ขบวนการก่อเหตุใต้ ยิงชุดคุ้มกัน ร.ร.บ้านบูโกะ เสียชีวิต 4 ราย นักเรียนบาดเจ็บหนึ่งราย
2019.01.10
ปัตตานี

ในวันพฤหัสบดีนี้ ได้เกิดเหตุคนร้ายสวมเครื่องแต่งกายคล้ายทหาร ใช้อาวุธปืนยิงอาสาสมัครรักษาดินแดนที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนบ้านบูโกะ ในอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย ก่อนยึดอาวุธปืนไรเฟิลไปด้วย 4 กระบอก และยังมีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกหนึ่งราย
จากสถิติเหตุยิง-ระเบิด ที่เกิดขึ้นแล้วใน ปี 2562 ซึ่งเบนาร์นิวส์รวบรวมจากข้อมูลของทางการ เหตุการณ์ในวันนี้ นับเป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 5 เป็นอย่างน้อย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในปีนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 6 ราย และมียอดผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างน้อย 7 ราย ในจำนวนนี้ เป็นเด็กนักเรียน 2 คน
ร.ต.ท.วิชา หนูแป้นน้อย ร้อยเวร สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบลประจัน ซึ่งทำหน้าที่คุ้มครองครูและนักเรียนที่โรงเรียนบ้านบูโกะ หมู่ 5 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อตอนใกล้เที่ยงของวันนี้ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเห็นคนร้ายสวมชุดคล้ายเครื่องแบบทหารพราน ทำทีว่ามาตรวจเยี่ยมก่อนที่จะยิงใส่ ชคต. จนเสียชีวิต
“คนร้ายทำเป็นมาตรวจเยี่ยมและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่เผลอ คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ทันที ส่งผลให้ อส.เสียชีวิตคาที่ 4 นาย โดยคนร้ายได้นำอาวุธปืน เอชเค.-33 ของผู้เสียชีวิตไปด้วยจำนวน 4 กระบอก” ร.ต.ท.วิชา กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต ได้แก่ นายมูฮำหมัด เตะเด็ง อายุ 29 ปี นายอับดุลเลาะ สาและ อายุ 34 ปี นายบือราเฮง จิ อายุ 24 ปี และ นายสุไลมาน แวอูเซ็ง อายุ 43 ปี ส่วนเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมปีที่ 1 ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย คือ ด.ญ.สูวานี มามะ
ภรรยาพยายามกลั้นน้ำตา
นายสาการียา ดอเลาะ ผู้ใหญ่บ้านบูโกะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดเมื่อประมาณเวลา 11.54 น. ของวันนี้ ซึ่งฝนกำลังตก โดยได้ยินเสียงปืน แต่คิดว่าเป็นเสียงประทัด จนกระทั่งมีคนวิ่งมาบอกว่า มี อส. ถูกยิง จึงรีบไปดู
“ตอนแรกที่เข้ามาดู มีเสียชีวิต 2 คน ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ในระหว่างนั้นไม่นานทั้งหมดก็เสียชีวิตลงทั้งสี่คน รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเกิดที่นี่ ทั้งๆ ที่เราก็ระมัดระวัง เฝ้าระวังมาตลอด” นายสาการียากล่าว
ด้านนางสาวซัยนู บินมะแซ ภรรยา อส.สุไลมาน หนึ่งใน อส.ที่เสียชีวิต กล่าวว่า เสียใจต่อการจากไปของสามี แต่จะพยายามกลั้นน้ำตาไว้
“วันนี้ จะพยายามไม่ให้น้ำตาไปโดนที่ศพเขา เพราะอาจจะทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ จะเข้มแข็งให้ได้ หลังจากนี้ ก็ต้องเข้มแข็งเพื่อลูกๆ ทั้งสองคน” นางสาวซัยนู ที่กลายเป็นแม่ม่ายลูกสอง และที่เพิ่งเสียลูกคนที่สามสุดท้องไปเมื่อห้าเดือนก่อน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
“ที่ผ่านมา สามีพูดตลอดว่าอาชีพไหนก็เสี่ยง ใครๆ ก็ว่า เป็น อส. แล้วน่ากลัว แต่ในความรู้สึกของเขาๆ มองว่าทำอาชีพอะไรถ้าถูกกำหนดมาให้เป็นยังไงก็จะเป็นอย่างนั้น การเป็น อส. ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่ด้วย ไม่คิดเลยว่าเขาจะจากเราไปเร็วขนาดนี้” นางสาวซัยนู กล่าวเพิ่มเติม
ตำรวจ สภ.เมือง ยิงปะทะ-จับผู้ต้องสงสัยได้หนึ่งราย
ร.ต.ท.วิชา ร้อยเวร สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุยิงในโรงเรียนบ้านบูโกะ ในอำเภอยะรังแล้ว คนร้ายซึ่งคาดว่ามีประมาณ 10 คน ได้พยายามหลบหนี โดยได้โปรยตะปูเรือใบบนพื้นถนน เพื่อสกัดการติดตามของเจ้าหน้าที่
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ สภ.ปัตตานี ได้กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า ขณะที่มีผู้ต้องสงสัยสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ถึงด่านสกัดบริเวณมัสยิดกรือเซะ อ.เมือง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ต้องการจะตรวจค้น แต่ผู้ต้องสงสัยขัดขืนจึงเกิดการยิงปะทะ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้หนึ่งคน คือ นายมะกรี อีสอปูเต๊ะ ชาวอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยตรวจพบชุดทหารพรานในกระเป๋า ขณะที่ผู้ต้องสงสัยอีกคนหนึ่งหลบหนีไปได้ แม้ว่าจะโดนยิงที่ข้อมือก็ตาม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ได้รายงานว่าพบคนร้ายอื่นๆ ที่นำปืนของ อส.ที่เสียชีวิตไปด้วยหรือไม่
เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามนายหนึ่ง กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า การก่อเหตุครั้งนี้ เป็นฝีมือของขบวนการก่อเหตุรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า คนร้ายยังมีความพยายามก่อเหตุรุนแรงโดยไม่แยกแยะเป้าหมาย
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นถึงความพยายามของกลุ่มคนร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง และความสูญเสียโดยไม่เลือกเป้าหมาย และสถานที่ในการก่อเหตุ โดยเฉพาะภายในโรงเรียน ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมกับบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียน ทั้งนี้ จะเร่งรัดติดตามกลุ่มคนร้ายเพื่อมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว