ผบ.ตร. เผยผู้ต้องสงสัยระเบิดภาคใต้ตอนบน มีทั้งมือเก่าใน จชต. และมือใหม่
2016.08.22
กรุงเทพฯ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวในวันจันทร์ (22 สิงหาคม 2559) นี้ว่า ผู้ก่อเหตุในคดีระเบิดและวางเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้ มีทั้งบุคคลที่เคยมีประวัติในการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และบุคคลหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีประวัติก่อเหตุมาก่อน
ส่วนเหตุจูงใจนั้น พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดออก ทั้งผลประชามติร่างรัฐธรรมนูญ การขยายพื้นที่ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือการรับจ้างมาก่อความวุ่นวาย
“เจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้ก่อเหตุในหลายจุด เนื่องจากส่วนหนึ่งมีหมายจับหรือมีประวัติก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าการก่อเหตุครั้งนี้ เป็นการลงมือจากคนรุ่นใหม่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวในการแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันนี้
“ส่วนจะมีบุคคลรุ่นเก่าเป็นแกนนำหรือไม่ ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด เพราะยังไม่มีการประกาศตัวชัดเจน โดยไม่ชี้ชัดว่าเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็น หรือกลุ่มวาดะห์ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า มีหลายกลุ่มที่พยายามเคลื่อนไหวมาโดยตลอด และมีการกระทำความรุนแรงหวังผลหลายอย่างในเวลาเดียวกัน” พล.ต.อ.จักร์ทิพย์ กล่าวเพิ่มเติม
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า ตำรวจรู้แผนประทุษกรรม ขั้นตอนการก่อเหตุ และจุดรวมตัวของผู้ก่อเหตุแล้ว โดยจากหลักฐานทำให้เชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุกว่า 20 คน โดยผู้ก่อเหตุน่าจะเคยผ่านการเรียนในโรงเรียนปอเนาะห์ และได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากต่างประเทศ เพราะมีพฤติกรรมแตกต่างจากคนมุสลิม มีการอำพรางตัวแต่งกายคล้ายนักท่องเที่ยวในระหว่างการก่อเหตุ
ขณะที่ กรณีพรรคแนวร่วมปฏิวัติประชาธิปไตย (นปป.) ซึ่งถูกออกหมายจับในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คนทั้ง 17 รายนั้น ตำรวจเชื่อว่า มีเป้าหมายเดียวกันกับกลุ่มที่ก่อเหตุระเบิด แต่อาจเพียงต้องการเคลื่อนไหวทางการเมืองเท่านั้น
ทางด้าน พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักยุทธศาสตร์ตำรวจเปิดเผยว่า จะมีการออกหมายจับซ้ำ สำหรับนายศักรินทร์ คฤหัสถ์ ผู้ต้องหาที่เคยปล่อยตัวออกไปเมื่อวันที่ 18 ส.ค. นี้ เนื่องจากพบความเชื่อมโยงกับคดีเผาห้างเทสโก้โลตัส ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม
ตำรวจเร่งจับตัวนายอาหามะ เลงฮะ
หลังจากศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 41 (มท.บ.41) เพื่อได้อนุมัติหมายจับนายอาหามะ เลงฮะ ชาว ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ผู้ต้องสงสัยซึ่งเจ้าหน้าที่พบความเชื่อมโยงจากหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุในเหตพยายามวางระเบิดที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นี้ ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ได้นำข้อมูลหมายจับนายอาหามะ เข้าสู่ระบบ polis เพื่อตรวจการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร และยังได้ส่งหนังสือไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกด่านอีกด้วย
จากการเปิดเผยข้อมูลของเจ้าหน้าที่ นายอาหามะ เลงฮะ อายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 1 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ เคยถูกออกหมายจับโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) พ.ศ.2548 เมื่อปี 2551 ในคดีต้องสงสัยมีพฤติการณ์เป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ
แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงในจังหวัดนราธิวาส ให้ข้อมูลแก่เบนาร์นิวส์ว่า นายอาหามะ ทำงานอยู่ในโรงงานปุ๋ยแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซียซึ่งอยู่ห่างจาก ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ ประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งนายอาหามะเดินทางไปทำงานโดยทางเรือ
“ในช่วงปี 2558-59 นายอาหามะได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเพื่อขอเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน เพื่อจะได้ปลดหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยได้นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ทหารเอาไว้แล้วในช่วงก่อนเกิดเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ไม่นาน แต่เมื่อถูกออกหมายจับในคดีระเบิดที่ จ.ภูเก็ต ช่วงระหว่างวันที่ 11-12 ส.ค. 2559 นายอาหามะจึงไม่ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตามนัด” เจ้าหน้าที่ทหารท่านเดียวกันกล่าวเพิ่มเติม
ปิดล้อมพื้นที่ล่าตัวผู้ก่อเหตุ
ในวันเสาร์ (20 ส.ค. 2559) เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังร่วมกับทหารปิดล้อมพื้นที่ปอเนาะนะห์ฏอตุลอิสลาฮียะห์ บ้านปาเเดปูซู ม.4 ต.สะดาวา อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อตามหานายหมัดไซฟูดีน ลอแมง อายุ 24 ปี ชาว ต.บือแระ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ผู้ต้องสงสัยร่วมขบวนการวางระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ โดยอาศัยอำนาจกฎอัยการศึก และ พรก.ฉุกเฉิน หลังสืบทราบว่านายหมัดไซฟูดีนหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แต่สุดท้ายไม่พบตัว
นอกจากนั้น หน่วยเฉพาะกิจ ฉก.ทพ 22 ได้เชิญนายอิบรอเฮ็ง ตาเยะ อายุ 39 ปี ประชาชนจากบ้านโคกหญ้าคา ม.1 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ไปสอบปากคำ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไป สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อลงบันทึกประจำวัน และส่งต่อให้ชุดซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี เพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สงสัยว่านายอิบรอเฮ็ง เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่
เจ้าหน้าที่การข่าวหน่วยความมั่นคง เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า มีผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้หลายคนที่ทราบเบาะแสว่าอาศัยอยู่ในจังหวัดปัตตานี ขณะที่มีข่าวว่าบางคนได้หลบหนีไปยังประเทศมาเลเซียแล้ว
“หน่วยข่าวพบว่า ผู้ต้องสงสัยวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน มีความเกี่ยวโยงกับบุคคลจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายคน ซึ่งพบข้อมูลว่า คนปัตตานีเป็นคนก่อเหตุ และคนนราธิวาสเป็นมือประกอบระเบิด จึงทำให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามค้นหาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ และพบข้อมูลบางคนได้หลบหนีไปมาเลเซียแล้ว และบางคนเจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่” เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามกล่าวแก่เบนาร์นิวส์