ไทยเข้มงวดชายแดน หวั่นแรงงานติดเชื้อมาจากมาเลเซีย

มารียัม อัฮหมัด และ มาตาฮารี อิสมาแอ
2020.08.12
จังหวัดชายแดนใต้
200812-TH-COVID-south-border-650.jpg แรงงานไทยที่กลับจากประเทศในมาเลเซีย เดินซื้อของบริเวณด่านวังประจัน ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ก่อนเดินทางกลับบ้านเกิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดือนมิถุนายน 2563
เบนาร์นิวส์

ในวันพุธนี้ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดน และสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดต่อการหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวและแรงงานชาวไทย ที่จะลักลอบกลับมา เพราะผลกระทบทางเศรษฐกิจของโรคโควิด-19 ซึ่งในช่วงนี้มีรายงานว่าในฝั่งมาเลเซียมีผู้ติดเชื้อใหม่อีกกว่ายี่สิบราย

ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ได้ประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่ด่านศุลกากรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา และในวันพุธนี้ยังได้ลงพื้นที่ โดยได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยดีขึ้นมาก ไม่พบการแพร่ระบาดภายในประเทศ เพราะทุกฝ่ายช่วยกันดำเนินการตามมาตรการควบคุมป้องกันของ ศบค. และรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง

“แต่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย พบว่ามีการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้น และเป็นพื้นที่ติดกับชายแดนภาคใต้... ยังมีช่องทางธรรมชาติที่สามารถลักลอบเข้าประเทศไทยได้ โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามา จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมวางแนวทางในการป้องกัน โดยเฉพาะมาตรการการป้องกันขนส่งรถสินค้าจากมาเลเซียเข้ามาประเทศไทย ตลอดจนการสกัดกั้นป้องกันแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง ผ่านช่องทางตามแนวชายแดน ซึ่งมักจะมีกลุ่มนายหน้าทั้งฝั่งไทยและมาเลย์ดำเนินการนำเข้ามา” พลโทพรศักดิ์ กล่าว

พลโทพรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้ได้ให้ตรวจคนเข้าเมือง กองกำลังเทพสตรี และตำรวจ ประสานการทำงานกัน และดำเนินการกับกลุ่มนายหน้าที่ลักลอบนำพาแรงงงาน ซึ่งผลการปฏิบัติงาน ในห้วงวันที่ 1 เมษายน 2563 จนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฏหมาย จำนวน 62 ราย และคนไทย จำนวน 109 ราย พร้อมทั้งได้ดำเนินการคัดกรองโรคจากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศสะเดา และส่งกักตัว 14 วัน ณ สถานีตำรวจภูธรสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อรอดำเนินคดีตามกฎหมาย และผลักดันกลับประเทศต่อไป

ด้าน นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่า มีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ระลอกใหม่ในประเทศมาเลเซีย ภายในรัฐเคดาห์ และรัฐปะลิส โดยมีพื้นที่การแพร่ระบาดดังกล่าวอยู่ห่างจากด่านพรมแดนสะเดาประมาณ 18 กิโลเมตร มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ประมาณ 25 คน จึงได้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ เพื่อสกัดกั้นการกระทำผิดตามกฏหมาย และป้องกันการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนของประชาชนชาวไทย และบุคคลต่างด้าวที่ยังตกค้างในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่สามารถเดินทางออกมาได้

การดำเนินงานที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ได้ดำเนินการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในพื้นที่ช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย จัดตั้งจุดตรวจ-จุดสกัดแบบประจำที่ และไม่ประจำที่ ตามเส้นทางที่เป็นคมนาคมสำคัญ ที่จะเคลื่อนที่เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศได้ โดยพื้นที่ปฏิบัติการ คือพื้นที่แนวชายแดนด้านจังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลาติดต่อกับรัฐปะลิส และรัฐเคดาห์ ของประเทศมาเลเซีย แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ ประกอบด้วย พื้นที่ปฏิบัติการที่ 1 จังหวัดสตูล, พื้นที่ปฏิบัติการที่ 2 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และพื้นที่ปฏิบัติการที่ 3 อำเภอนาทวีและอำเภอสะบ้าย้อย

จากเวบไซต์ กรมสาธารณสุขของมาเลเซีย ในวันพุธนี้ มีการรายงานจำนวนสะสมของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในทั้งสามรัฐของมาเลเซียที่มีแนวชายแดนติดต่อกับไทย คือ รัฐปะลิส 30 ราย รัฐเคดาห์ 134 ราย และรัฐกลันตัน 160 ราย

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง