ผู้แสวงบุญเหยียบกันตายในตำบลมีนา นครเมกกะอย่างน้อย 717 ราย

นาซือเราะ
2015.09.24
TH-SA-SEA-stampede-1000 เจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัยพลเรือนซาอุดิอาระเบียและผู้แสวงบุญในพิธีฮัจย์ ยืนอยู่ใกล้บริเวณที่มีร่างผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุเหยียบกันตายและเสียชีวิตจำนวนมาก ที่ตำบลมีนา ใกล้กับนครเมกกะ วันที่ 24 กันยายน2558
เอเอฟพี

ปรับปรุงข้อมูล 12:37 p.m. ET 2015-09-25

จากเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นในพฤหัสบดีนี้ นับเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ซึ่งมีผู้แสวงบุญฮัจย์ มากกว่า 700 คน เหยียบกันตาย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 800 คน ใกล้นครเมกกะ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในประเทศซาอุดิอาระเบีย ตามรายงานจากแหล่งข่าว

ในวันพฤหัสบดี (24 ก.ย. 2558 นี้) ได้เกิดเหตุการณ์ผู้แสวงบุญเหยียบกันตายที่ตำบลมีนา นครเมกกะ ในระหว่างที่ผู้แสวงบุญเดินทางไปขว้างเสาหิน ในตอนเก้าโมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น ที่ซาอุดิอาระเบีย (เที่ยงวันตามเวลาในประเทศไทย) โดยในเบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 717 ราย และบาดเจ็บ 805 ราย และในขณะนี้ ยังไม่มีรายงานว่าผู้แสวงบุญไทยเสียชีวิต

เครือข่ายนักศึกษาไทย มาดีนะห์ แจ้งว่า ตามตัวเลขของฝ่ายป้องกันสาธารณภัยซาอุดิอาระเบีย ตัวเลขผู้เสียชีวิตถึงประมาณสามทุ่ม ตามเวลาในประเทศไทย ขยับขึ้นเป็น 717 คน และมีผู้บาดเจ็บ 805 คน

เครื่อข่ายนักศึกษาไทย กล่าวว่า ยังไม่พบรายงานว่ามีผู้แสวงบุญชาวไทยได้รับผลกระทบจากเหตุครั้งนี้ ในขณะที่สำนักกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ประจำนครเมกกะ หรือ มักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย กำลังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความแน่ชัด.

โศกนาฏกรรมในพิธีฮัจย์ครั้งที่สองในปีนี้

เหตุการณ์ร้ายแรงครั้งที่สอง สำหรับผู้แสวงบุญที่เดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์  ยังเมืองศักดิ์สิทธิ์ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ส่งผลให้มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับขั้นตอนความปลอดภัยของประชาชน และนโยบายการควบคุมฝูงชนรอบสถานที่ที่ประกอบฮัจย์ เนื่องจากประชาชนชาวมุสลิมจากทั่วโลก เกือบสองล้านคน ได้เดินทางมาแสวงบุญทุกปี รายงานจาก สำนักข่าวเอเอฟพี

เมื่อเดือนเดียวกันนี้ วันที่ 11 ก.ย. 2558 ได้เกิดลมพายุและมีฝนตกหนัก เป็นเหตุให้เครนขนาดใหญ่ ที่ใช้ในการก่อสร้างและขยายมัสยิด ล้มฟาดทับผู้แสวงบุญ ภายในมัสยิดฮะรอม ทำให้มีผู้เสียชีวิต จากเหตุครั้งนั้น 109 ราย

เหตุการณ์ผู้แสวงบุญเหยียบกันตายเมื่อวันพฤหัสนี้ นับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่สุด หลังจากเหตุการณ์ผู้แสวงบุญเหยียบกันตาย เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2533 ในพิธีฮัจย์เช่นกัน ในอุโมงค์ ที่ตำบลมีนา มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น 1,426 คน

โดยเหตุการณ์สลดเหยียบกันตายทั้งสองเหตุการณ์นั้น ล้วนเกิดขึ้นในวันรายอ อิดิ้ลอัฎฐา วันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งของศาสนาอิสลาม ซึ่งมีพิธีการขว้างเสาหิน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันสาธารณภัยพลเรือนของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ นับเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่การเกิดเหตุเครนก่อสร้างล้มทับ ในเดือนเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 กันยายน และนับเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปี

สำนักกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ประจำนครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์อันน่าสลดนี้ว่า เกิดขึ้นที่บริเวณถนนสาย 204 ชั้นที่ 1 ของอาคารขว้างเสาหิน ตำบลมีนา เมืองมักกะฮ์ ซึ่งเป็นเหตุมาจากความแออัดจนทำให้เหยียบกันตาย

นายอรุณ บุญชม หัวหน้าสำนักกิจการฮัจย์ แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีผู้แสวงบุญไทยเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ อีกทั้ง ยังเชื่อว่าไม่น่ามี เนื่องจากว่าเส้นทางที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางของผู้แสวงบุญจากประเทศอื่น ไม่ใช่เส้นทางไปขว้างหินของผู้แสวงบุญชาวไทย”

ด้านนายซาการียา อาลีมามะ ผู้แสวงบุญชาวไทย กล่าวต่อเบนานิวส์ทางโทรศัพท์ว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นบริเวณเส้นทางชั้น 1 ของผู้แสวงบุญจากประเทศอื่น ส่วนของไทยเรา อยู่ชั้นที่ 3 จากทั้งหมด มี 4 เส้นทาง  เหตุการณ์ปีนี้ที่เกิดขึ้นกับผู้แสวงบุญ ถือว่า อัลลอฮ์ จะทดสอบอย่างมาก แต่ก็รู้สึกเศร้ามาก แม้ผู้เสียชีวิต ยังไม่พบว่ามีคนไทย เมื่อพี่น้องต้องมาประสบเหตุเช่นนี้ ก็อดที่จะเศร้าใจไม่ได้”

หลังเกิดเหตุรัฐบาลมักกะห์ ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ด้านเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัยพลเรือนของซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า สาเหตุเบื้องต้นนั้น คาดเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่อุณหภูมิในพื้นที่ร้อนจัด พร้อมกับได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ 4,000 นาย พร้อมด้วยรถพยาบาลและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินกว่า 220 ชุด เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุครั้งนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง