หน่วยกู้ภัยยุติการค้นหาการกู้ศพในเรือฟินิกซ์ชั่วคราว

มารียัม อัฮหมัด
2018.07.11
ภูเก็ต
180711-TH-shipwreck-1000.jpg เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตในเหตุเรือฟีนิกซ์ล่ม นอกฝั่งจังหวัดภูเก็ต วันที่ 6 ก.ค. 2561
ภาพโดยกลุ่ม Love Andaman

ในวันพุธนี้ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงสรุปผลการค้นหาร่างนักท่องเที่ยวจากเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ที่ทะเลจังหวัดภูเก็ต โดยระบุว่า มีผู้รอดชีวิต 42 ราย พบศพแล้ว 45 ราย และยังสูญหายอีก 2 ราย โดยการกู้ศพที่คาดว่าติดอยู่กับซากเรือ แต่ยังไม่สำเร็จ และต้องเลื่อนไปก่อน เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย

นายนรภัทร แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า การเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวฟินิกซ์ไดฟ์วิ่งล่ม ซึ่งมีการปฏิบัติการ่วมระหว่าง หน่วยงานของไทยนำโดยเจ้าหน้าที่ทหาร อาสาสมัครกู้ภัย และหน่วยงานกู้ภัย GUANGZHOU SALVAGE จากประเทศจีน วันนี้ พยายามกู้ซากเรือและค้นหาศพ แต่อย่างไรก็ดียังทำได้ไม่สำเร็จ เนื่องจากต้องยุติภารกิจชั่วคราว เพราะทะเลมีคลื่นลมแรง

“ขณะนี้ มีผู้สูญหายจำนวน 2 ราย ที่ยังค้นหา และนำตัวขึ้นมาข้างบนไม่ได้... ศพได้มาถึงโรงพยาบาล 45 ราย สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ ทราบชื่อนามสกุลเรียบร้อย 43 ราย สรุปยอดทั้งหมดนักท่องเที่ยวที่ลงเรือ 89 คน มีผู้รอดชีวิต 42 คน ผู้เสียชีวิตเราได้เผาศพเมื่อวานไป 5 ศพแล้ว วันนี้จะดำเนินการต่อเนื่องอีก 7 ศพ และเดินทางเอาศพออกนอกประเทศไปแล้ว 2 ราย เมื่อวาน ซึ่งการเผาหรือเอาศพกลับขึ้นอยู่กับความสมัครใจของญาติเป็นสำคัญ” นายนรภัทรกล่าว

ขณะที่ นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 ร่วมแถลงว่า การค้นหาและเก็บกู้จะมุ่งไปที่การพลิกเรือ เนื่องจากเชื่อว่าผู้สูญหายที่เหลือ 2 ราย ติดอยู่กับซากเรือ

“คาดว่า 2 คนที่สูญหาย อาจจะอยู่ใต้เรือ จึงจำเป็นจะต้องพลิกเรือเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัด ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เรือเสียหาย ต้องใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการกู้เรือในการกระทำดังกล่าว เนื่องจากจุดดังกล่าวมีความลึกเกือบ 45 เมตร โดยการกู้เรือนั้นวางแผนจะใช้เครน 400 ตัน ในการทำเรือให้ตั้งตรง แล้วสูบน้ำออก” นายภูริพัฒน์กล่าว

ด้าน นาวาเอกธานินทร์ ทิพย์โส รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 อธิบายว่า จะใช้การดูดทรายโดยรอบตัวเรือ ก่อนการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากเรือ

“ในการทำงานจะใช้ทีมประดาน้ำของกองทัพเรือไทยเป็นหลัก จะดำลงไปด้วยอุปกรณ์ดำน้ำลึกพิเศษ ใช้คนดำน้ำครั้งละ 2 คน ซึ่งในคู่เเรกจะดำลงไปเพื่อทำการสำรวจ และดูดทรายโดยรอบตัวเรือ คู่ที่ 2 จะลงไปทำการดูดทรายเพิ่ม และจากนั้นในคู่ที่ 3 ทีมกู้ภัยของจีนลงไปทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิต โดยจะนำถุงพลาสติกบรรจุศพลงไปด้วย หากเก็บกู้ได้เเล้ว จะนำมาขึ้นเรือยางส่งต่อให้เรือหลวงหัวหินลำเลียงกลับเข้าฝั่งต่อไป” นาวาเอกธานินทร์

อย่างไรก็ตาม การเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้ยุติชั่วคราวเมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทะเลมีคลื่นลมรุนแรง

เหตุการณ์เรืออับปางที่ทะเลจังหวัดภูเก็ต เกิดขึ้นช่วงเย็น ของวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 โดยมีเรือฟินิกซ์ เรือเซเรเนต้า และเจ็ตสกีล่ม 3 จุด เนื่องจากทำการเดินเรือออกมาในขณะที่อากาศเปรปรวน มีกระแสลม และคลื่นรุนแรง แต่สำหรับผู้ประสบเหตุของเรือเซเรเนต้า และเจ็ตสกี ได้รับการช่วยเหลือและปลอดภัยทั้งหมด ขณะที่เรือฟินิกซ์มีผู้เสียชีวิต ซึ่งในการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับคนขับเรือฟินิกซ์ และเรือเซเรเนต้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รองนายกฯ ขอโทษที่ให้สัมภาษณ์เชิงตำหนิคนจีน

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อสื่อมวลชนในวันเดียวกันว่า ขอโทษประชาชนจีนที่ให้สัมภาษณ์พาดพิง จนเป็นเหตุให้มีชาวจีนไม่พอใจการสัมภาษณ์ดังกล่าว โดยการขอโทษครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา พลเอกประวิตรกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า “จีนเข้ามาใช้นอมินีไทยไง เขากำลังดำเนินคดีอยู่ เขาไม่เชื่อไง เขาไม่เชื่อกรมอุตุฯ ก็เป็นอย่างนั้น ก็ออกไป ก็ต้องแก้ไขกันไป ก็นักท่องเที่ยวจีนเป็นคนทำ นักท่องเที่ยวจีน เขาทำเรือของเขาเอง เขาฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของเรา ก็เป็นเรื่องของเขา”

ซึ่งหลังจากวิดีโอการสัมภาษณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ ประชาชนชาวจีนเขียนข้อความแสดงความไม่พอใจในสื่อสังคมออนไลน์หลายคน จนรองนายกรัฐมนตรีไทยต้องขอโทษกับการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว

“เรื่องของการทำผิดเป็นเรื่องนึง เรื่องของการช่วยเหลืออีกเรื่องนึง เรื่องของการช่วยเหลือก็ดำเนินการ ถ้าผมพูดอะไรไม่พอใจ ก็ต้องขอโทษ ซึ่งผมก็ได้รับรายงานมาอย่างนั้นจริงๆ” พลเอกประวิตร กล่าวในวันพุธนี้

โดย พลเอกประวิตรได้ชี้แจงเพิ่มเติ่มว่า การสัมภาษณ์ที่สร้างความไม่พอใจให้กับคนจีนนั้น เป็นการกล่าวถึง ข้อสังเกตที่หน่วยงานราชการไทยกำลังตรวจสอบว่า เรือฟินิกซ์ที่ล่มนั้น เป็นเรือท่องเที่ยวของคนจีน ที่ให้คนไทยถือหุ้นแทนหรือไม่ ซึ่งหากเป็นตามข้อสังเกตดังกล่าว ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายไทย และต้องดำเนินดคีเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น การตรวจสอบพบว่า เรือฟินิกซ์ถือหุ้นโดยคนไทย และจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเชิงลึกอยู่

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง