ชาวปัตตานี-นายกฯ ประณามคนร้ายระเบิดตลาดบ่อทอง

ในวันอังคารนี้ ประชาชนในจังหวัดปัตตานี กว่า 300 คน ได้ชุมนุมแสดงพลังที่ตลาดนัดบ่อทอง อำเภอหนองจิก ปัตตานี เพื่อประณามคนร้ายที่วางระเบิดตลาดแห่งนี้ ในระหว่างที่ชาวมุสลิมออกไปจับจ่ายอาหารก่อนละศีลอดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จนทำให้เด็กและสตรีเสียชีวิตสองราย โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประณามว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ในขณะที่โฆษกของมาราปาตานี กล่าวว่า เหตุรุนแรงเกิดจากการรุกทางปฏิบัติการจากทั้งสองฝ่าย

พันเอกธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงในที่เกิดเหตุต่อหน้าผู้ร่วมชุมนุมว่า ผู้เสียชีวิต คือ ด.ช.อัยดิลฟิตรี ยะโก๊ะ อายุ 14 ปี และ นางสารีปะห์ อาเย๊าะแซ อายุ 35 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 23 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 4 นาย และประชาชนอีกจำนวน 19 ราย โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้แก้แค้นการสูญเสียของสมาชิกในกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จากการที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกดดันในช่วงรอมฎอน ซึ่งฝ่ายผู้ก่อเหตุมีความเชื่อที่ถูกบิดเบือนว่า การปฏิบัติในช่วงสิบวันสุดท้ายของรอมฎอนจะได้บุญมากขึ้น

ด้านญาติของ ด.ช.อัยดิลฟิตรี ได้กล่าวว่า ทำพิธีศพให้กับ ด.ช.อัยดิลฟิตรี เรียบร้อยแล้วตอนสี่ทุ่มในคืนวันจันทร์ หลังเกิดเหตุ และแสดงถึงความเจ็บปวดแก่เบนาร์นิวส์ว่า

“เขาเป็นเหยื่อจากเหตุระเบิดตลาดนัดบ่อทอง ไม่มีใครรู้ว่า ถ้าออกจากบ้านแล้ว จะมีโอกาสกลับบ้านอีกไหม อยากฝากผู้ที่ก่อเหตุ อยากให้คิดสักนิดว่าคนที่สูญเสียมันทรมานแค่ไหน หลังจากนี้ เขาจะอยู่อย่างไร มันเจ็บปวดที่ต้องเห็นลูกตัวเองกลับบ้านด้วยร่างที่ไร้วิญญาณ" ญาติของ ด.ช.อัยดิลฟิตรี กล่าวโดยไม่ประสงค์ออกนาม

“น้องชายหนูคนนี้ เป็นเด็กดีเรียนตะห์ฟิซ (เรียนศาสนา) กลับจากเรียนก็มาช่วยที่บ้านทำงานบ้าน เป็นคนบริสุทธิ์ เด็กคนนี้อายุเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น ต้องมาจากไปกับเหตุการณ์แบบนี้มันสมควรแล้วหรือ... พวกเราไม่รู้ว่าพวกคุณต้องการอะไรที่ได้ก่อเหตุแบบนี้ ครอบครัวหนูรับเหตุการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ไม่ได้จริงๆ” ญาติของ ด.ช.อัยดิลฟิตรี รายเดียวกันกล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ถ่ายทอดถ้อยคำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย และกล่าวประณามผู้ก่อเหตุว่า

“นายกฯ แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย โดยสั่งการฝ่ายความมั่นคงให้เร่งพิสูจน์ และรวบรวมหลักฐาน เพื่อสืบหาคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไร้มนุษยธรรม โดยเกิดเหตุกลางตลาดใหญ่ ซึ่งมีประชาชนไปจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง ยังเกิดขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งบุญที่ควรทำแต่ความดี”

โฆษกของมาราปาตานีโทษสองฝ่าย

ในวันนี้ เบนาร์นิวส์ได้สอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวไปยังนายอาบูฮาฟิซ อัล-ฮาคิม โฆษกของมาราปาตานี ซึ่งเป็นองค์กรร่มของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐว่า กลุ่มขบวนการเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในช่วงเดือนรอมฎอนนี้หรือไม่ ซึ่งนายอาบูฮาฟิซ กล่าวว่า สาเหตุมาจากทั้งสองฝ่าย

“ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการรุกทางปฏิบัติการจากทั้งสองฝ่าย ฝ่ายรัฐทำมาตั้งแต่เริ่มต้นรอมฏอน ฝ่ายกองกำลังก็มาเริ่มช่วงท้ายๆ”

นอกจากนั้น นายอาบูฮาฟิซ ได้กล่าวถึงอนาคตของการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ว่า "การพูดคุยสันติสุขก็ต้องรอความชัดเจนของการจัดตั้ง รัฐบาล เรายังไม่ได้ถอนตัว ฝ่าย facilitator ก็ยังอยู่ รอว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในฝั่งไทย... เราเห็นฝ่ายรัฐกำลังเล่นกลในสภาฉันใด เราก็เห็นเขาเล่นกลบนโต๊ะพูดคุยฉันนั้น”

ด้านนายกัสตูริ มาห์โกตา กลุ่มพูโล ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งได้ประณามสิ่งชั่วร้าย และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินกระบวนการสอบสวนที่โปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด

“มีความน่าจะเป็นสูงที่มีมือที่สาม ที่มองไม่เห็น ที่มีบทบาทในเหตุการณ์ที่โหดร้ายนี้ เราจะเสียใจอย่างสุดซึ้ง ถ้าการกระทำนั้นดำเนินการโดยนักสู้ เนื่องจากมันจะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของนักสู้นั้นเอง” นายกัสตูริ กล่าวทางโซเชียลมีเดีย

สรุปเหตุรุนแรงช่วงสิบวันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดการถือศีลอด

นอกจากเหตุระเบิดที่ตลาดบ่อทองแล้ว เมื่อเวลาเที่ยงครึ่งของวันจันทร์ที่ 27 พ.ค. ร.ต.อ.นุกูล เทพรัตน์ รอง สว.สอบสวน สภ.ยะหา รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.ทพ.47 ร่วมกำลังสามฝ่ายสนธิกำลังเข้าติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมาย ในพื้นที่จังหวัดยะลา และได้เกิดการปะทะกันขึ้นกับกลุ่มคนร้ายที่ บริเวณบ้านเจาะตาแม ม.4 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

ซึ่งในวันนี้ พันเอกธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต คือ นายอับดุลเลาะ ลาเต๊ะ เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการสั่งการ มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 7 หมาย

"การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ได้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน เพื่อทำลายความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มุ่งสร้างสถานการณ์ เพื่อสร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ตามความเชื่อที่ถูกบิดเบือนว่าจะได้บุญมากขึ้น” พันเอกธนาวีร์ กล่าว

“จากการสูญเสียของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ได้มีการตอบโต้การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการลอบวางระเบิด บริเวณตลาดนัดบ่อทอง บ้านบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 16.15 น. ของวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 โดยอาศัยช่วงเวลาที่พี่น้องประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารเพื่อเตรียมละศีลอด” พันเอกธนาวีร์ กล่าวเพิ่มเติม

และเมื่อวันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม นี้ อันเป็นวันที่สองของสิบวันสุดท้ายของรอมฎอน ได้เกิดเหตุคนร้ายยิง อส.ทพ.นย.สมชาย เชิงชมพู อายุ 20 ปี และ อส.ทพ.นย.มูฮัมหมัดรีสราน อายุ 22 ปี ในสังกัดนาวิกโยธินทหารพราน เสียชีวิตสองนาย ในขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อกลับฐานปฏิบัติการ บนถนนสายต้นไทร-ไม้แก่น ม.1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส

ต่อมาในเวลาประมาณหกโมงเย็น ร.ต.ท.กิตติ ใจหาญ รอง สว. (สอบสวน) สภ.จะนะ จ.สงขลา รับแจ้ง กล่าวว่า ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณป้อม ชรบ. ริมถนนสายจะนะ-บ้านสะพานไม้แก่น หลังสถานีรถไฟจะนะ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต จำนวน 1 นาย ทราบชื่อ คือ ด.ต.โกศล คงสวัสดิ์ อายุ 52 ปี บาดเจ็บอีกจำนวน 3 นาย รวมทั้งชาวบ้านจำนวน 2 ราย

มาตาฮารี อิสมาแอ ในนราธิวาส มีส่วนในรายงานฉบับนี้