อส.ทหารพรานเจ็บ 2 นาย เหตุคนร้ายยิงถล่มฐานที่ตั้งเจ้าหน้าที่ยะลา

มารียัม อัฮหมัด และมาตาฮารี อิสมะแอ
2018.05.15
ยะลา
180515-TH-military-1000.jpg เจ้าหน้าที่ตรวจแนวรั้วลวดหนามของฐานที่ตั้งชุดคุ้มครองตำบลบาโงยซิแน ในจังหวัดยะลา หลังถูกยิงถล่มด้วย เอ็ม-79 วันที่ 15 พ.ค. 2561
มาตาฮารี อิสมะแอ/เบนาร์นิวส์

เจ้าหน้าที่ในจังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้เครื่องยิงเอ็ม.-79 ถล่มฐานที่ตั้งชุดคุ้มครองตำบลบาโงยซิแน ในจังหวัดยะลา ก่อนรุ่งเช้าของวันอังคารนี้ หลังใช้โดรนบินสอดแนม เป็นเหตุให้อาสาสมัครทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และคนร้ายยังยิงที่ตั้งของตำรวจอีกสองจุดในเวลาต่อมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า กลุ่มก่อความไม่สงบต้องการสร้างความปั่นป่วนในระหว่างการถือศีล ที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้

นายชัยชนะ กฤตยานาถ นายอำเภอยะหา จังหวัดยะลา ได้รับแจ้งจากนายรอซี นือเร็ง ประธาน ชคต.บาโงยซิแน ว่าเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน เอ็ม.79 ยิงถล่มฐานที่ตั้งของชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ในพื้นที่บ้านลีมาปูโระ หมู่ 3 ต.บาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เมื่อเวลาประมาณ 4.25 นาฬิกา จึงประสานไปยัง นายสมบูรณ์ พรหมณี ป้องกันจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ คำสุข รอง ผกก.ป.สภ.ยะหา และเจ้าหน้าท่านอื่น นำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกระท่อมที่พักของเจ้าหน้าที่ บริเวณหลังฐานปฏิบัติการ อยู่ริมทางหลวงสาย 4065 บ้านเนียง-ยะหา พบร่องรอยหลังคาสองจุดที่กระสุนระเบิดตกใส่ และรอยเลือดของอาสาสมัครทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บ

สำหรับอาสาสมัครทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 2 นายนั้น ถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ยะหา อาการปลอดภัยแล้ว

"ช่วงเวลาขณะนั้น ผมเข้าเวรอยู่ประตูทางเข้าของ ชคต. ได้ยินเสียงดังตูมสนั่นหวั่นไหวถึง 2 ครั้ง จึงรีบตั้งสติ พร้อมเพื่อนๆ ใช้ยุทธวิธีตอบโต้คนร้ายทันที จนคนร้ายหลบหนีไป" อ.ส.ทวี ลือแบลูวง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน ซึ่งที่อยู่เหตุการณ์ยิงถล่มที่ตั้งชุดคุ้มครองตำบลที่ประกอบด้วยกำลังจากหลายหน่วยงาน กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

"คนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้อาศัยความมืดเล็ดลอดเข้ามาบริเวณทุ่งนาด้านหลังฐาน แล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม.79 ยิงถล่ม เพื่อสร้างสถานการณ์ช่วงรอมฎอน" พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ คำสุข รอง ผกก.ป.สภ.ยะหา แสดงความเห็นต่อการปฏิบัติการของคนร้ายในครั้งนี้

เจ้าหน้าที่ อส. อีกรายได้กล่าวว่า ในช่วงเวลากลางดึก เมื่อประมาณ 2-3 คืน ที่ผ่านมา ได้มีโดรนไม่ทราบฝ่ายบินวนอยู่รอบฐาน เมื่อเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นและได้ใช้ไฟฉายส่องดู โดรนก็บินหาย คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายที่อาจใช้โดรนบินสำรวจพื้นที่ เพื่อวางแผนในการก่อเหตุครั้งนี้

"กรณีคนร้ายนำโดรนมาบินสำรวจพื้นที่ ก่อนลงมือปฏิบัติการครั้งนี้เป็นเรื่องจริง ประมาณตี 3 ของ 4 วันที่ผ่านมา ได้มีโดรนไม่ทราบฝ่ายบินวน เจ้าหน้าที่ก็ได้เฝ้าระวังแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีความเกี่ยวโยงกัน คาดว่าโดรนดังกล่าวเป็นของคนร้าย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก จึงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างหนักอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงนี้" นายชัยชนะ กฤตยานาถ นายอำเภอยะหา กล่าวยืนยัน

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหน้าใหม่

"เชื่อว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบใหม่ มากกว่ากลุ่มก่อความไม่สงบเดิม เพราะกลุ่มเดิมที่มีกลุ่มก่อความไม่สงบอยู่หลายกลุ่ม และกลุ่มก่อความไม่สงบ มักย่อมสร้างสถานการณ์เพื่อเป็นสัญลักษณ์อยู่แล้ว" พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ยิงถล่มที่ตั้งตำรวจสองจุดในกรงปินัง

นอกจากนั้น ยังได้เกิดเหตุคนร้ายยิงที่ตั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองอีกสองจุด คือ ที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ มว.ฉก.นปพ.13 (ชป.กางเขน) บ้านลือมุ หมู่ที่ 8 ต.กรงปินัง และเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้ราวสิบนาทีจนคนร้ายล่าถอยไป ส่วนจุดที่สอง เกิดเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมยามหน้า สภ.กรงปินัง จำนวนหลายนัด เจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้จนคนร้ายหลบหนีไปเช่นกัน ทั้งสองจุดไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ตามคำบอกเล่าของ พ.ต.อ.นราวี  บินแวอารง ผกก.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา

"คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ซึ่งทุกปีจะมีการก่อเหตุความรุนแรงหลายจุด ทั้งเผายาง ยิงถล่มฐาน ลอบวางระเบิด ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการก่อนเข้าสู่ห้วงเดือนรอมฎอน" พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

เจ้าหน้าที่ระมัดระวังความปลอดภัยเดือนรอมฎอน

จากการรวบรวมข้อมูลของเบนาร์นิวส์ โดยอาศัยรายงานจากทหารและตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึงวันที่ 15 พ.ค. 2561 ได้เกิดเหตุการณ์รุนแรง (ยังไม่ได้ระบุสาเหตุ) แล้วรวม 107 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 59 ราย บาดเจ็บ 112 ราย

เมื่อนับเฉพาะความรุนแรงในรอมฎอน นับตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงระลอกใหม่เมื่อปี 2547 เป็นต้นมา พบว่า ปี 2560 มีความรุนแรงน้อยที่สุด คือ มีเหตุรวม 23 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และบาดเจ็บ เพียง 16 ราย

เมื่อวันพุธที่ผ่านมานี้ ผู้นำศาสนาจาก 10 องค์กร ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อรวมพลังต่อต้านความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอน ฮ.ศ.1439 นี้ หลังจากที่ปีที่แล้ว มียอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บน้อยที่สุด นับตั้งแต่การเกิดเหตุรุนแรงมากว่าสิบปี

ในปีนี้ การถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน จะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคมนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง