ไทยจ่ายญาติเหยื่อเรือฟีนิกซ์ล่ม 6 รายแรก

ในวันพฤหัสบดีนี้ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่จังหวัดภูเก็ตว่า กองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและบริษัทประกันภัย ได้เริ่มจ่ายเงินให้กับญาติเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวฟินิกซ์ล่มนอกฝั่งเกาะภูเก็ต ให้กับญาติที่มีเอกสารครบแล้วจำนวน 6 รายแรก

นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ทางการไทยจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูและเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวจีน เนื่องจากหลังเหตุการณ์ดังกล่าวมีสัญญาณว่า นักท่องเที่ยวจีนจำนวนหนึ่งยกเลิกการจองที่พักในประเทศไทย โดยมีการสมทบเงินจากทั้งของภาครัฐ และในส่วนบริษัทประกันภัยเอกชน อันเป็นไปตามกฎหมายนำเที่ยวและมัคคุเทศน์ รวมทั้งกฏหมายของกรมเจ้าท่า โดยจ่ายให้ผู้เสียชีวิต หรือผู้เสียหาย ตามระดับผลกระทบที่ได้รับ

“วันนี้ บริษัทประกันภัยภาคเอกชนทั้งสองบริษัท พร้อมที่จะจ่ายเงินเยียวยา ค่าสินไหมทดแทน หัวละ 1 ล้านบาท เป็นการประกันภัยตามกฎหมายนำเที่ยวและมัคคุเทศน์ อีก 1 แสนบาท เป็นการประกันภัยตามกฎหมายของเจ้าท่า รวมเป็นรายละ 1.1 ล้านบาท ส่วนภาครัฐก็จะจ่ายสมทบเข้าไป รวมทั้งสิ้น ผู้เสียชีวิตตกหัวละประมาณ 2.1 บาท” นายพงษ์ภาณุกล่าว

“นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นตลาดสำคัญที่สุดของการท่องเที่ยวไทย ผลกระทบครั้งนี้ใหญ่หลวงมาก ทั้งทางกาย จิตใจ และเศรษฐกิจ” นายพงษ์ภาณุกล่าวเพิ่มเติม

นับตั้งแต่เกิดเหตุ การกู้ภัยเป็นไปอย่างล่าช้า เพราะคลื่นลมเป็นอุปสรรค ตามคำกล่าวของพลเรือโทสมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3

ในขณะที่ประชาชนจีนแสดงความไม่พอใจทางโซเชียลมีเดียต่อคำกล่าวของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ว่านักธุรกิจจีนใช้คนไทยเป็นนายหน้า ในการตั้งบริษัทและไม่เชื่อฟังคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาจนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น จนพลเอกประวิตรต้องออกมาขอโทษทางการจีนเมื่อวานนี้ ในขณะที่เมื่อจันทร์ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ได้ลงมาดูแลการค้นหา หลังจากทางการจีนได้ส่งจดหมายร้องขอมา

นายพงษ์ภาณุ กล่าวอีกว่า มีนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนประเทศไทยประมาณ 10 ล้านคน มีการใช้จ่ายกว่า 5 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้ มาเยือนภูเก็ต 3 ล้านคนต่อปี ใช้จ่ายปีละ 1.5 แสนล้านบาท

“แม้ว่ายังไม่มีอะไรชัดเจนว่ามีการลดลงของนักท่องเที่ยว แต่มีสัญญาณว่าเริ่มมีการยกเลิกการจองที่พัก ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น อันนี้เป็นที่มาว่าทำไมกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวเคลื่อนไหวอย่างเร็วที่สุด เพื่อเป็นการฟื้นฟูความเชื่อมั่น” นายพงษ์ภาณุกล่าว

นายพงษ์ภาณุ ให้รายละเอียดการชดเชยว่าในกรณีเสียชีวิต ทางรัฐไทยสมทบจ่ายรายละหนึ่งล้านบาท กรณีรักษาพยาบาลจะจ่ายตามจริงไม่เกินห้าแสนบาทต่อหัว กรณีฟื้นฟูสภาพจิตใจจะจ่ายรายละสองหมื่นบาทต่อหัว และกรณีเหตุหยุดชะงักการเดินทาง จ่ายไม่เกินสองหมื่นบาทต่อราย โดยการจ่ายเงินนั้น ญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิต ต้องนำเอกสารสำคัญตามกฎหมายมาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอรับเงิน ซึ่งทำการจ่ายไปแล้วหกราย ในเวลาเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันพฤหัสบดีนี้

รอกู้ศพรายสุดท้าย

เหตุการณ์เรืออับปางที่ทะเลจังหวัดภูเก็ต เกิดขึ้นช่วงเย็นถึงค่ำของวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 โดยมีเรือฟินิกซ์ เรือเซเรเนต้า และเจ็ตสกีล่มสามจุด เนื่องจากทำการเดินเรือออกมาในขณะที่สภาพอากาศที่แปรปรวน มีกระแสลม และคลื่นรุนแรง

สำหรับผู้ประสบเหตุของเรือเซเรเนต้าและเจ็ตสกี ได้รับการช่วยเหลือและปลอดภัยทั้งหมด ในขณะที่เรือฟินิกซ์ที่มีลูกเรือและนักท่องเที่ยวรวม 89 ราย เสียชีวิต 47 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นขาวจีน

ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ทราบว่าร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 47 ยังคงติดอยู่ในเรือฟีนิกซ์ที่จมลึกลงไปราว 40 เมตร และห่างจากแหลมพันวาไปประมาณ 5 กิโลเมตร แต่เจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือไทย หน่วยงานราชการอื่นๆ และ หน่วยกู้ภัยกวางโจวซัลเวจ ยังไม่สามารถกู้ซากเรือและศพได้เพราะคลื่นสูงถึง 2 ถึง 3 เมตร

ในวันนี้ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงสรุปผลการค้นหาร่างนักท่องเที่ยวว่า พบศพรายที่ 46 ราย ที่เกาะพีพี ได้ส่งร่างมาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อตรวจอัตลักษณ์บุคคลแล้ว

“...ที่เราพบในเรือ ก็เป็นอันว่าเหลือรายเดียว ซึ่งกำลังจะเอาขึ้นมาข้างบน... ซึ่งในส่วนของการจัดการศพ มีผู้แจ้งความประสงค์ 41 คน แจ้งความประสงค์นำศพกลับประเทศจีนไป 11 ศพ ประสงค์เผาศพที่ภูเก็ต 30 คน ค่าใช้จ่ายในการนำศพกลับ เจ้าของเรือเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการให้”  นายนรภัทรกล่าว

สำหรับการกู้ร่างผู้เสียชีวิต พลเรือโทสมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า จะเร่งดำเนินการให้สำเร็จ

“ทีมค้นหาได้บูรณาการความร่วมมือ ทั้งทหารเรือ นักประดาน้ำชาวจีนจำนวน 10 นาย กรมประมง กรมเจ้าท่าตำรวจน้ำ ภาคเอกชนและภาคประชาชน มีการบูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง น่าจะรับได้รับข่าวดีหากสภาพอากาศเอื้ออำนวย จะสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตที่อยู่ใต้ท้องเรือขึ้นมาได้” พลเรือโทสมนึกกล่าว

ส่วนการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษนั้น ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับคนขับเรือฟีนิกซ์ และเรือเซเรเนต้า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว