เหตุรุนแรงคืนวันพุธคร่าพลเรือน-ทหารสามราย ในจังหวัดแดนใต้

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.11.03
ภาคใต้
TH-deepsouth-620 เจ้าหน้าที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุวางเพลิงและระเบิดในปั๊มป์น้ำมัน ปตท. บ้านดอนยาง อำเภอหนองจิก เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2559
เบนาร์นิวส์

ในวันพฤหัสบดี (3 พ.ย. 2559) นี้ ประชาคมมุสลิมพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ร่วมกันประณามการก่อเหตุรุนแรงของคนร้ายที่เกิดขึ้นในคืนวันพุธถึงตอนเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย

นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ได้ออกแถลงการณ์ของชมรมอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น ในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มีใจความว่า "การกระทำของผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ ในนามของชมรมพี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่อำเภอจะนะ และในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งประกอบด้วย อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น จำนวน 200 คน รู้สึกเสียใจและเศร้าสลด และขอต่อต้านการใช้ความรุนแรง ในการทำลายชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง”

“อำเภอจะนะ พี่น้องอยู่กันอย่างสันติสุข ทั้งไทยพุทธ-มุสลิม ไม่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายทำร้ายประชาชน และเจ้าหน้าที่มาหลายปีแล้ว การกระทำของผู้ไม่หวังดีในครั้งนี้ จึงรับไม่ได้ และขอสัญญาว่าจะให้ความร่วมมือและสอดส่องความไม่สงบเรียบร้อยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผนึกกำลังกันเป็นประชารัฐ เพื่อให้อำเภอจะนะเป็นอำเภอที่มีแต่ความสงบสุขสันติสุขตลอดไป" นายศักดิ์กรียา กล่าว

ในวันเดียวกันนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เรียกร้องทุกภาคส่วนร่วมประณามการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ได้ก่อเหตุวางระเบิดขึ้น 17 แห่ง ในคืนที่ผ่านมา

“ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม กลุ่มเอ็นจีโอ และเครือข่ายองค์กรที่มักเรียกร้องหาความเป็นธรรมในพื้นที่ ได้ร่วมกันประณามการกระทำของกลุ่มคนร้าย และร่วมกันปฏิเสธการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบด้วย” พันเอกยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาคสี่ ส่วนหน้ากล่าว

ส่วน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกำลังรวบรวมพยานและหลักฐาน เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ขณะที่มูลเหตุจูงใจเชื่อว่า อาจเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการจัดการของรัฐ

เหตุรุนแรง 17 แห่ง ในดึกวันพุธต่อเนื่องถึงเช้าวันพฤหัสบดี

เบนาร์นิวส์ ได้รวบรวมการรายงานเหตุการณ์ของทางการ พบว่า มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น 17 แห่ง ในพื้นที่ 7 อำเภอของสามจังหวัด ได้แก่ ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา โดยเริ่มต้นจากเวลา 21.30 น. ของคืนวันพุธจนถึงเวลา 07.00 น. เช้าวันพฤหัสบดี ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 4 คน

เหตุการที่สร้างความเสียหายถึงชีวิต เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ป้อมปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารราบที่ 1514 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 ที่บริเวณหน้าสำนักงานที่ทำการทหารผ่านศึก ทำให้พลทหารนพพล แก้วเพชร เสียชีวิต

ในพื้นที่จังหวัดสงขลา นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ผู้จัดการศูนย์รถยนต์อีซูซุ สาขาอำเภอจะนะ กล่าวว่า เกิดเหตุคนร้ายยิงพนักงานรักษาความปลอดภัยของศูนย์ฯ เสียชีวิต 2 ราย คือ นายสัญญา สมานการดี และ นายดลมาเลก หลีเต๊ะ

“คนหนึ่งตายในออฟฟิศ อีกคนตายนอกโชว์รูม คนนี้ถูกยิงเยอะพอสมควร คือ เราไม่รู้ว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้ปะทะคารมอย่างไรบ้างกับพนักงานรักษาความปลอดภัย เพราะเขาก็ไม่มีปืน” นายอนุศาสน์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติอีกด้วย กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ในอำเภอเทพา เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสิน หน้าร้านสัมพันธ์เฟอร์นิเจอร์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย คือ นายอิระฟาน สะรีบู น.ส.กุรามิง ลอมา และ น.ส.รสริน มณีกัน

นอกจากนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกหนึ่งราย หลังจากเข้าระงับเหตุคนร้ายวางเพลิงร้านเซเว่นอีเลเว่นในพื้นที่ปั๊มป์น้ำมัน ปตท. ในบ้านดอนยาง อ.หนองจิก ปัตตานี แล้วโดนระเบิดที่คนร้ายลอบวางไว้

“เหตุเกิดเมื่อประมาณ 22.00 น. คนร้ายไม่ต่ำกว่า10 คน ใช้รถกระบะชุดหนึ่งไปเผาเซเว่น อีกชุดนำระเบิดไปวาง เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็น นายเสรี แวมามุ แกนนำระดับปฏิบัติการณ์กับพวกก่อเหตุในพื้นที่” พ.ต.อ.ฐมฌ์พงศ์ เพ็ชร์พิรุณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจหนองจิก กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

เหตุเกิดเพราะฝ่ายก่อความไม่สงบท้าทาย ครม.ส่วนหน้าหรือไม่

การเกิดเหตุการณ์รุนแรงในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ในช่วงกลางวัน ได้มีการประชุมระหว่างคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.ส่วนหน้า) ที่มีพลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าคณะ เป็นประธาน ทั้ง 13 คน และผู้นำศาสนาอิสลาม ผู้นำศาสนาพุทธ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเอ็นจีโอในพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจ และมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่นดำเนินงาน

เมื่อเร็วๆ นี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แต่งตั้ง คปต.ส่วนหน้า หรือที่สื่อมวลชนเรียกว่า ครม.ส่วนหน้า เพื่อนำนโยบายจากส่วนกลางไปมอบให้หน่วยงานในพื้นที่ เช่น กอ.รมน. ที่ดูแลความปลอดภัย และ ศอ.บต. ที่ดูแลด้านกิจการพลเรือนและการพัฒนา ได้นำไปปฏิบัติ รวมทั้ง จะเป็นตัวกลางในการประสานงานหน่วยในพื้นที่กับนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ด้านพลเอกอุดมเดช ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษรัฐบาล กล่าวว่า รัฐบาลต้องการให้คณะ ครม.ส่วนหน้า และหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินงานด้วยสันติวิธี เนื่องจากซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานยุทธศาสตร์ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”

ส่วนเรื่องความกังวลเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะผู้แทนพิเศษฯ นั้น พลเอกอุดมเดช กล่าวว่า "ยืนยันว่าจะทำหน้าที่เพียงการประสานงานระหว่างพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กับส่วนกลาง เพื่อขับเคลื่อนงานในพื้นที่ให้เร็วขึ้น โดยไม่มีอำนาจในการสั่งการใดๆ ขอให้สบายใจในส่วนนี้"

ชาวบ้านดอนยาง ในอำเภอหนองจิก ที่อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปั๊มป์ ปตท. คนหนึ่ง กล่าวว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเป็นการท้าทาย ครม.ส่วนหน้า ที่เปิดตัวเต็มคณะในพื้นที่ในวันพุธนี้

อย่างไรก็ตาม พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในกรุงเทพ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่พบเห็นความเชื่อมโยงเหตุที่เกิดขึ้นกับการเดินทางลงพื้นที่ครั้งแรกของ ครม.ส่วนหน้าแต่อย่างใด

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง