คนร้ายยิง อส.ทพ. เสียชีวิต 1 ราย ที่มายอ ปัตตานี
2020.01.22
ปัตตานี

ในวันพุธนี้ เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 41 เสียชีวิต 1 นาย ในพื้นที่อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี หลังจากที่แกนนำบีอาร์เอ็นและคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ทั้งสองได้พบปะอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อหาหนทางยุติความขัดแย้งที่มีการใช้อาวุธ ซึ่ง พลตรี ธิรา แดหวา ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กล่าวในวันนี้ว่า เหตุที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็น
ร้อยตำรวจโท ณัฐวุฒิ โยชน์สุวรรณ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมายอ จังหวัดปัตตานี กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 07.10 น.ว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 41 ณ พื้นที่ หมู่ 1 ตำบลปะโด อำเภอมายอ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
“อาสาสมัครทหารพราน มะสุกกรี ดาโอ๊ะ อายุ 38 ปี อาสาสมัครทหารพราน กรมทหารพรานที่ 41 วังพญา ถูกยิงบริเวณลำตัวจำนวนหลายนัด เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนลูกชาย อายุสามขวบ ไม่ได้รับบาดเจ็บ จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่ผู้ตายอยู่ระหว่างลาพัก และกำลังขี่จักรยานยนต์ ไปบ้านภรรยา พร้อมกับลูกชาย หลังจากซื้อกับข้าวที่ร้านค้าในหมู่บ้าน มุ่งหน้าไป บ้านเขาวัง หมู่ 3 ตำบลตรัง อำเภอมายอ คนร้าย 2 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด ยิงใส่ก่อนหลบหนี” ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ กล่าว
ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน และสืบสวน โดยยังไม่ทิ้งประเด็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือเรื่องส่วนตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ (สงวนชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า เหตุครั้งนี้อาจเป็นเรื่องความมั่นคง
“สาเหตุของการยิงทหารพราน เมื่อเช้าที่ผ่านมา จากการสอบสวนพยานแวดล้อมในพื้นที่ เบื้องต้นเชื่อว่า เป็นเรื่องความมั่นคง ตอนนี้ยังสืบพยานต่อเนื่อง” เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ
อย่างไรก็ตาม พลตรี ธิรา แดหวา ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาคที่ 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็น เนื่องจากเชื่อว่า บีอาร์เอ็นจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ
“จะไปก่อเหตุทำไม เมื่อวัตถุประสงค์การก่อเหตุ เพื่อให้เกิดความสนใจ ตอนนี้เขาไม่ก่อเหตุ เราก็เฝ้าติดตามกันไป เรื่องความขัดแย้งที่ใช้ความรุนแรงด้วยอุดมการณ์ ตอนนี้มันไม่มี มีเรื่องเดียว เรื่องส่วนตัวที่จะเกิด ไปดูว่าเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องอะไร มันไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องขบวนการกลุ่มบีอาเอ็น” พลตรีธิรา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
“หัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายเห็นต่าง ยินดีให้กลุ่มอื่นเข้ามาพูดคุยสันติสุขเพิ่มเติม โดยบีอาร์เอ็นจะเป็นหลัก แสดงว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาการใช้ความรุนแรง ไม่ใช่มีเฉพาะจากกลุ่มบีอาร์เอ็นกลุ่มเดียว มีกลุ่มอื่นด้วย เราก็ยินดีที่จะให้คุย เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากกลุ่มอื่น ถ้าให้ผมการันตีเวลานี้ มั่นใจว่า บีอาร์เอ็นเขารักษาพันธะสัญญา 7 ข้อ ในการที่จะดำเนินการต่อไป แต่ขอไม่เปิดเผยตรงนี้” พลตรีธิรา กล่าวเพิ่มเติม
เกิดเหตุระเบิดที่ยะลา แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ในตอนบ่ายวันเดียวกันนี้ พันตำรวจเอก กฤตชาติ พิณสุวรรณ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกรงปินัง จังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดโจมตีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอกรงปินัง ขณะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับครูที่ หมู่ 5 บ้านสะเอะใน ตำบลสะเอะ อำเภอกรงปินัง จึงนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
“ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงสะพานใกล้โรงเรียนบ้านสันติวิทยา พบหลุมระเบิดกว้าง 1 ฟุต ลึกครึ่งฟุต พบสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัด วงจรอิเล็กทรอนิกส์ วิทยุสื่อสารกระจัดกระจาย จำนวนมาก จากการสอบสวนทราบว่า รถของอาสาสมัครรักษาดินแดนแล่นมาใกล้ถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายได้กดระเบิดแสวงเครื่องอัดกล่องเหล็กน้ำหนัก 3 กิโลกรัม มาวางไว้แบบเร่งด่วน จุดชนวนกับวิทยุสื่อสารทำให้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน 4 นาย หูอื้อ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่มีใครเสียชีวิต” พันตำรวจเอกกฤตชาติ กล่าว
เจ้าหน้าที่ซึ่งหูอื้อ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ประกอบด้วย 1. อส.อับดุลเลาะห์ ดือราแม 2. อส.ซับรี โต๊ะขุนละใบ 3. อส.ฮากีม แวลาเต๊ะ และ 4. อส.ทพ.อุทิส ปัญญาเจริญยิ่ง
พันตำรวจเอกกฤตชาติ ระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นฝีมืออาร์เคเค เพื่อประกาศศักยภาพ และสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน เมื่อประมาณเวลาเก้าโมงครึ่ง ที่หัวสะพานบนถนน รอยต่อระหว่างบ้านซีรอ หมู่ที่ 9 กับบ้านอุเบง หมู่ที่ 4 ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา มีผู้พบสิ่งของคล้ายวัตถุระเบิด เป็นถังแก๊สปิคนิคสีส้ม 1 ถัง สายไฟยาว 10 เมตร รีโมททีวี 1 อัน อย่างไรก็ตาม วัตถุดังกล่าวไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่จึงเข้าเก็บหลักฐาน โดยเชื่อว่า การกระทำครั้งนี้เป็นการพยายามก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่