คนร้ายวางระเบิดรถตำรวจที่ยะลา เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 2
2016.09.23
ยะลา

ในวันศุกร์(23 กันยายน 2559)นี้ เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดใส่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอกรงปีนัง จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เชื่ออาจเป็นการก่อเหตุของกลุ่มนายฮูไบดีล่ะห์ รอมมือลี ผู้ก่อการร้ายระดับสั่งการซึ่งมีเขตพื้นที่รับผิดชอบใน อ.ยะหา อ.กาบัง และ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ขณะเดียวกันมีการนำเสนอความเชื่อว่า การก่อเหตุครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการพูดคุยสันติสุข
ท่ามกลางการพูดคุยสันติสุขรอบใหม่ที่ได้มีขึ้นอีกครั้ง เมื่อต้นเดือนกันยายนนี้ในประเทศมาเลเซีย หลังเกิดเหตุระเบิดและพยายามวางเพลิงกว่าสิบแห่ง ในหลายพื้นที่ท่องเที่ยวของ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนของไทย ในก่อนหน้าเมื่อวันที่ 10 ถึง 12 สิงหาคมที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย รวมทั้งการวางระเบิดที่บริเวณโรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ในปัตตานี ในสัปดาห์ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับบุคคลต้องสงสัยในเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งที่มีภูมิลำเนาในสามจังหวัดชายแดนใต้อย่างน้อยเจ็ดรายเป็นบุคคลจากสามจังหวัดชายแดนใต้
ส่วนห้วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว จนถึงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ จังหวัดสงขลา ส่งผลให้มีผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตสองราย จากการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ พลเรือนเสียชีวิตหนึ่งราย และบาดเจ็บหนึ่งราย ในต่างเหตุการณ์
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ซึ่งประสบเหตุวันนี้นั้น ได้ความว่า ในช่วงเช้าขณะที่ ร.ต.ท.ธีรวัตร เต็มราม หัวหน้าชุดสืบสวน สภ.กรงปินัง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรวม 7 นาย เดินทางโดยรถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน เพื่อลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวกลุ่มคนร้าย และเครือข่ายยาเสพติด จนกระทั่งเมื่อถึงบริเวณ ม.1 บ้านเบญญา รอยต่อพื้นที่ ม.4 บ้านลูโบ๊ะกาโล ต.ปุโรง อ.กรงปินัง กลุ่มคนร้ายซึ่งคาดว่าซุ่มอยู่ในสวนยางพาราริมทางได้จุดชนวนระเบิดใส่รถของเจ้าหน้าที่คันที่สองก่อนที่กลุ่มคนร้ายซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 7 คน ได้ใช้อาวุธปืนยิงสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ในรถคันแรกสามารถเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บได้ เป็นเหตุให้เกิดการยิงปะทะกันชั่วระยะหนึ่ง
โดยกลุ่มคนร้ายใช้โอกาสที่เจ้าหน้าที่ในรถคันที่ประสบเหตุบาดเจ็บ ยึดเอาอาวุธปืนเอ็มสี่จำนวน 3 กระบอก และอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. จำนวน 3 กระบอก ของเจ้าหน้าที่แล้วหลบหนีไป
การลอบวางระเบิดและยิงปะทะครั้งนี้ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทันที 3 นาย และบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ ส.ต.ท.ณัฐพงศ์ ชาติดำ, ส.ต.ต.สุริยา หนูนิ่ม และ ส.ต.ต.อรรถพล เหลือเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บคือ ส.ต.ท.ศิริวัฒน์ โยธา และ ส.ต.ต.นฤเบศ เหมือนน้อย
เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกปะทะโจมตี บนถนนข้างทาง จังหวัดยะลา ถูกเร่งนำส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือ
หลังจากได้รับแจ้ง พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดยะลา นำกำลังเจ้าหน้าตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ รถยนต์กระบะ อีซูซุ สีขาว ของ สภ.กรงปินัง อยู่ในสภาพถูกแรงระเบิดพังเสียหายอย่างหนัก ตัวรถขาดสองท่อน ห่างจากซากรถประมาณ 5 เมตร พบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิด ขนาดความกว้าง 4 เมตร ลึก 1 เมตร พบเศษถังแก๊ส ขนาด 15 กก. เศษแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และสายไฟฟ้า ความยาวกว่า 100 เมตร เบื้องต้นเชื่อเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ถูกบรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 80 กก. จุดชนวนด้วยระบบแบตเตอรี่ โดยคนร้ายได้นำระเบิดลูกดังกล่าวมาวางในท่อน้ำซึ่งอยู่ใต้ถนนบริเวณจุดเกิดเหตุ
พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยหลังจากตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุว่า ปัจจุบัน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดยะลานำกำลังลงตรวจพื้นที่เป้าหมายเพื่อติดตามนำกลุ่มคนร้ายซึ่งก่อเหตุครั้งนี้มาลงโทษแล้ว
“เชื่อว่าเป็นฝีมือของคนร้ายกลุ่มนายฮูไบดีล่ะห์ รอมมือลี แกนนำก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการพร้อมพวก” พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าว
ขณะเดียวกัน หนึ่งในผู้เห็นต่างในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ ถึงเหตุจูงใจในการก่อเหตุว่า อาจเกิดจากประเด็นการพูดคุยสันติสุข และประเด็นการค้ายาเสพติดในพื้นที่
"คิดว่า(การก่อเหตุระเบิดครั้งนี้)มาจากหลายสาเหตุ เรื่องพูดคุยก็มีส่วน เพราะตอนนี้ ในพื้นที่มีบางหน่วยงานพยายามจัดเวที จัดฉากว่า มีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนชน ทั้งที่เป็นเวทีรับฟังทางเดียว 20 กว่าเวที ยังไม่มีเวทีไหนที่ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นจริงๆ” แหล่งข่าวผู้ไม่ต้องการเปิดเผยชื่อกล่าว
“อีกประเด็นหนึ่งคือ เจ้าหน้าที่กลุ่มที่ประสบเหตุเป็นชุดสืบในพื้นที่และบางคนมีส่วนเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นได้หากขบวนการจะทำ เพราะต้องการเตือนเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนกับยาเสพติดให้หยุดการกระทำที่ไม่ดีกับชุมชน" แหล่งข่าวคนเดิมเพิ่มเติม
อาจเกี่ยวข้องกับการพูดคุยสันติสุข
เมื่อต้นเดือนนี้ คณะพูดคุยสันติสุขของไทย และองค์กรมาราปาตานี กลุ่มผู้เห็นต่าง ได้ตกลงร่วมกันที่จะพิจารณาการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย หรือ “เขตหยุดยิง” เฉพาะในบางพื้นที่ รวมทั้งข้อเสนอของเครือข่ายผู้หญิงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง สามจังหวัดชายแดนใต้ และนำมาเป็นข้อพิจารณาในการพูดคุยในครั้งต่อไป
เมื่อต้นเดือนนี้ คณะพูดคุยสันติสุขของไทย และองค์กรมาราปาตานี กลุ่มผู้เห็นต่าง ได้ตกลงร่วมกันที่จะพิจารณาการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย หรือ “เขตหยุดยิง” เฉพาะในบางพื้นที่ รวมทั้งข้อเสนอของเครือข่ายผู้หญิงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง สามจังหวัดชายแดนใต้ และนำมาเป็นข้อพิจารณาในการพูดคุยในครั้งต่อไป
ในเหตุการณ์ลอบวางระเบิดและซุ่มยิงโจมตีครั้งนี้ เกิดขึ้นภายในสองวัน หลังจากองค์กร อินเตอร์เนชั่นแนลไครซิสกรุ๊ป (International Crisis Group) ได้ออกบทความสรุป ซึ่งกล่าวถึงการพูดคุยสันติสุข ระหว่างรัฐบาลทหาร ที่นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ องค์กรมาราปาตานี กลุ่มผู้เห็นต่างที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนนั้น ได้ล่มลงแล้ว
จากการที่รัฐบาลไทยต้องการที่จะใช้แนวทางให้กลุ่มผู้เห็นต่างยอมจำนนมากกว่า การที่จะบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มผู้ที่เข้าร่วมเจรจา ทั้งรัฐบาลไทยยังได้มีการปราบปรามจับกุมประชาชนทั่วประเทศ ที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อมีส่วนร่วมทางการเมือง การชะลอการเลือกตั้ง และมีการบั่นทอนเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยกำลังหาทาง เพื่อจะคุมอำนาจระยะยาว หลังจากการเลือกตั้ง ที่ประกาศว่าจะจัดให้มีขึ้นในปีหน้า
"เป็นที่ถกเถียงว่า การที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบควรจะยุติการใช้ความรุนแรง และมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติการสู่สันติสุข น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะรัฐบาลไม่ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง จึงนับเป็นการเพิ่มความกดดันต่อประชาชนและกลุ่มภาคประชาสังคมในพื้นที่ที่มีสถานการณ์ความไม่สงบ ที่ทำงานในพื้นที่ขัดแย้ง ด้วยความหวังว่าการเจรจาเพื่อสันติสุขจะบังเกิดขึ้นนั้น ดูเหมือนจะริบหรี่ลง" บทความ อินเตอร์เนชั่นแนลไครซิสกรุ๊ปกล่าว