นายกฯ ประยุทธ์ ปฏิเสธไม่รู้จักนายวันเฉลิม แต่ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือค้นหา

ในวันอังคารนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุว่า ตนไม่รู้จักนายวันเฉลิม ว่าเป็นใคร แต่ได้สอบถามทางฝ่ายความมั่นคง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือในการตามหาตัว ขณะที่ น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยที่ถูกกลุ่มคนร้ายอุ้มหายไปจากหน้าที่พักในประเทศกัมพูชา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เพื่อขอให้คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ช่วยตามหาน้องชาย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวกับสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ กรณีครอบครัวนายวันเฉลิม ออกแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการติดตามตัวนายวันเฉลิมว่า โดยส่วนตัวไม่รู้จักนายวันเฉลิม และไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

“ผมไม่รู้จักเขาเลย แต่สิ่งที่ร่วมมือได้ ก็ร่วมมือไป ซึ่งผมได้สอบถามจากฝ่ายความมั่นคงแล้วว่า คนๆ นี้ อยู่ที่ไหนเป็นอย่างไร ผมไม่เคยรู้จักชื่อเขามาก่อนด้วยซ้ำไป ทราบว่าแต่ว่าเขาหนีไปอยู่ต่างประเทศ ก็ให้ไปติดตามว่าเขาหนีไปด้วยเรื่องอะไร หนีไปอยู่ที่ไหน ถามมาก็เขาหนี ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เขาไปทำอะไรเราก็ไม่รู้ เราก็คงไม่ไปก้าวล่วงอำนาจประเทศอื่นเขา ซึ่งเขาก็มีกลไกในการตรวจสอบของเขา เพียงแต่เขาสอบถามความร่วมมือ ก็ได้ให้ความร่วมมือเขาไป ผมก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ขอให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่เขาด้วยแล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อด้วยว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายเตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศกัมพูชาในประเด็นดังกล่าว แต่กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานทูตได้มีการพูดคุยกันแล้ว

นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่เดินทางออกจากประเทศไทย หลังการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2557 เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งของ คสช. ที่ให้ไปรายงานตัว และเป็นแอดมินเฟสบุ๊คเพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ ๆ” รวมถึงเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เมื่อปี พ.ศ. 2561 ได้ถูกอุ้มหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จากหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 4 มิถุนายน นี้

พี่สาวของวันเฉลิมยื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎร เร่งติดตามน้องชายกลับมา

ล่าสุดในวันนี้ น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้คณะกรรมาธิการช่วยติดตามข้อเท็จจริงเพื่อนำตัวน้องชายกลับมาอย่างปลอดภัย

“เรายังมีความหวังอยู่ ขอขอบคุณเด็กๆ ที่ตื่นตัวกับการหายตัวของนายวันเฉลิม จนกลายเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น เรามีความรู้สึกว่าเด็กสมัยใหม่มีความสนใจกับการอุ้มหาย มาวันนี้ ขอให้ทางการนำตัวน้องชายกลับมาอย่างปลอดภัย และอยากให้ กมธ. เร่งตามหาและติดตามน้องชายกลับมาเร็วๆ” น.ส.สิตานัน กล่าวกับผู้สื่อข่าว ระหว่างยื่นหนังสือที่รัฐสภา

ก่อนหน้านี้ น.ส.สิตานัน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุว่า ตนพูดคุยอยู่กับนายวันเฉลิม ในนาทีที่เชื่อว่าน้องชายถูกอุ้ม โดยได้ยินเสียงน้องชายตะโกนร้องว่า “หายใจไม่ออก” ก่อนสายจะตัดไปและติดต่อไม่ได้อีกเลย ภายหลังการหายตัวไปของนายวันเฉลิม ครบ 65 ชั่วโมง นางสาวสิตานัน ในฐานะตัวแทนของครอบครัวได้ออกแถลงการณ์ ขอร้องให้ผู้ก่อเหตุปล่อยตัว วันเฉลิม พร้อมเรียกร้องให้องค์กรทั้งไทยและนานาชาติร่วมกันสืบสวนหาข้อเท็จจริงการหายตัวไปดังกล่าว

“นายวันเฉลิม จําต้องลี้ภัยทางการเมืองอย่างไม่เป็นทางการไปสู่ประเทศกัมพูชาและประเทศอื่นๆ เป็นระยะเวลามากกว่า 6 ปี เพราะเขาแสดงจุดยืนทางการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร การปกครองภายใต้ทหารและการยึดอํานาจ ทําให้เขาต้องถูกไล่ล่าและกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม ด้วยการออกหมายจับและยกเลิกหนังสือเดินทาง รวมถึงการคุกคามอื่นๆ จะเห็นได้ว่านายวันเฉลิมเป็นผู้รักความยุติธรรม ความถูกต้อง หลักการประชาธิปไตย และยืนขึ้นเพื่อต่อสู้ต่อความอยุติธรรมใด ๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นเสมอ เพียงแต่การยืนขึ้นครั้งนี้เขาได้ใช้ชีวิตของเขาเป็นเดิมพัน และเป็นเหตุให้ถูกพรากไป” แถลงการณ์ระบุ

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม กล่าวภายหลังรับเรื่องร้องเรียนว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่เกิดขึ้น โดยตนจะนำเรื่องนี้ให้คณะกรรมาธิการพิจารณา และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง เช่น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมจะยื่นกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม ชี้แจงในเรื่องดังกล่าวด้วย

“แม้เหตุจะเกิดในต่างประเทศ แต่รัฐบาลไทยต้องทำหน้าที่ติดตามแสวงหาผ่านกระบวนการทางกฎหมายของประเทศ สิ่งที่เรากังวลที่สุดคือ เรื่องจะค่อย ๆ เงียบลงไป ความเกี่ยวพันของเรื่องนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่หมายถึงความมั่นคงของคนไทยด้วย ไม่อยากให้รัฐบาลนิ่งเฉย จนเรื่องเงียบหายไป” นายรังสิมันต์ กล่าว

ล่าสุด สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า นายเชย์ คิม เคือน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาไม่ได้เข้าจับกุมนายวันเฉลิม และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพิจารณาให้มีการเปิดการสืบสวนในกรณีดังกล่าว แม้ว่าขณะนี้จะไม่มีความชัดเจนว่า การหายตัวไปนั้นมีความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด