ผู้ปกครองห่วงลูกหลานถูกปลูกฝังอุดมการณ์ก่อความไม่สงบช่วงปิดเทอม

ประชาชนและผู้ปกครองในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างเป็นห่วงลูกหลานที่อยู่ในช่วงปิดเทอมว่า จะถูกปลูกฝังหรือชักจูงให้เข้าร่วมขบวนการก่อความไม่สงบ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ในอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา พบเด็กฉีดสเปรย์คำว่า RKK ที่มักจะหมายถึงกองกำลังปฏิบัติการเยาวชน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนชุดพลร่ม ได้ออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยรับส่งคณะครู นักเรียน บุคลาการทางการศึกษาของโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ 11 บ้านสายตาเอียด ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จงหวัดยะลา ในระหว่างทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบตัวอักษร RKK พ่นด้วยสเปรย์สีดำอยู่บนถนน และจากการสอบสวนทราบว่า เป็นการกระทำของเด็กผู้ชาย อายุประมาณ 8-13 ปี จำนวนสามคน ที่ถูกยุยงจากชาวบ้านในพื้นที่ให้เขียน คำว่า RKK

นางรอปีอะ แวดอเลาะ ชาวบ้านอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กล่าวว่า ตัวเองมีลูกชาย 3 คน อายุ 9-12 ปี รู้สึกเป็นห่วง เมื่อทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่พบเด็กในพื้นที่พ่นสีสเปรย์ คำว่า RKK เพราะช่วงปิดเทอมเด็กมีเวลาว่างอยู่ที่บ้าน แทบไม่มีอะไรทำ จึงเป็นโอกาสที่จะถูกคนไม่ดีชักชวนไปทำเรื่องที่ไม่ดีได้โดยง่าย

"ข่าวที่ได้ยินมา จะเป็นจริงหรือไม่จริง แต่ทุกคนกำลังระแวงกันหมด” นางรอปีอะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจบันนังสตา จังหวัดยะลา ท่านหนึ่งกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เกิดขึ้นจริง แม้ทางตำรวจไม่ได้ลงบันทึกประจำวัน แต่ก็ทราบว่า มีเรื่องนี้เกิดขึ้น มีการเก็บภาพเด็กและตัวอักษรที่ถูกพ่นบนถนน ทราบว่าเจ้าหน้าที่ที่จับได้ มีการปรับทัศนคติทั้งเด็กและผู้ปกครองเรียบร้อยแล้ว

ทางด้านนางรอปีอะ ได้กล่าวต่อไปว่า “ตอนนี้ ในพื้นที่มีทั้งเรื่องขบวนการก่อความไม่สงบและ เรื่องยาเสพติด ไม่รู้จะพาลูกหนีไปทางไหน ได้แต่ขอภาวนา อย่าให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีกับลูก และขออย่าให้ลูกไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ดี แล้วก็พยายามสอนพวกเขาทุกวัน” นางรอปีอะ กล่าว

นายอาหามะ แดวอสนุง ชาวบ้านอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี กล่าวว่าตนได้ยินมาเหมือนกันว่า ที่บันนังสตา จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่จับเด็กชาย 3 คน ที่พ่นสีตามถนน แต่ไม่รู้ว่าข่าวที่ ออกตามสื่อและชาวบ้านพูดกัน จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ตนเองและเพื่อนบ้าน รวมทั้งชาวบ้านต่าง ได้แสดงความห่วงใยต่อลูกหลานในเรื่องนี้

“โรงเรียนปิดเทอม เด็กๆ ไม่มีอะไรทำ ต้องอยู่บ้านเฉยๆ จะให้ทำงานก็ยังเล็ก จะให้ไปเรียนพิเศษ ก็ไม่มีเงิน กลัวมาก ถ้าพวกเขาไปร่วมขบวนการ อนาคตของเขาและครอบครัวคงไม่เหลือ" นายอาหามะ กล่าว

“ผมมั่นใจว่า เด็ก 3 คน ที่ทำเรื่องแบบนี้ ครอบครัวเขาก็ไม่ทราบตั้งแต่แรกว่าลูกชายถูกชักชวนไปในทางแบบนี้ และคงคิดเหมือนผู้ปกครองอื่นๆ ที่รู้สึกเป็นห่วงลูกหลาน ช่วงปิดเทอม" นายอาหามะ กล่าวเพิ่มเติม