เจ้าของเรือซิลเวอร์ซี 2 ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากอินโดนีเซีย 4,750 ล้านรูเปีย

นูร์ดิน ฮาซาน
2015.09.18
TH-ID-BOAT-620 เจ้าหน้าที่ทหารของอินโดนีเซียเฝ้าเรือดูเรือซิลเวอร์ซี 2 ที่จอดทอดสมออยู่ที่ฐานทัพเรือซาบัง บนเกาะเวย์ วันที่ 14 ส.ค. 2558
ภาพโดย ราดซี่: เบนาร์นิวส์

เจ้าของเรือสินค้าซิลเวอร์ซี 2 ได้ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลอินโดนีเซียเป็นจำนวน 4,750 ล้านรูเปีย ฐานกักเรือบรรทุกสินค้าอาหารทะเลของตนตั้งแต่เดือนสิงหาคมโดยที่ไม่สามารถแจ้งข้อหากับทางเรือได้

นายเฮนดรี่ ริไว ทนายความของเรือซิลเวอร์ซี 2 ได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวเบนาร์นิวส์ในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากปอนตินาก รัฐกลันตันตะวันตก ในวันจันทร์ (14 ก.ย.) ที่ผ่านมาว่า ลูกความของตนได้ส่งสำนวนฟ้องต่อศาลแขวงซาบังบนเกาะเวย์ ในจังหวัดอาเจ๊ะห์ไปเมื่อวันที่ 9 กันยายน

เรือซิลเวอร์ซี 2 ถูกเรือ KRI Teuku Umar ของกองทัพเรืออินโดนีเซียจับในช่องแคบมะละกา ห่างจากชายฝั่งอำเภอซาบัง ไปเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม เพราะต้องสงสัยว่าเรือซิลเวอร์ซี 2 บรรทุกปลาที่จับโดยผิดกฎหมาย ที่ถ่ายโอนขึ้นเรือมาจากเรือประมงขนาดเล็ก หรือมีศัพท์เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Transshipment

“การจับกุม การเข้ายึดเรือ และการกักเรือไว้ ไม่ได้ทำโดยสอดคล้องกับกฎหมายของอินโดนีเซีย” ทนายความเฮนดรี่ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวของเบนาร์นิวส์

ทนายเฮนดรี่ กล่าวว่า ตั้งแต่เรือซิลเวอร์ซี 2 ถูกจับกุมไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา และต้องมาจอดที่ท่าเรือซาบังเป็นเวลานับเดือน เจ้าของเรือยังไม่ทราบเลยว่าตนเองทำผิดอะไร

“การจับเรือนั้นพอเข้าใจได้ แต่ถ้าหากไม่มีการแจ้งข้อหาให้ลูกเรือทราบภายในเวลา 24 ชั่วโมง ก็ต้องปล่อยลูกเรือให้เป็นอิสระโดยอัตโนมัติ ในความเป็นจริง เขาเหล่านั้นยังไม่รู้เลยว่าตนเองถูกตั้งข้อหาอะไร แต่ทั้งเรือทั้งลูกเรือก็ยังถูกกักอยู่” ทนายความเฮนดรี่กล่าว

ทนายความไม่ได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่

นายเฮนดรี่ ยังกล่าวต่อไปว่า เข้ายึดเรือกระทำโดยปราศการจากเอกสารบันทึกการจับกุม มีการยึดเอกสารจากเรือ โดยพลการ ซึ่งไม่เป็นไปตามกระบวนการที่พึงควรของอินโดนีเซีย ทั้งกัปตันเรือ ลูกเรือ และครอบครัวไม่เคยได้รับรู้ถึงสาเหตุว่าทำไมถึงถูกจับและถูกกักตัวเลยแม้แต่น้อย

“ผมต้องขออนุญาตจากผู้บัญชาการฐานทัพเรือซาบัง เมื่อผมต้องการเข้าไปพบผู้ที่ถูกกักขังตัว ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อผมถามว่า เรือซิลเวอร์ซี 2 ทำผิดอะไร ทหารเรือที่ซาบังไม่สามารถตอบคำถามผมได้” ทนายเฮนดรี่กล่าวว่า

ในสำนวนฟ้องร้องที่เบนาร์นิวส์ได้รับมานั้น มีสาระสำคัญแสดงไว้ว่า ทางทนายได้เรียกร้องให้ศาลแขวงซาบัง มีคำสั่งให้รัฐบาลอินโดนีเซียปล่อยเรือและจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายเป็นเงิน 4,750 ล้านรูเปีย

“ผมได้รับข้อมูลจากศาลแขวงซาบังว่า ศาลจะเริ่มต้นกระบวนการพิจาณาคดีโดยจะนัดพร้อมครั้งแรกในวันที่ 21 กันยายน นี้”

นายเฮนดรี่กล่าวว่า ตามสำนวนฟ้อง มีรัฐบาลอินโดนีเซีย กองทัพเรืออินโดนีเซีย ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันตก และผู้บัญชาการฐานทัพเรือซาบัง เป็นจำเลยร่วม

พลเรือตรีอัคมัด ตอฟิค กูร์รามาน ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันตก ได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวที่อำเภอซาบัง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมว่า ในขณะถูกจับกุม มีลูกเรือไทยอยู่บนเรือรวม 19 คน และมีปลาบรรรทุกอยู่บนเรือ 2,000 ตัน

“ลูกความของเราไม่สามารถขายปลาได้ เนื่องจากว่าเรือยังคงถูกยึดอยู่” นายเฮนดรี่กล่าว และได้กล่าวย้ำว่า ปลาที่อยู่บนเรือ เป็นปลาที่จับมาจากน่านน้ำของปาปัวนิวกินี ไม่ใช่จับในน่านน้ำอินโดนีเซีย

ทนายเฮนดรี่ ได้กล่าวย้ำอีกว่า ทหารเรืออินโดนีเซียเข้ายึดเรือซิลเวอร์ซี 2 ในขณะที่อยู่ในน่านน้ำสากลโดยเรือกำลังมุ่งหน้ากลับประเทศไทยจากน่านน้ำปาปัวนิวกินี หลังจากได้โหลดสินค้า และกรอกแบบฟอร์มเอกสารที่จำเป็นต่างๆ เรียบร้อยแล้ว

ทหารเรืออินโดนีเซียพร้อมสู้คดี

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองประจำฐานทัพเรือซาบัง นาวาตรีมูฮัมหมัด อัคบาร์ ได้กล่าวอ้างถึงคำยืนยันของ นาวาเอกสุจัตมิโกะ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือซาบัง ว่า กองทัพเรือพร้อมต่อการถูกฟ้องร้องและจะสู้คดี

“การฟ้องร้องฟ้องผิดตัวเพราะว่ากองทัพเรือจับเรือซึ่งอยู่ในเป้าหมายของกระทรวงกิจการทางทะเลและการประมง ดังนั้น จึงไม่มีมูลเหตุให้ฟ้องร้องกองทัพเรือ” นาวาตรีมูฮัมหมัด กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่าน

นาวาตรีมูฮัมหมัด ยังได้กล่าวอีกว่า ฝ่ายสอบสวนของกระทรวงกิจการทางทะเลและการประมงและกองกำลังเฉพาะกิจปราบปรามการประมงเถื่อน ได้เข้ามาดำเนินกระบวนการทางกฎหมายต่อเรือซิลเวอร์ซี 2 ที่ซาบัง และได้ตีตราประทับเรือเรียบร้อยแล้ว

“เราช่วยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ จอดเรือทอดสมอที่ฐานทัพเรือซาบัง เพราะว่ากระทรวงฯ ไม่มีท่าเทียบเรือเป็นของตนเอง” นาวาตรีมูฮัมหมัดกล่าว

นาวาตรีมูฮัมหมัดบอกว่า ลูกเรือยังอยู่บนเรือ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นฝั่ง ปลาจำนวนหลายพันตันก็ยังอยู่บนเรือซิลเวอร์ซี 2

ซูซี ปูจิอัสตุติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและการประมงของอินโดนีเซียกล่าวในก่อนหน้านี้ว่า มีข้อบ่งชี้ว่าเรือซิลเวอร์ซี 2 ได้ขนถ่ายปลาที่จับในน่านน้ำอินโดนีเซียขึ้นเรือ

ในวันนี้ เบนาร์นิวส์ได้โทรศัพท์ติดต่อกับทางนายวีนัส พรประเสริฐ ผู้บริหารของบริษัทซิลเวอร์ ซี รีฟเฟอร์จำกัด เพื่อขอรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม แต่ทางนายวีนัสกล่าวว่า ยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลหรือความเห็นเพิ่มเติมได้ในขณะนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง