ทหารพรานเสียชีวิตหนึ่งราย ในเหตุระเบิด บนถนนชนบท ที่ปะนาเระ ปัตตานี
2019.05.01
ปัตตานี

เจ้าหน้าที่ ในอำเภอปะนาเระ ปัตตานี กล่าวในวันพุธนี้ว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิตหนึ่งราย จากการถูกคนร้ายโจมตีด้วยระเบิด ในขณะลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชนบท ก่อนที่ชาวมุสลิมจะเริ่มการถือศีลอด ในต้นสัปดาห์หน้า
ร.ต.อ.นรวิชญ์ ทองสด รอง สว. สอบสวน สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบนถนนสายชนบท บ้านราวอ ม.1 ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ในเวลา 10.00 น. ของวันนี้ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา และประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าที่เกิดเหตุ
ร.ต.อ.นรวิชญ์ กล่าวว่า ในสถานที่เกิดเหตุ พบร่างของ อส.ทพ.ดำรงค์ ทองโอ อายุ 34 ปี สังกัด ร้อยทหารพรานที่ 4207 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 ถูกสะเก็ดระเบิด เสียชีวิตทันที
“เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดกว้าง 1 เมตร ลึก 50 ซม. พบชิ้นส่วนมนุษย์กระจายไปทั่วบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยคนร้ายได้ฝังระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิคนิค น้ำหนักประมาณ 10 ก.ก. จุดชนวนด้วยการ สายไฟลากยาวประมาณ 150 เมตร เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน” ร.ต.อ.นรวิชญ์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
ร.ต.อ.นรวิชญ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อยทหารพรานที่ 4207 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42 จำนวน 6 นาย ด้วยการเดินเท้าเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน และปฏิบัติภารกิจกดดันคนร้ายออกจากหมู่บ้าน พร้อมตรวจหาแหล่งหลบซ่อนของกลุ่มขบวนการณ์ในพื้นที่ ตามนโยบายแม่ทัพภาคที่ 4 หลังจากมีรายงานว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบเตรียมวางแผนที่จะก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอน ขณะที่เดินมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายที่ซุ้มอยู่ ได้จุดชนวนระเบิดแบบลากสายไฟ จึงเกิดระเบิดขึ้นทำให้ อส.ทพ.ดำรงค์ เสียชีวิตทันที
ส่วนประเด็นและสาเหตุ ร.ต.อ.นรวิชญ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
ด้าน พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผบ.ทพ.42 ได้นำกำลังออกติดตามคนร้ายในพื้นที่ทันที
"หลังเกิดเหตุได้นำกำลังร่วมออกไล่ล่าคนร้าย และปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เกิดเหตุทันที เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ รู้ความเคลื่อนไหวว่าเจ้าหน้าที่ว่าเดินลาดตระเวนเส้นทาง จึงนำระเบิดมาฝังไว้ เมื่อสบโอกาสจึงจุดชนวนระเบิดทันที" พ.อ.สมคิด กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อย พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเดือนรอมฎอน ว่าได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเพิ่มความเข้มงวด ทั้งการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด และงานด้านการข่าว
ทั้งนี้ เดือนรอมฎอนจะเริ่มขึ้นในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งชาวมุสลิมจะมีการสังเกตดวงจันทร์ เพื่อยืนยันวันที่แน่นอน
"คนร้ายมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เขาไม่เคยหยุดที่จะผลิตแนวร่วมรุ่นใหม่ และก่อเหตุทันทีเมื่อมีโอกาส มั่นใจว่าการใช้วิธีสันติจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ เหตุการณ์หลังจากนี้ ก็อาจสูงขึ้นบ้างเล็กน้อย หากเทียบสถิติตามปีที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ควรประมาท" ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์