เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายผู้ต้องหาสำคัญหนึ่งราย เครือข่ายตำบลปาดังเบซาร์ในคดีค้ามนุษย์และฟอกเงิน

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2558 พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าฝ่ายสืบสวน กล่าวถึงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ และฟอกเงิน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ประกาศจับกุม นักธุรกิจพันล้านเครือข่ายค้ามนุษย์ ต. ปาดังเบซาร์ หนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญ พบเบาะแสหลบหนีไปประเทศมาเลเซีย เตรียมขอออกหมายจับข้าราชการอีกหลายคน ก่อนสรุปคดีสำนวนส่งอัยการสูงสุดก่อนสิ้นเดือนนี้ หลังใช้เวลาทำงานมาเกือบ 5 เดือน ว่าในส่วนของผู้ต้องหา ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุม นายสุพัฒน์ สันติปิยกุล หรือโกต๊อก นักธุรกิจพันล้านชาว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา หนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญคดีค้ามนุษย์และฟอกเงินเครือข่ายตำบลปาดังเบซาร์ ล่าสุดพบการเคลื่อนไหวหลบหนีเข้าไปในประเทศมาเลเซีย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีนับพันล้านบาท ขณะนี้ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ประเทศมาเลเซียเพื่อขอให้ช่วยติดตามจับกุม และส่งตัวกลับมาดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่พร้อมเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกหลายคน เนื่องจากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง ในจำนวนนี้มีข้าราชการพลเรือน รวมอยู่ด้วย ขอยืนยันว่าไม่ได้มีการกลั่นแกล้งใคร และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกอย่างจะยึดตามพยานหลักฐานทั้งหมด

ในวันเดียวกันที่ร้านปริ้นเซสกาแฟ ถ. นางงาม ต. ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายนพชัย วีระธัญญา ทนายความส่วนตัว พล.ท. มนัส คงแป้น ผู้ต้องหาคดีร่วมกันค้ามนุษย์ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนกรณีที่ พล.ท.มนัส ถูกออกหมายจับนั้น ว่าทางพนักงานสอบสวน ทำงานแบบหลงประเด็น และ ทำงานตามกระแสกดดันจากต่างชาติ เนื่องจากการกระทำของ พล.ท.มนัส ไม่ได้อยู่ในรูปแบบเงื่อนไขการค้ามนุษย์ แต่อย่างใด เป็นเพียงผู้ร่วม ช่วยเหลือนำพาเท่านั้น และ นายนพชัย ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากการค้ามนุษย์จะอยู่ใน 3 กลุ่ม คือ การค้าประเวณี การค้าอวัยวะ และการใช้แรงงานเยี่ยงทาส ดังนั้นจากการตั้งข้อหากับ พล.ท.มนัส นั้น ถือว่าพนักงานสอบสวนหลงประเด็น การพบปะพูดคุยในวันนี้ ไม่มีเอกสาร หรือ การเตรียมยื่นข้อเรียกร้องแต่อย่างใด เป็นเพียงการชี้แจงของทนายความที่ต้องการเสนอข้อมูลอีกด้านให้สังคมทราบ กรณี พล.ท.มนัส คงแป้น ที่ถูกข้อกล่าวหา

พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

การพิจารณาตามมาตรา 6 ในพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 กล่าวไว้ว่า ผู้ใดเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด อาทิ 1. เป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือโดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นแก่ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลบุคคลนั้น เพื่อให้ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลให้ความยินยอมแก่ผู้กระทำความผิดในการแสวงหา ประโยชน์จากบุคคลที่ตนดูแล 2. เป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขังจัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็กผู้นั้นกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์

รวมทั้งมาตรา 7 ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ยังกล่าวไว้ด้วยว่า ผู้ใดกระทำการดังต่อไปนี้ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ 1. สนับสนุนการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ 2. อุปการะโดยให้ทรัพย์สิน จัดหาที่ประชุม หรือที่พำนักให้แก่ผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ 3. ช่วยเหลือด้วยประการใดเพื่อให้ผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์พ้นจากการถูกจับกุม 4. เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ถูกลงโทษ

ความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กันยายน ศาลจังหวัดนาทวีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 7 ราย ในจำนวนนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพบก 3 ราย และ กองทัพเรือ 1 ราย

คดีค้ามนุษย์ได้ออกหมายจับแล้ว 153 ราย จับกุมได้แล้ว 90 ราย ยังหลบหนีอีก 63 ราย ส่วนคดีฟอกเงิน ออกหมายจับแล้ว 77 ราย จับกุมได้ 37 ราย ยังหลบหนีอีก 40 คน

ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ มีอาทิ นายบรรจง ปองผล หรือโกจง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์, นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล, นายสุวรรณ แสงทอง หรือโกหนุ่ย เจ้าของแพปลา ใน จ.ระนอง และ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก รวมทั้งผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ซึ่งมีทั้งตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่นและชาวบ้านอีกหลายคน ทั้งใน จ. สงขลา จ. สตูล และ จ. ระนอง ขณะนี้ทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนาทวี และอยู่ระหว่างขั้นตอนการสืบพยานในชั้นศาล

โดยเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสูงสุด ได้แถลงการพิจารณาสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาค้ามนุษย์ 72 ราย รวม 16 ข้อหา ซึ่งรวมถึงพลโทมนัส คงแป้น ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในเทือกเขาแก้ว ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จำนวน 32 คน ซึ่งมีการขุดพบศพเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา