คนร้ายวางระเบิดหน้าสำนักงาน ศอ.บต. บาดเจ็บอย่างน้อย 25 ราย

มารียัม อัฮหมัด
2020.03.17
ปัตตานี
200317-TH-sbpac-bombs-1000.jpg เจ้าหน้าที่ตรวจสอบซากรถยนต์กระบะที่คนร้ายซ่อนระเบิดไว้ก่อนจุดชนวน ที่หน้าสำนักงานศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในอำเภอเมือง จังหวัดยะลา วันที่ 17 มีนาคม 2563
เบนาร์นิวส์

ในวันอังคารนี้ เกิดเหตุคนร้ายโจมตีสำนักงาน ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยคนร้ายขว้างระเบิดเข้าไปในรั้ว ก่อนที่จะจุดระเบิดที่ซ่อนในรถยนต์กระบะที่จอดอยู่ด้านหน้าป้ายสำนักงานฯ ซ้ำ เป็นเหตุให้มี รอง ผอ.ศอ.บต. เจ้าหน้าที่ ประชาชน และสื่อมวลชน ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 25 ราย

ขณะที่ เฟซบุ๊กเพจที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องเป็นผู้สนับสนุนขบวนการบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการติดอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยใช้ชื่อเพจว่า BRN Barisan Revolusi National ได้โพสต์ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นหน้า ศอ.บต. พร้อมแฮชแท็กข้อความ “#คำสัญญาตามที่แถลง #Amanah_yang_di_kluarkan” โดยโพสต์ข้อความบอกใบ้ว่า เป็นฝีมือพวกตนที่ตอบโต้เจ้าหน้าที่ที่ไล่ล่าเพื่อนร่วมฝ่ายขบวนการ ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

พ.ต.อ. นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมือง จังหวัดยะลา เปิดเผยเมื่อเวลา 10.34 น. ว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ด้านหน้า สำนักงาน ศอ.บต. ถ.สุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

“แรงระเบิดทำให้ป้าย ศอ.บต. ขาด และรั้วอาคารห้องประชุม ศอ.บต. รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน รองเลขา ศอ.บต. ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 25 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา และโรงพยาบาลศิริยะลารัตนรักษ์ จากการสอบสวนทราบว่า ระเบิดเกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยลูกแรก คนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณด้านหน้า ศอ.บต. แล้วขว้างระเบิดเข้าไปในรั้ว ศอ.บต.” พ.ต.อ.นราวี กล่าว

“เหตุเกิดขณะที่เจ้าหน้าที่มีการประชุมอยู่ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์โควิด-19 จากนั้น ลูกที่สองเป็นคาร์บอมบ์ โดยระเบิดขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมวิ่งหนีออกจากห้องประชุม เหตุระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เบื้องต้นพบ รถต้องสงสัยเป็นรถบรรทุกไม้ที่มาจอดก่อนเกิดเหตุระเบิด” พ.ต.อ.นราวี กล่าวเพิ่มเติม

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนเกิดเหตุมีชายคนหนึ่งขับรถกระบะบรรทุกไม้มาจอดบริเวณด้านหน้าป้าย ศอ.บต. และมีชายอีกคนขี่จักรยานยนต์มารับออกไป

“การประชุมผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง ได้ยินเสียงระเบิดลูกแรก ตอนแรกทุกคนเข้าใจว่า หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด แต่เลขาธิการ ศอ.บต.ได้เดินออกไปนอกห้อง ก่อนกลับมาแจ้งให้ผู้ร่วมประชุมไปเอารถจักรยานยนต์ที่จอดบริเวณด้านหน้าอาคารไปจอดที่อื่น แต่ไม่ทันที่เจ้าหน้าที่จะออกไปจากห้องประชุม ระเบิดลูกที่สองก็ระเบิดขึ้น ทำให้ทุกฝ่ายวิ่งหนี โดยระเบิด 2 ลูก ห่างกันประมาณ 10 นาที” ผู้อยู่ในเหตุการณ์ (ขอสงวนนามสกุลเพื่อความปลอดภัย) กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

“สะเก็ดระเบิดไปโดนกระจกแล้วเศษกระจกมาโดน รอง เลขา ศอ.บต. ที่จมูกเลือดออก มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดหลายคน มันน่ากลัวมาก เสียงดังมาก ตกใจ ไม่คิดว่าจะเกิดได้ขนาดนี้ แต่มันก็เกิด ความปลอดภัยไม่มีจริง ๆ อยู่ที่ไหนก็ไม่มีความปลอดภัย สถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นได้ทุกที่จริง ๆ ศอ.บต.เป็นหน่วยงานราชการที่คิดว่าน่าจะปลอดภัย แต่ก็ไม่ปลอดภัย” พยานในเหตุการณ์รายเดิมระบุ

พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คนร้ายก่อเหตุเพื่อสังหารหมู่ โดยใช้ระเบิดชนิดขว้างหน้า ศอ.บต. เพื่อดึงเจ้าหน้าที่ และประชาชนออกมาดู แล้วระเบิดซ้ำด้วยรถยนต์ประกอบระเบิด เพื่อหวังสังหารหมู่ และทำลายภาพลักษณ์เมืองเศรษฐกิจ ถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้ประชาชนที่กำลังมุ่งเน้นแก้ปัญหาภัยโควิด-19 อยู่ในขณะนี้ จึงสมควรต้องประณามพฤติกรรมในครั้งนี้กันอย่างกว้างขวาง”

รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ มีดังนี้ 1. น.ส.อริสรา จริงสันเทียะ 38 ปี 2. ส.ต.ต.ธีระพล จีนใหม่ 31 ปี 3. นายมุกะตา หะไร 60 ปี โดยสามคนแรก อาการสาหัส 4. นายธนินสรณ์ พรหมกุล 5. นายอับดุฮาดี เจ๊ะยอ 6. นายนครินทร์ ชินวรโกมล 7. นายมาวันดี รามันห์สิริวงค์ 8. ร.อ.ฉลอง อนันต์รัตน์มณี 9. น.ส.สายทิตย์ สุคง 10. นายบูดีมัน ซาเฮาะ 11. น.ส.นูรอัฟฟาน รอแม 12. นางจิราภา อุตทิตย์ 13. นางสุรีรัตน์ แก้วมณีรัตน์ 14. นายสุชาติ เบ็ญจสรรณ 15. นายสัลมัน นิเลาะ 16. สท.อัฟฟาน สุดใจ 17. นางปราณี นวลจันทร์ 18. นายจักรฤษณ์ รัตนพันธ์ 19. ด.ต.เสรี ศรีนรัตน์  20. ส.ต.ท.มูหาหมัดฮาซัน รอตันหยง 21. พ.อ.เจษฎา ปินะสุวรรณ 22. ยุทธนา จันทร์วิมาน 23. นายกิตติ ชาญณรงค์ 24. นายสอมรี  เดิมตันเตะ และ 25. นายฮาซัน สาแม

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนมาถึงที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ ที่คนร้ายซ่อนระเบิดไว้ก่อนจุดชนวน ที่หน้าสำนักงานศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา วันที่ 17 มีนาคม 2563 (เอเอฟพี)
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนมาถึงที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ ที่คนร้ายซ่อนระเบิดไว้ก่อนจุดชนวน ที่หน้าสำนักงานศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา วันที่ 17 มีนาคม 2563 (เอเอฟพี)

เฟซบุ๊กเพจของฝ่ายผู้สนับสนุนกลุ่มบีอาร์เอ็น บอกใบ้เป็นฝีมือพวกตน

หลังเกิดเหตุ เฟซบุ๊กแฟนเพจที่สนับสนุนกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการติดอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ โดยใช้ชื่อเพจว่า BRN Barisan Revolusi National ได้โพสต์ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นหน้า ศอ.บต. พร้อมแฮชแท็กข้อความ “#คำสัญญาตามที่แถลง #Amanah_yang_di_kluarkan” บอกใบ้ว่า เป็นการกระทำของกลุ่มใดอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ ฉก.ปัตตานี ได้สนธิกำลังสามฝ่าย ติดตามคนร้ายที่หลบซ่อน ในพื้นที่บ้านเบญญา ม.2 ต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งอยู่ริมเขื่อนปัตตานี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และได้เกิดการปะทะกันหลายระลอก จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว 4 นาย อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนร้ายยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ และทางเฟซบุ๊กเพจของฝ่ายเชื่อว่าผู้สนับสนุนบีอาร์เอ็น ได้ระบุเมื่อวันที่ 15 มีค. ว่า

“ขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ส่ง Message มามากมายหลังจากเกิดเรื่อง ทาง BRN Army จะแสดงความขอบคุณให้เห็นเป็นประจักษ์อีกครั้ง จึงขอให้ทางกองทัพสยามไทยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ ที่ตั้งของท่าน”

ซึ่งในวันนี้ ได้เกิดเหตุระเบิดที่ สำนักงาน ศอ.บต. ดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น เหตุที่เกิดขึ้นอาจเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสร้างสถานการณ์ และประสงค์ต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีข้อสั่งการให้ตำรวจในพื้นที่เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวัง และการป้องกันเหตุความไม่สงบในพื้นที่ทั้งหน่วยราชการ และสถานที่สำคัญต่างๆ แล้ว

ในวันนี้ สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (STMA) ได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากเหตุครั้งนี้ มีสื่อมวลชนเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย

“เหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้ก่อความไม่สงบกระทำการอย่างโหดเหี้ยม มีเจตนาสร้างก่อเหตุที่รุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต และร่างกายของสื่อมวลชน และประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงขอประณามการกระทำที่เลวร้ายเช่นนี้ ขณะเดียวกัน ขอให้สื่อมวลชนอาชีพ รวมถึงผู้ใช้สื่อโซเชียลทุกรูปแบบ พึงระมัดระวังการนำเสนอข่าว ภาพข่าว และคลิป ที่ไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ก่อการร้าย ไม่นำเสนอภาพความรุนแรงที่ไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และไม่เสนอข่าวให้ซ้ำเติมสถานการณ์ในพื้นที่ อันจะก่อให้เกิดความหวาดระแวงต่อกันของประชาชน หรือประชาชนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อนำสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็วที่สุด” แถลงการณ์ ระบุ

นับตั้งแต่ต้นปี 2563 มีพลเรือนและเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง เสียชีวิตอย่างน้อย 28 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 32 ราย จากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามตัวเลขทางการที่รวบรวมโดยเบนาร์นิวส์ และ ผู้ต้องสงสัยก่อความไม่สงบเสียชีวิตอย่างน้อยเก้าราย

มาตาฮารี อิสมาแอ ในนราธิวาส มีส่วนร่วมรายงานข่าวนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง