นายกฯ จะใช้วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท สู้โควิด-19

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2020.04.07
กรุงเทพฯ
200407-TH-COVID-economy-1000.jpg แรงงานกัมพูชายิ้ม ขณะบรรจุหมากพลู ในตลาดดอกไม้ปากคลองตลาด กรุงเทพฯหนึ่งวันก่อนที่รัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิว 1 เมษายน 2563
ภิมุข รักขนาม/เบนาร์นิวส์

ในวันอังคารนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม. ระบุว่า รัฐบาลได้ยกการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ โดยเตรียมที่ใช้วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อใช้สำหรับแก้ไขปัญหา และเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นในปีนี้ รวมถึงจะมีการดึงงบประมาณจากกระทรวงต่างๆ มาเป็นงบกลางเพื่อใช้จ่ายด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID – 19) โดยประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก

“วันนี้ เราได้ประกาศให้โควิดเป็นวาระแห่งชาติไปแล้วนะครับ หารือกันอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรก ปรับการจัดทำ พ.ร.บ. การโอนงบประมาณ ปี 63 เพื่อนำเงินส่วนนึงกลับมาใช้ในระบบ ให้มาเติมที่งบกลางให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่า ประมาณซักแปดหมื่นถึงหนึ่งแสนล้านบาท นี่คือก้อนแรกที่จะมาเพิ่มเติมในงบกลางที่เหลืออยู่ปัจจุบัน ประมาณสัก 3 พันล้านบาทเท่านั้นเอง คาดว่า จะมีผลบังคับใช้ในต้นเดือนมิถุนายน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

“พ.ร.ก. ธปท. ไม่ได้กู้เงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยมีวงเงินของเขาสัก 9 แสนล้าน ได้ใช้เงินของรัฐบาล.. พ.ร.ก เงินกู้ เราตั้งวงเงินไว้ทั้งหมด 1 ล้านล้านบาท ในส่วนที่ 1 จะมีการเยียวยา การสาธารณสุข ประมาณ 6 แสนล้านบาท ส่วนที่ 2 อีก 4 แสนล้านบาท ฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวหลังประชุม ครม. ระบุว่า ครม. มีมติเห็นชอบให้จัดทำ พ.ร.บ. โอนงบประมาณ ปี 2563 ซึ่งจะทำให้สามารถดึงงบประมาณจากระทรวงต่าง ๆ มาเป็นกลางสำหรับบริหารจัดการปัญหาโควิด-19 ราว 8 หมื่น-1 แสนล้านบาท นอกจากการโอนงบประมาณแล้ว ยังมีความเห็นชอบให้จัดทำ พ.ร.ก. กู้เงินเพื่อการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1. แผนงานด้านสาธารณสุข และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ คือ เยียวยาประชาชน 6 เดือน เยียวยาเกษตรกร และดูแลด้านสาธารณสุข รวม 6 แสนล้านบาท 2. แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม คือ สนับสนุนความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชน สนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระดับพื้นที่ รวม 4 แสนล้านบาท

พ.ร.ก. ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย ออกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อดูแลภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ประกอบด้วย 1. สินเชื่อใหม่สำหรับเอสเอ็มอี 5 แสนล้านบาทดอกเบี้ย 2 เปอร์เซ็นต์ 2. ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจ พักชำระหนี้ทั้งต้นและดอก 6 เดือน สำหรับเอสเอ็มอี และ พ.ร.ก. ดูแลเสถียรภาพภาคการเงิน โดยตั้งกองทุนรวมโดยให้ธนาคารแห่งประเทศไทยซื้อขายหน่วยลงทุน ในกองทุนดังกล่าววงเงิน 4 แสนล้านบาท

ในวันเดียวกัน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เปิดเผยว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น แต่ถือเป็นเรื่องน่าดีใจ ที่อัตราการเพิ่มขึ้นของวันนี้ต่ำกว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ผู้ป่วยใหม่ 38 ราย สะสมวันนี้ 2,258 ราย ใน 66 จังหวัด แล้วก็หายป่วย 824 ราย เสียชีวิต 27 ราย เพิ่มเติมขึ้นมา 1 ราย เป็นผู้ป่วยชายอายุ 54 ปี ไม่มีโรคประจำตัว แต่ก่อนหน้านี้ไปงานเลี้ยงสังสรรค์หลายที่ ที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม ด้วยอาการเหนื่อย ไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผลเอ็กซ์เรย์พบว่า มีปอดอักเสบอย่างรุนแรง และเสียชีวิตเมื่อวานนี้ 6 เมษายน ด้วยระบบทางเดินหายใจล้มเหลว” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า ผู้ติดเชื้อใหม่ที่พบแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่พบผู้ป่วยก่อนหน้า 17 ราย ผู้ป่วยกลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 16 ราย ในนั้นเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 5 ราย

นพ.ทวีศิลป์ ได้เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมีมาตรการให้ประชาชนงดออกจากเคหสถาน หลังเวลา 22.00 น. ในวันที่ 4 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่พบการฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 1,293 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตักเตือน 246 ราย และดำเนินคดี 1,047 ราย

ในวันเดียวกัน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. มีมติ ให้สถานศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่หนึ่ง ปีการศึกษา 2563 จากวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563

ทั้งยัง มีมติให้ ยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามา เพื่อใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไม่ว่าจะอยู่ในพิกัดประเภทใด โดยให้มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563

ขณะที่ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ป่วยโควิด-19 รวม 1,360,039 คน มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อยใน 184 ประเทศ มีผู้เสียชีวิต 75,973 คน รักษาหายแล้ว 291,991 คน ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด คือ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส และอังกฤษ เป็นต้น

ประเทศที่มีผู้ป่วยมากที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลี เยอรมนี และประเทศอื่น ๆ ตามลำดับ โดยองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในขั้นโรคระบาดใหญ่ หรือ Pandemic แล้ว

ผู้ใหญ่บ้านในสุราษฎร์ธานียิงพระ-ชาวบ้านเสียชีวิต อ้างแหกกดเคอร์ฟิว

เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันพุธ เกิดเหตุผู้ใหญ่บ้านใช้อาวุธปืนยิงพระสงฆ์ 1 รูป และชาวบ้าน 1 คน เสียชีวิต หลังจากฝ่าฝืนเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น. ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดย พ.ต.อ.ฐิติวัชร์ สุฐิติวนิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าชนะ เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

“มานพ โกปิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ตำบลสมอทอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ควบคุมตัวนายชัยสิทธิ์ อินทสุต และพระชลธาร ถาวโร พร้อมรถกระบะและอุปกรณ์จับผึ้ง เขาไปตีผึ้ง ช่วงที่อยู่ข้อกำหนดห้ามออกจากเคหะสถาน แล้วก็เกิดมีปากเสียงกัน ต่อมานายชัยสิทธิ์ และพระชลธาร ถูกนายมานพยิงเสียชีวิต รายละเอียดมันอยู่ในระหว่างคดี ต้องสอบสวนปากคำก่อน ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย” พ.ต.อ.ฐิติวัชร์ ระบุ

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงานข่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง