ตำรวจแถลงจับยาไอซ์ 402 กก. พร้อมผู้ต้องหา 17 ราย

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2017.08.03
กรุงเทพฯ
TH-drugs-1000 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ขณะแถลงผลการจับกุมยาเสพติด ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ส.ค. 2560
นนทรัฐ ไผ่เจริญ

ในวันพฤหัสบดี (3 สิงหาคม 2560) นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แถลงข่าวการจับกุมแก๊งค์ค้ายาไอซ์ล็อตใหญ่ในรอบปีที่ผ่านมา มีน้ำหนักถึง 400 กิโลกรัม เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.ค. ผ่านมา และยังจับกุมเครือข่ายอื่นๆ ได้ผู้ต้องหารวมกันทั้งหมด 17 ราย สามารถยึดของกลางทั้งเป็นยาเสพติดและทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท

พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) กล่าวในการแถลงข่าวในวันนี้ว่า เครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ มีเป้าหมายลำเลียงยาเสพติดผ่านประเทศไทยเพื่อไปยังประเทศที่สาม และเตรียมแบ่งเงินรายได้จากการขายยาเสพติดบางส่วนบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในจังหวัดสกลนครด้วย

ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นการขยายผลการจับกุมในช่วงระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2560 ต่อเนื่อง 2 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นการยึดยาเสพติดได้มากที่สุดในปี 2560

“บช.ปส. ได้ข่าวว่ามีการนำยาไอซ์จำนวนมากเข้ามาทางภาคเหนือ ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปประเทศที่สาม กลุ่มนี้คือกลุ่มใหญ่ ถือว่ามีการสั่งของจำนวนมาก ถือว่ามากที่สุดในปีที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 17 ราย ยึดของกลางและยึดทรัพย์สิน ได้มีการขยายผลต่อว่าเครือข่ายอยู่ตรงไหน ใครอยู่เบื้องหลัง เรามีข้อมูลที่ชัดเจน” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ระบุ

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ได้ให้รายละเอียด ในคดีว่า ในคดีที่หนึ่ง เจ้าหน้าที่ทราบว่า มีขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มหนึ่งมักลำเลียงยาเสพติดโดยผ่าน จ.หนองคาย-จ.อุดรธานี-จ.ขอนแก่น-จ.ชัยภูมิ-จ.ลพบุรี-จ.สระบุรี-อ.บางบัวทอง-จ.นนทบุรี-จ.สมุทรสาคร-จ.เพชรบุรี เพื่อส่งมอบยาเสพติดให้กับผู้ซื้อที่รอรับในพื้นที่ จ.สงขลา จึงได้มีการวางแผนจับกุม โดยในวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบขบวนรถยนต์ของสมาชิกขบวนการบนถนนมิตรภาพ เส้นทางจาก จ.หนองคาย ผ่าน จ.ขอนแก่น และแวะพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจค้น จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คน พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์น้ำหนัก 400 กิโลกรัม จนกระทั่งสามารถขยายผลและจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 6 รายในเวลาต่อมา

โดยในคดีที่ 1 นี้ มีผู้ต้องหา 11 คน ประกอบด้วย 1.นายโกศล ศรีมงคล 2.น.ส.ชนิดาภา รัตนติสร้อย 3.นายศักดิ์ชัย ปลื้มโชค 4.นายอนุสรณ์ ศิริญากรณ์ศิริกุล 5.นายสมบัติ สิมมาพิมพ์ 6.น.ส.รุสนี มะสาและ 7.นายยะหยา เปาะแม 8.น.ส.ชนิศา มะสาและ 9.นางวันทา โคตะวงษ์ 10.น.ส.อมราภรณ์ โคตะวงษ์ และ 11.นายพิชิต ชัยภูมิ

สำหรับคดีที่สอง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ 1.นายคำภี หรือโจ คำพิทักษ์ 2.นายธีรศักดิ์ หรือจุ๋ง นาคาวงศ์ 3.นายธนาดล หรือป๊อบ เจียมจัตุรัส พร้อมยาไอซ์ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2 กิโลกรัม รถจักรยานยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จับกุมได้ที่บริเวณริมถนนหน้าอพาร์ทเม้นท์ฮาโมนี่ ซ.ลาดพร้าว 12 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในห้วงวันที่ 1-2 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้เข้าตรวจค้น 20 เป้าหมาย คือ ภาคเหนือ 1 จุด ภาคอีสาน 12 จุด ภาคกลาง 4 จุด และภาคใต้ 3 จุด จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดอีก 3 ราย รวมทั้งสิ้นระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม-2 สิงหาคม 2560 สามารถจับกุมผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยได้ 17 ราย

ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. เปิดเผยว่า นางวันทา โคตะวงษ์ หรือยายชา อายุ 53 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาลักลอบขนยาไอซ์ 400 กิโลกรัม ในคดีที่หนึ่งนั้น ถูกจับกุมได้ในจังหวัดขอนแก่น ถือเป็นผู้ประกอบธุรกิจนอกกฎหมายรายใหญ่ เนื่องจากเคยเป็นผู้ลักลอบขนกัญชา และไม้พะยูง แต่ต่อมาหันมาขนส่งยาไอซ์ โดยเป้าหมายการขนส่งออกยาเสพติดของขบวนการยาเสพติดภาคตะวันออกเฉียงเหนือกลุ่มนี้นั้น ต้องการที่จะส่งยาเสพติดผ่านประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซีย และออสเตรเลีย

“ยายชาตัวร้ายกาจมาก ปกติเขาจะส่งกัญชา ไม้พะยูง แต่ช่วงนี้ไม้พะยูงโดนสกัดมาก ยายชาแกบอกว่า หลังจากที่ขนยาเสร็จ เดี๋ยวจะใส่เสื้อทีมไปแจกอาหารคนน้ำท่วม งานนี้หลายล้าน แต่การที่จับเราไม่เคยจับเงินสดเลย เพราะเขาใช้พร้อมเพย์ ยาไอซ์ลงไปมาเลเซียเป็นกิโลละล้าน ไปออสเตรเลียอีกเท่าไหร่” พล.ต.ท.สมหมายระบุ

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง