ศาลรอลงอาญาหญิงเจ้าของบ้าน ข้อหาให้ที่พักพิงกับกลุ่มขบวนการ

มารียัม อัฮหมัด
2020.07.10
ปัตตานี
200710-TH-deepsouth-widow-convicted-1000.jpg น.ส. อารม๊ะ วานิ ดูแลลูก ๆ ที่บ้านของน้องสาว ในอำเภอปะนาเระ ปัตตานี หลังศาลอาญาปัตตานีลงโทษจำคุก 3 เดือน แต่ให้รอลงอาญาเป็นเวลาหนึ่งปี และปล่อยตัวออกมาวานนี้ ภาพวันที่ 10 กรกฎาคม 2563
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

ศาลจังหวัดปัตตานี ได้พิพากษาลงโทษจำคุก น.ส. อารม๊ะ วานิ เป็นเวลาสามเดือน แต่ให้รอลงอาญาหนึ่งปี ในความผิดฐานให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อความไม่สงบ ขณะเกิดเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในบ้านของตนเอง ในอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกสองรายที่ทหารควบคุมตัว ถูกปล่อยตัวโดยไม่มีการดำเนินคดี

ในวันศุกร์นี้ เบนาร์นิวส์ ได้สัมภาษณ์ น.ส.อารม๊ะ ซึ่งเดินทางไปพักอยู่กับน้องสาว ห่างจากบ้านของ น.ส.อารม๊ะ ในหมู่ที่ 1 ตำบลดอน อำเภอปะนาเระ ออกไปราวหนึ่งกิโลเมตร เพราะยังมีความหวาดระแวง ซึ่ง น.ส.อารม๊ะ เล่าว่า ตนเองถูกศาลตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ และได้รับการปล่อยตัวออกมาในตอนเย็นของวันเดียวกัน

“ฉันกลับมาเมื่อวานตอนเย็น ไปที่ศาลก่อน และโดนปรับเงิน 10,000 บาท เพราะเราเป็นเจ้าของบ้านที่คนร้ายมาอยู่ เขาบอกว่าเราเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด ทั้งที่จริง ๆ แล้วไม่เกี่ยวเลย คนที่มาอยู่ในบ้านเราก็ไม่เกี่ยว ตอนนี้ ยังไม่กล้ากลับบ้านตัวเอง ต้องมาอยู่บ้านน้องสาว เพราะลูก ๆ บอกว่ายังกลัวอยู่ ตลอดระยะเวลาที่ถูกควบคุมตัว ฉันไม่ได้กินข้าวเลย เพราะกินไม่ลง เครียด ตกใจ” น.ส.อารม๊ะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

“วันเกิดเหตุ อยู่ในบ้านกับลูก 4 คน เจ้าหน้าที่มาถามถึงสุไลมาน ซึ่งเป็นลูกชายของพี่สาว เราก็บอกว่าไม่อยู่ เราไม่ทันบอกว่า มีคนอยู่หลังบ้าน ก็ได้ยิงเสียงปืน” น.ส.อารม๊ะ กล่าว

“เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ข้างในบ้านมีคนอยู่ 2 คน แต่ความเป็นจริงมีแค่ นายอันวา ดือราแม คนเดียว (ถูกยิงเสียชีวิต) เขามาอยู่บ้านนาน 2 อาทิตย์ มีคนอื่นพามาอยู่กับน้องชาย เราเครียดมาก ถามน้องตลอดว่าเมื่อไรเขาจะไป จนเจ้าหน้าที่มาและพบยาบ้า” น.ส.อารม๊ะ กล่าวเพิ่มเติม

ในการยิงปะทะที่บ้านเลขที่ 119 ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ส่วนฝ่ายคนร้ายถูกวิสามัญฆาตกรรม 1 ราย

น.ส.อารม๊ะ ระบุว่า ในวันที่ขึ้นศาลนั้น ตนเองอยู่ในสภาวะเครียดและอดอาหาร แม้ว่าทางศาลจะถามว่า จะขอมีทนายหรือไม่ ตนเองกลับตอบปฏิเสธไป ส่วนตนเองนั้นมีอาชีพขายไก่ย่าง และเก็บค่าไฟฟ้า มีรายได้วันละประมาณ 100 กว่าบาท เงิน 10,000 บาท ที่ใช้จ่ายค่าปรับเป็นเงินเก็บที่สะสมมานาน หลังจากจ่ายค่าปรับ จึงทำให้ไม่มีเงินเก็บเหลือ ไม่มีเงินให้ลูกเรียนหนังสือ จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องนี้

น.ส.อารม๊ะ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องสงสัยอีกสองราย คือ นายยะห์รี หวันสนิ (น้องเขย ที่ถูกควบคุมตัวไปพร้อมกันในวันเกิดเหตุ) และนายอิมรอเฮม วาเย็ง (ได้ถูกควบคุมตัวภายหลัง ในวันจันทร์ที่ 6 ก.ค.) ถูกปล่อยตัวด้วยแล้วเช่นกัน โดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา

ด้าน พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จากการสอบสวนเชื่อว่า น.ส.อารม๊ะ มีพฤติกรรมน่าสงสัย เพราะมีความพยายามปกปิดข้อมูล เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แล้วนำตัวขึ้นศาล

“หลังเหตุปะทะเราได้เชิญตัวเจ้าของบ้านมาให้ปากคำ เพราะพฤติกรรมเข้าข่าย เนื่องจากคนร้ายมาอยู่บ้านนาน 2 อาทิตย์ แต่พยายามปกปิดข้อมูล เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามกลับบอกว่าไม่มีใครมาอยู่ วานนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาให้ที่พักพิงกับกลุ่มขบวนการ และศาลตัดสินให้จำคุก 3 เดือน และปรับ 10,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา” พล.ต.ปราโมทย์ กล่าว และระบุว่า ที่ผ่านมาคดีการให้ที่พักพิงแก่กลุ่มขบวนการความไม่สงบมีหลายกรณี ไม่ใช่กรณีนี้เพียงคดีเดียว

นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า น.ส.อารม๊ะ ควรได้รับการอำนวยความยุติธรรม ตั้งแต่ต้น

“เขาควรได้พบทนายตั้งแต่ถูกจับกุม และในชั้นสอบสวนควรมีทนายอยู่ร่วมฟังการสอบสวนด้วย กรณีผู้หญิงในพื้นที่ขัดแย้ง ขอให้หน่วยงานความมั่นคงปฏิบัติตามข้อเสนอแนะกรรมการ CEDAW ข้อ 23 (b) เรื่องผู้หญิง สันติภาพและความมั่นคง และขอให้หน่วยงานความมั่นคงนำยุทธศาสตร์ผู้หญิง สันติภาพ และความมั่นคง ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาใช้ปฏิบัติ ตามที่ได้ให้คำมั่นกับกรรมการ CEDAW” นางอังคณา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

“ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ CEDAW คือ ผู้หญิงซึ่งมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงควรได้รับความคุ้มครอง มิใช่ถูกจับกุม หรือควบคุมตัว ในกรณีนี้ เนื่องจากหญิงคนดังกล่าวมิได้เป็นผู้ใช้ความรุนแรง เธอจึงไม่ควรถูกจับกุมแต่แรก” นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 119 หมู่ที่ 1 ตำบลดอน ซึ่ง น.ส.อารม๊ะ แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบภายในบ้าน กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดการปะทะ เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย โดยเจ้าหน้าที่ อส. มะซอบรี แวสามะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ฝ่ายคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต 1 คน คือ นายอันวา ดือราแม อายุ 40 ปี เป็นชาวอำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี มีหมายจับ ป.วิอาญา 4 หมาย และพบยาบ้า 200 เม็ด กับอาวุธปืนพกสั้นในที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว น.ส.อารม๊ะ เจ้าของบ้านไปสอบสวนที่ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร

ทั้งนี้ สำหรับบ้านของ น.ส. อารม๊ะ ซึ่งเกิดเหตุปะทะจนได้รับความเสียหายนั้น ร.ต.พรสิงห์ เนตรสายดิกุล ผู้บังคับการกองร้อยทหารพรานที่ 4210 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปซ่อมแซมบ้านหลังดังกล่าวแล้ว รวมทั้งได้นำข้าวสาร และสิ่งของจำเป็นไปบริจาคให้กับ น.ส.อารม๊ะ ขณะที่ พ.ต. ประเทือง พุศลพงษ์ และ อส.ทพ. สำราญ มานุ้ย ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะครั้งดังกล่าว ปัจจุบัน อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ในอำเภอหาดใหญ่

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง