวดกับประชาชนของตนเองเท่านั้น

“กลไกการทำงานของรัฐบาลไทยไม่น่าไว้วางใจ เพราะมีการเกรงใจต่างชาติ เป็นโครงสร้างการทำงานที่มีชนชั้นพิเศษอยู่เสมอ” นายกัษณะ ลาชโรจน์ พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

อนึ่ง ในวันนี้ มีผู้ติดเชื้อ 3 ราย ทำให้ตัวเลขรวมสะสมอยู่ที่ 3,220 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม (คงที่ 58 ราย) ประกอบด้วย 1. ชายไทย อาชีพรับจ้าง กลับจากประเทศคูเวต เข้าพักในสถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563  2. หญิงไทย อายุ 22 ปี อาชีพรับจ้าง กลับจากประเทศบาห์เรน เข้าพักในสถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2563 และรายที่ 3 เป็นทหารอียิปต์รายดังกล่าว

เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ในคณะทูตซูดานติดเชื้อ

นอกจากนั้น ในวันนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงข้อมูลเดิมที่ ศบค. เคยรายงานเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ว่า วันดังกล่าวพบผู้ติดเชื้อ 14 ราย ในสถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้นั้น ระบุข้อมูลใหม่ว่า ในนั้นมีเด็กหญิงชาวซูดาน 1 ราย ซึ่งมากับคณะทูตฯ ของซูดาน ถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 และไม่ได้เข้าพักในสถานกักกันโรคฯ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ได้รับยกเว้นการกักตัวตามมาตรการของ ศบค.

“เด็กหญิงอายุ 9 ปี ที่เดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกา ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับครอบครัวของคณะทูต มารดานำผู้ป่วยและครอบครัวรวม 5 คน ตรวจเชื้อก่อนเดินทางที่ประเทศซูดาน ผลตรวจไม่พบเชื้อ ถึงไทยวันที่ 10 กรกฎาคม ในวันนั้นก็ลงมาแล้วก็มาตรวจ ผลคัดกรองไม่มีอาการ เก็บตัวอย่างส่งตรวจก็พบว่า พบเชื้อ ครอบครัวก็นำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ ก็พบเชื้อ แต่ได้นำสมาชิกที่เหลือไปพำนักที่คอนโดแห่งหนึ่งใน กทม. รายนี้ ถือเป็นผู้ที่อยู่ในคณะทูตฯ กงสุล หน่วยงานระหว่างประเทศ เราให้เกียรติให้ท่านได้อยู่ในสถานทูตท่าน ถือเป็นการกักบริเวณ ซึ่งเป็นพื้นที่ของท่าน” นพ.ทวีศิลป์ ระบุ

ทั้งนี้ ศบค. เปิดเผยข้อมูลว่า มีผู้ป่วยยืนยันสะสมที่พบในสถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้ 283 คน โดยเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศ อินโดนีเซีย 70 คน คูเวต 46 คน ซาอุดิอาระเบีย 28 คน อินเดีย 22 คน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 21 คน และที่เหลือมาจากประเทศอื่น

เมื่อวานนี้ ด้าน ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้บริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีน CU-Cov19 ว่ามีความคืบหน้าไปเป็นอย่างดี ในขั้นตอนการทดลองในลิง จากนั้น ในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า จะมีการทดลองในคน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง