ตำรวจแถลงจับยาบ้า 1.55 ล้านเม็ด มีสองอดีตตำรวจร่วมขบวนการ
2017.05.15
กรุงเทพฯ

ในวันจันทร์ (15 พฤษภาคม 2560) นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนส่งยาเสพติด 4 คดีในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงราย กรุงเทพฯ และปทุมธานี โดยสามารถยึดยาบ้าได้ 1.55 ล้านเม็ด และกัญชาอัดแท่งกว่า 1 ตัน มีผู้ต้องหา 12 ราย โดยพบว่าผู้ต้องหา 2 ราย เคยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถูกให้ออกจากราชการ เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า การจับกุมทั้ง 4 คดีเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พฤษภาคม 2560 ซึ่งหลักจากการปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทำให้ ขบวนการยาเสพติดย้ายเส้นทางการขนส่งมายังภาคเหนือ และภาคอื่นๆ
“จากการที่เราดำเนินปฎิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี” 60/1-4 ปรากฎว่ายาเสพติดส่วนหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดน้อยลง แต่ว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดผ่านทางภาคเหนือ ในการดำเนินการครั้งนี้สามารถจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 12 คนใน 4 คดี ยาบ้าทั้งหมด 1.5 ล้านกว่าเม็ด กัญชาตันกว่าๆ ถือว่าเป็นการทำงานที่ได้ผลอย่างจริงจัง” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าว
โดย พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผู้บังคับการกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (ผบก.สกส.) บช.ปส. เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า
ในคดีที่ 1 ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ในวันที่ 13 พ.ค. 2560 ที่สระบุรี ผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วยนายประหยัด โพธิ์หล้า นายมงคล ภูมิพิพัฒน์ นายสมบัติ โพธิ์หล้า และนายจักรี ประเสริฐวงษา ถูกจับพร้อมยาบ้า 1,200,000 เม็ด กัญชาอัดแท่ง 1,100 กิโลกรัม และรถยนต์ที่ใช้ลำเลียง 2 คัน ในนั้นผู้ต้องหา 2 ราย เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“จากการตรวจสอบประวัติของนายประหยัด พบว่าเป็นอดีตข้าราชการตำรวจยศ จ.ส.ต. ที่สภ.โพนพิสัย มีประวัติถูกจับกุมในข้อหาลักลอบขนตัวนิ่ม เมื่อปี 2552 ที่ จ.เพชรบุรี โดยใช้รถตู้ตำรวจจึงถูกให้ออกจากราชการ จึงผันตัวเองมาเป็นผู้ค้ายาเสพติดรับส่งกัญชาอัดแท่ง โดยในปี 2554 ถูกจับอีกครั้งข้อหายาเสพติด ส่วนนายมงคล เป็นอดีตรับข้าราชการตำรวจยศดาบตำรวจ ที่สภ.อุบลรัตน์ เคยถูกจับกุมคดีลักลอบขนย้ายตัวนิ่ม พร้อมกับนายประหยัด แล้วถูกออกจากราชการ ปี 54 ถูกจับที่ชุมพร พร้อมกัญชาอัดแท่ง รวม 399 แท่ง น้ำหนัก 399 กิโลกรัม” พล.ต.ต.ทนัยกล่าว
พล.ต.ต.ทนัยเพิ่มเติมว่า คดีที่ 1 นั้นเชื่อว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดของนายอุสมาน สะแลงแมง โดยเป้าหมายการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้ เพื่อนำไปส่งยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อย่างไรก็ตามต้องสืบสวนเพิ่มเติม เพื่อขยายผลจึงจะได้ข้อสรุป
คดีที่ 2 ในวันที่ 13 พ.ค. 2560 ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสมคิด ปันชน และ น.ส.กรวิการ์ วงค์เคา ถูกจับกุมพร้อมยาบ้า 40,000 เม็ด และรถบรรทุก 6 ล้อที่ใช้ลำเลียงยาเสพติด คดีที่ 3 ในวันที่ 11 พ.ค. 2560 ที่ จ.เชียงราย นายโสภณ โอภาสเกษม และนายกิตติคุณ อนันต์คม พร้อมยาบ้า 200,000 เม็ด และรถบรรทุก 6 ล้อ สำหรับลำเลียงยาเสพติด 1 คัน และคดีที่ 4 ในวันที่ 12 พ.ค. 2560 ที่จังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพฯ นายธนากร แสนเหลี่ยว นางมวล บุญมี นายสิทธิพงษ์ แสนเหลี่ยว นายธีรเดช ฉลองธนเดโช ถูกจับกุมพร้อมยาบ้า 110,000 เม็ด และรถยนต์กระบะ 1 คัน
ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว ในวันเดียวกันถึงการลักลอบขนยาเสพติดว่า
"ของกองอยู่ฝั่งโน้น 400-500 ล้านเม็ด รอเข้าฝั่งไทย ผมนี่นอนไม่หลับ"
ตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลางท่านหนึ่งไม่ประสงค์จะเอ่ยนาม กล่าวว่า ราคายาบ้าอยู่ที่ ประมาณเม็ดละ 200 บาท ส่วน กัญชา กิโลกรัมละประมาณ 1000-1500 บาท ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้น 5 ถึง 10 เท่า เมื่อไปถึงมาเลเซีย และตลาดต่างประเทศอื่น ๆ เช่นออสเตรเลีย
วิสามัญ 9 ศพ ขบวนการยาเสพติดเชียงราย
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้เข้าตรวจพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และพบกองกำลังไม่ทราบสัญชาติในบริเวณป่า จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กัน เป็นเหตุให้ฝ่ายกองกำลังดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 9 ราย เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่า อาวุธปืน 3 กระบอก พร้อมด้วยเป้ซึ่งบรรจุยาบ้าจำนวน 7 แสนเม็ดอยู่ภายใน
โดย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ทำการวิสามัญเครือข่ายยาเสพติดจำนวน 9 คน เนื่องจากพบว่า ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชายฉกรรจ์กำลังลำเลียงยาเสพติดในเขตพื้นที่ดังกล่าว และมีการยิงตอบโต้เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจค้น
“กองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเราปะทะ ได้ทราบว่า มีกองกำลังเข้ามา 15 คน ผู้ลักลอบขนเสียชีวิต 9 ศพ จับยาบ้าได้ทั้งหมด 7 แพ็ค เราดำเนินการเข้มข้น” นายณรงค์ศักดิ์
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ ยาบ้าที่ถูกกองกำลังดังกล่าวลำเลียง เป็นยาบ้าที่มีสัญลักษณ์อักษร Y1 และตัวเลข 999 เและเมื่อตรวจสอบสภาพผู้เสียชีวิตประกอบกับข้อมูลข่าว ทำให้เชื่อว่า ยาบ้าชุดนี้เป็นของกลุ่มชนเผ่ามูเซอ ซึ่งมีนายจะงอยเป็นแกนนำ โดยกลุ่มขบวนการยาเสพติดกลุ่มนี้มีอิทธิพลในเขตบ้านปูนาโก่ และดอยสามสูงฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และลักลอบขนยาเสพติด ในเขตบ้านแม่โจ๊ก-บ้านผาขาว-สามเหลี่ยมทองคำ โดยเชื่อว่า ยาบ้าชุดนี้ถูกนำมาจากดอยสามปีฝั่งตรงกันข้ามบ้านผาหมี