ศาลอุทธรณ์ตัดสินสมบัติ บุญงามอนงค์ มีความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.

ในวันพฤหัสบดี (30 มิถุนายน 2559) นี้ ศาลแขวงดุสิต ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ชื่อเล่นว่า "หนูหริ่ง" แต่เป็นที่รู้จักดีในนาม "บก.ลายจุด" นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 3/2557 ด้านนายสมบัติและทนายความเตรียมยื่นสู้คดีต่อในชั้นศาลฎีกา

นายสมบัติ บุญงามอนงค์ จำเลยในคดีนี้ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า การสู้คดีทั้งในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ของเขานั้น เพื่อแสดงถึงการไม่ยอมรับอำนาจของ คสช.

“ประเด็นที่เราต่อสู้ก็คือว่า คณะรัฐประหารไม่มีอำนาจในการประกาศเรียกคนนู้นคนนี้ไปรายงานตัว เราสู้ว่าประกาศ คสช.ไม่ใช่กฎหมาย แต่ก็แพ้หมดเลย” นายสมบัติกล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์

“ผมไม่รู้มาก่อนว่า โลกใบนี้มันมีองค์กรชื่อว่า คสช. แล้วก็มีประกาศ คสช. แล้วประกาศก็ไม่บอกว่ามีความผิดถ้าไม่มา ประกาศออกมาในวันที่ 24 ตอนเช้าให้ผมไปรายงานตัว ปรากฎว่าผมไม่ไป พอไม่ไปเสร็จ ก็เลยออกประกาศอีกฉบับนึง บอกว่าใครที่เรียกแล้วไม่มา จะมีความผิด ผมก็ต่อสู้(สู้คดีในศาลชั้นต้น)เรื่องความผิดย้อนหลัง มันต้องไม่มีผลย้อนหลัง” นายสมบัติเพิ่มเติม

นายสมบัติ เป็นนักกิจกรรมด้านสังคมและเคลื่อนไหวทางการเมือง มาโดยตลอด เมื่อครั้งเหตุการณ์รัฐประหารในปี 2549 นายสมบัติได้แสดงจุดยืนของตน โดยคัดค้านการรัฐประหาร นายสมบัติยังเข้าร่วมกับกลุ่มเพื่อนพ้อง ก่อตั้งกลุ่มในชื่อใหม่ว่า แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ เนื่องด้วย คสช.ออกประกาศฉบับที่ 25/2557 ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ให้นายสมบัติ ไปรายงานตัวต่อ คสช. ที่หอประชุมกองทัพบก โดยไม่ได้ระบุว่า หากขัดคำสั่งจะมีความผิด แต่นายสมบัติไม่ยอมไปตามคำสั่ง ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 คสช.จึงออกประกาศฉบับที่ 29/2557 เรียกตัวนายสมบัติอีกครั้ง โดยระบุว่าถ้าหากฝ่าฝืนจะถือเป็นความผิด แต่นายสมบัติก็ยังไม่ไปรายงานตัว จนกระทั่งถูกจับกุมในวันที่ 5 มิถุนายน 2557 นายสมบัติจึงถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาขัดคำสั่ง คสช.

ในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายสมบัติไม่ได้มีความผิดจากการฝืนคำสั่ง คสช. แต่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 368 ในการไม่ปฎิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ จึงมีโทษปรับ 500 บาท

แต่นายสมบัติและทนายขอสู้คดีต่อในชั้นศาลอุทธรณ์ ในวันพฤหัสบดีนี้ ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยให้นายสมบัติมีความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ซึ่งศาลชี้ว่า มีฐานะเป็นรัฎฐาธิปัตย์ มีโทษจำคุก 2 เดือน แต่ให้รอลงอาญา และปรับ 3,000 บาท

นางสาวภาวิณี ชุมศรี ทนายความเปิดเผยว่า  ทนายความได้ปรึกษากับนายสมบัติแล้วว่า จะสู้คดีต่อในชั้นศาลฎีกา