ผู้แสวงบุญที่มักกะฮ์เสียชีวิต 4 ราย ด้วยโรคชรา ศอ.บต. รายงาน

มาตาฮารี อิสมาแอ และ มารียัม อัฮหมัด
2017.08.16
จังหวัดชายแดนภาคใต้
TH-hajj-620 ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมจากหลายประเทศรวมตัวที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อเตรียมร่วมพิธีฮัจย์ วันที่ 15 สิงหาคม 2560
เบนาร์นิวส์

เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า มีผู้แสวงบุญสูงอายุชาวไทย 4 ราย ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา ที่นครมักกะฮ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังประสานเพื่อแจ้งญาติของผู้เสียชีวิตให้รับทราบ ด้านปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ล่าสุดมีผู้แสวงบุญ 6,505 คน จากประเทศไทยที่เดินทางถึงนครมักกะฮ์ เตรียมที่จะประกอบพิธีฮัจย์แล้ว โดยมีผู้แสวงบุญอีก 2,328 คน ที่รอการเดินทางอยู่

ระหว่างวันที่ 13-16 สิงหาคม 2560 คณะผู้แทนจากประเทศไทยนำโดย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง  นายศุภณัฐ สิรันทสิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศ ศอ.บต. และคณะ ได้เดินทางเยือนนครมักกะฮ์ เพื่อเยี่ยมคณะผู้แสวงบุญ ให้กำลังใจ และติดตามการดำเนินงานของคณะกรรมการส่งเสริมศาสนาและกิจการฮัจย์ 300 คนจากประเทศไทย

นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยต่อสื่อมวลชนระหว่างการเยือนนครมักกะฮ์ว่า รัฐบาลพยายามเป็นอย่างยิ่งเพื่ออำนวยความสะดวกผู้แสวงบุญจากประเทศไทยให้ได้รับความสะดวก และลดการถูกเอาเปรียบโดยผู้ไม่หวังดี

“มีการติดตามผลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ณ นครมักกะฮ์ และนครมาดีนะห์ มีการประชุมหารือข้อราชการอื่นๆ เพื่อหามาตรการแก้ไขการถูกเอารัดเอาเปรียบจากบริษัท และผู้ประกอบกิจการฮัจย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยจะนำข้อสรุปทั้งหมดมาปรับปรุง และพัฒนาการบริหารจัดการกิจการฮัจย์ของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” นายกฤษฎากล่าว

ขณะเดียวกัน ศอ.บต. เปิดเผยว่า มีผู้แสวงบุญสูงวัยจากประเทศไทยที่เสียชีวิตขณะอาศัยอยู่ในนครมักกะฮ์เพื่อรอประกอบพิธีฮัจย์ จำนวน 4 ราย โดยสาเหตุการเสียชีวิตมาจากโรคชรา

“ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้แสวงบุญ 4 ราย ที่เสียชีวิตระหว่างเตรียมประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งทางอธิบดีกรมการปกครองได้แจ้งประสานไปยังอำเภอเพื่อดำเนินการแจ้งญาติและส่วนอื่นๆ แล้ว” นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต.กล่าว

รายชื่อผู้เสียชีวิตประกอบด้วย 1.นายดือราแม เจ๊ะดือราแม อายุ 76 ปี ชาว ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี 2. นายหมะหมิน เด็นมานิ อายุ 70 ปี ชาวสะบ้าย้อย จ.สงขลา 3. นายยา หะมิดง อายุ 63 ปี ชาว ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ขณะที่รายที่ 4 ยังไม่ได้รับการแจ้งชื่อ

ก่อนหน้านี้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำชื่นชมจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียถึงรูปแบบการอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญจากประเทศไทย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำเช่นกันว่า รัฐบาลไทยจำเป็นต้องดูแล ศาสนิกชนทุกศาสนาให้เท่าเทียมกัน

“นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน และมุ่งให้ศาสนิกชนทุกศาสนารักใคร่สามัคคี และช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพราะทุกคนถือเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินเดียวกัน โดยเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้สังคมเกิดความสงบ และประชาชนดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

ด้านนางมูฮัมหมัดกาแม มีนา หนึ่งในผู้แสวงบุญเปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า ระบบจัดการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้แสวงบุญถือว่า ดีกว่าปีที่ผ่านมา

“ฮัจย์ปีนี้ถือว่ามีความสะดวกกว่าทุกๆ ปี โดยเฉพาะการเอาใจใส่ในด้านต่างๆ ของภาครัฐที่มีมากขึ้น และสิ่งสำคัญสำหรับประเทศไทยคือคำชมของชาวต่างชาติว่า ผู้ แสวงบุญไทยมีนิสัยดีชอบยิ้ม และมีความสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกันนับเป็นคำชมที่มีมายาวนาน” นางมูฮัมหมัดกาแมกล่าว

ขณะที่ นางเจ๊ะแอเสา อูเซ็ง ฮูดญาดหรือผู้แสวงบุญอีกราย ระบุว่า การส่งเจ้าหน้าที่จากประเทศไทย เพื่อมาช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้แสวงบุญถือว่าเพิ่มความสะดวกให้กับผู้แสวงบุญเป็นอย่างมาก

“อย่างน้อยคือได้ขวัญกำลังใจ ซึ่งคนไทยทุกคนช่วยเหลือกันอย่างดี ในขณะที่เราอยู่ต่างถิ่น ในฐานะคนไทย ทุกชนชาติก็มารวมกันที่นี่ แต่ที่นี้กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ทุกคนมีกำลังใจและตั้งใจมั่นที่จะประกอบศาสนากิจ เพื่อประสบความสำเร็จตามที่เป้าหมายที่วางไว้ และพร้อมที่จะเป็นชาวไทยมุสลิม เพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างแน่นอน” นางเจ๊ะแอเสากล่าว

กรมหนังสือเดินทางของประเทศซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยว่า ปีนี้ มีชาวมุสลิมที่ต้องการแสวงบุญเดินทางมายังซาอุดิอาระเบีย 529,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 จำนวน 65,550 ราย แบ่งเป็นผู้เดินทางด้วยสายการบินจำนวน 524,234 ราย และทางบกเป็นจำนวน 4,612 ราย

สำหรับประเทศไทย การบินไทยจัด 31 เที่ยวบินพิเศษนำผู้แสวงบุญฮัจย์สู่ซาอุดิอาระเบีย มีผู้แสวงบุญแจ้งความประสงค์การเดินทาง 8,833 คน โดยจะเดินทางออกจาก 4 ท่าอากาศยานคือ สุวรรณภูมิ นราธิวาส 4 หาดใหญ่ และกระบี่ ซึ่งเที่ยวบินแรกของการบินไทยพร้อมออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และนราธิวาสไปยังท่าอากาศยานมาดีนะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 และมีกำหนดเดินทางกลับ ระหว่างวันที่ 6 - 23 กันยายน 2560

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง