ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยฯ อับดุล ราฮิม นูร์ เยือนชายแดนใต้

ในวันพุธนี้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้การต้อนรับ ตัน สรี อับดุล ราฮิม บินโมฮัมหมัด นูร์ หัวหน้าคณะผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเทศมาเลเซีย และคณะ ในโอกาสเดินทางเข้าพบปะหารือเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการทำงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เข้าสู่กระบวนการพูดคุยอย่างสันติวิธี สร้างกรอบความร่วมมือร่วมกันระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้การต้อนรับ ตัน สรี อับดุล ราฮิม นูร์ ที่ห้องรับรอง บก.กอ.รมน.ภาค 4 สน. ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งได้เดินทางมาเยี่ยมเยือนจังหวัดชายแดนใต้ ตั้งแต่วันอังคารจนถึงวันศุกร์นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยรายหนึ่งกล่าวว่า เพื่อพบปะกับหลายภาคส่วน เช่น ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี นักการเมืองท้องถิ่น และ ส.ส.ท้องถิ่น  อาจารย์วิทยาลัยอิสลาม เป็นต้น เพื่อหาข้อมูลในการอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่มีมานานกว่า 15 ปี

ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี และภาคประชาชน คณะกรรมการอิสลามฯ นอกจากทำหน้าที่ในด้านศาสนาแล้ว ยังรับผิดชอบในการช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย ถือเป็นส่วนหนึ่งของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขในชายแดนใต้ในระดับพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ตัน สรี อับดุล ราฮิมไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน

ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า การเดินทางมาเยี่ยมเยือนสามจังหวัดชายแดนใต้ ของดาโต๊ะตัน สรี อับดุล ราฮิม และคณะอย่างเป็นทางการ ในครั้งนี้ “นับเป็นสัญญาณที่ดีและบ่งบอกถึงความตั้งใจจริงในการที่จะอำนวยความสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่จริง เพื่อคืนสันติสุขให้กับประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะทุกฝ่ายต่างต้องการ และเชื่อมั่นว่า สันติภาพ และความสงบสุข เป็นความต้องการอย่างแท้จริงของประชาชนส่วนใหญ่"

นับตั้งแต่การที่กลุ่มก่อความไม่สงบปล้นปืนกว่าสี่ร้อยกระบอกไปจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในอำเภอเจาะไอร้อง นราธิวาส ในวันที่ 4 มกราคม 2547 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 7,000 คน ในขณะที่การพูดคุยเพื่อสันติสุขระหว่างผู้แทนรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่างได้สะดุดลงอีกครั้ง เมื่อต้นปีนี้

คนร้ายระเบิดตลาดบ่อทองทำแผนรับสารภาพ

เหตุการณ์เลวร้ายล่าสุด ได้เกิดขึ้นในเดือนรอมฎอน เมื่อคนร้าย 4 คน ได้วางระเบิดหน้าตลาดบ่อทอง อำเภอหนองจิก ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ทำให้เด็กชายอายุ 14 ปี และผู้หญิงอายุ 35 ปี เสียชีวิต และมีทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นาย และมีประชาชนบาดเจ็บอีก 20 ราย

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย ได้แก่ 1. นายอาซิ มีนา อายุ 25 ปี เป็นคนมารับคนขับขี่รถจักรยานยนต์ประกอบระเบิดในที่เกิดเหตุ 2. นายอับดุลรอเซะ สลาวะ อายุ 23 ปี พฤติกรรมเป็นคนกดระเบิด และ 3. นายมะรอกิ ดอเลาะหนิ อายุ 27 ปี

ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน หลบหนีไปได้ คือ นายอับดุลกอเดร์ สะตาปอ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ประกอบระเบิด มาจอดไว้ที่ตลาดนัด

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า นายอาซิ มีนา และนายอับดุลรอเซะ สลาวะ ให้การรับสารภาพ เนื่องจากจำนนด้วยหลักฐาน ส่วนนายมะรอกิ ดอเลาะหนิ ยังให้การปฏิเสธ

"หลังการจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ได้ให้การรับสารภาพทุกขั้นตอน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่เบื้องหลังและสั่งการก่อเหตุครั้งนี้ คือ นายบูคอลี หลำโซะ เนื่องจากทั้งสองคนเป็นแนวร่วมชุดใหม่ที่ถูกหลอกให้มาก่อเหตุ” พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

สำหรับสาเหตุการก่อเหตุ นายบูคอลีต้องการตอบโต้การวิสามัญ นายซารีซามอัมรี ดือราแม เมื่อวันที่ 2 พ.ค.62 ที่ผ่านมา เนื่องจาก นายซารีซามอัมรี ถือเป็นแกนนำระเบิดสูงของกลุ่มขบวนการ และรับผิดชอบก่อเหตุนอกพื้นที่ชายแดนใต้ที่พบเชื่อมโยงเหตุระเบิดที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อปลายปี 2556 และ เหตุระเบิด สภ.หาดใหญ่ และ ล่าสุด เหตุขโมยรถ 6 คัน จากบริษัทวังโต้คาร์เซ็นเตอร์ อำเภอนาทวี สงขลา ไปก่อเหตุคาร์บอมบ์

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายสุณัย ผาสุข เจ้าหน้าที่วิจัยประจำประเทศไทย องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ได้เขียนบทความว่า ขบวนการบีอาร์เอ็น เป็นผู้ลงมือระเบิดตลาดบ่อทอง โดยเล็งเห็นผลล่วงหน้าว่า จะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และเป็นการตั้งใจกระทำต่อเป้าหมายประชาชนมาตั้งแต่ต้น

“การโจมตีโดยไม่มีการแยกแยะโดยผิดกฎหมาย และการหมายสังหารประชาชน เป็นเครื่องหมายการค้าของบีอาร์เอ็น ตั้งแต่การที่ขบวนการเริ่มปฏิบัติการสงครามกองโจร เมื่อ ปี 2547” นายสุณัย กล่าว