ผู้แสวงบุญไทยมุสลิมหลายพันคนเข้าทุ่งมีนาร่วมฮัจย์
2017.08.31
ปัตตานี

ในวันพฤหัสบดี (31 สิงหาคม 2560) นี้ ผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์ในประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้เดินทางเข้าสู่ทุ่งมีนาแล้ว เพื่อเตรียมพักค้างแรมระหว่างประกอบศาสนกิจเป็นเวลา 7 วัน 6 คืน ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงเตือนให้ประชาชนระวังการก่อเหตุความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันชาติมาเลเซีย
ขณะนี้ ชาวไทยมุสลิม 8,817 คน ที่เข้าร่วมพิธีฮัจย์ในประเทศซาอุดิอาระเบียได้เดินทางพร้อมกับชาวมุสลิม 1.75 ล้านคนจาก 168 ประเทศ เข้าสู่พื้นที่แสวงบุญ คือ ทุ่งมีนา และ จะพักค้างแรมในทุ่งมีนาเป็นเวลา 3 วัน เพื่อขอพร และบำเพ็ญตนตามพิธีอัจย์ ขณะชาวมุสลิมในประเทศไทยซึ่งไม่ได้เดินทางไปยังนครมักกะห์จะเฉลิมฉลองทำบุญเลี้ยงอาหารในบ้านของตนไปพร้อมๆกัน
พิธีฮัจย์ปีนี้กำหนดให้ผู้แสวงบุญเริ่มเคลื่อนย้ายสู่ทุ่งมีนา ในวันที่ 29 สิงหาคม 2560 และจะประกอบพิธีต่างๆตามขั้นตอนของฮัจย์จนถึงวันที่ 4 กันยายน 2560 โดยในระหว่างนั้น จะมีการประกอบพิธีที่สำคัญตามขั้นตอน ได้แก่ การวูกุฟ หรือการสงบนิ่งที่ทุ่งอาราฟะห์ ซึ่งผู้แสวงบุญจากทั่วโลกจะเดินทางไปรวมตัวกันเพื่อขออภัยโทษบาปต่อพระเจ้า การขอพรที่ปรารถนาในช่วงเวลาบ่ายจนถึงตะวันตกดิน การเดินทางไปยังตำบลมุสฏาลีฟะห์ ค้างแรมเป็นเวลา 1 คืน และจะกลับมาที่ทุ่งมีนาอีกครั้ง ทำการขว้างเสาหิน จากนั้นก็จะเริ่มทยอยเข้าที่นครมักกะห์ เพื่อประกอบพิธีในขั้นสุดท้าย
นายซาการียา กาเล็ง อิหม่ามจากจังหวัดปัตตานีเปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า การวุกุฟ คือการพักสงบที่ทุ่งอารอฟะฮ์ เริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์คล้อยของวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺจนกระทั่งดวงอาทิตย์ตกดิน คือ หัวใจของฮัจญ์
“เมื่อละหมาดซุบฮิเสร็จแล้ว รอจนกว่าตะวันของวันที่ 9 เดือนซุลฮิจญะฮฺขึ้น ผู้แสวงบุญเริ่มเดินทางออกจากมีนามุ่งสู่อะรอฟะฮฺ กำหนดการวุกูฟที่อะรอฟะฮฺเริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์คล้อย เมื่อเดินทางไปถึงอะรอฟะฮฺมีซุนนะฮฺให้ไปมัสญิดนะมีเราะฮฺ หากไม่สามารถไปได้ให้เข้าไปยังทุ่งอะรอฟะฮ” นายซาการียากล่าว
นายซาการียากล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่จำเป็นต้องทำในวันอะรอฟะฮ กำชับให้ยึดมั่นในหลักคำสอนของอิสลามเมื่อคุฏบะฮฺ (ยรรยายธรรม) เสร็จ ให้ละหมาดดุรี่ (ละหมาดเทียง) และอัศรี่ (ละหมาดเย็น) โดยเป็นละหมาดรวมก่อนและย่อ เมื่อเสร็จสิ้นการละหมาด ให้ผินหน้าไปทางกิบละฮฺแล้วกล่าวอิสติฆฟาร (ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺ) กล่าวซิกรุ้ลลอฮฺ อ่านอัลกุรอานหรืออ่านดุอาอฺ (ขอพร)
เจ้าหน้าที่เตือนเหตุความไม่สงบในวันชาติมาเลเซีย
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นช่วงที่เข้าสู่เทศกาลรายอฮัจย์ มีประชาชนชาวไทยมุสลิมจำนวนมาก ออกจากบ้านเพื่อจับจ่ายซื้อของ สำหรับการเฉลิมฉลองพิธีการแสวงบุญที่เกิดขึ้นในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จัดระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นในวันชาติมาเลเซีย 31 สิงหาคม 2560
พ.อ.สิทธิศักดิ์ เจนบรรจง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 41 เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า ได้มีการประชุมร่วมของหน่วยงานความมั่นคง ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเตรียมพร้อมป้องกันเหตุความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง
“เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยในพื้นที่จังหวัดยะลา รวมทั้งเขตรอยต่อจังหวัดปัตตานี และนราธิวาส เพื่อปรับแผนยุทธวิธี และการปฏิบัติภารกิจของกำลังพลให้เป็นแบบเชิงรุก โดยย้ำให้มีความตื่นตัว สามารถตอบโต้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมปรับยุทธวิธีเป็นแบบรายวัน เพื่อป้องกันการเฝ้าสังเกตการณ์ของฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามาก่อเหตุช่วงนี้” พ.อ.สิทธิศักดิ์กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดยะลา ระบุว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดในการตรวจรถยนต์ที่เข้าออกพื้นที่ และประสานงานกับหน่วยงานข่าวมากขึ้น
“ได้สั่งให้ทุกโรงพักเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกัน และเฝ้าระวังการเคลื่อนไหว ใช้ฐานข่าวจากสายสืบประสานกับหน่วยกำลังข้างเคียง และภาคประชาชนอย่างใกล้ชิด นอกจากตรวจค้นรถแล้ว บุคคลแปลกหน้าที่ดูมีพิรุธก็ต้องจับสังเกตุเพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่” พล.ต.ต.กฤษฎากล่าว
ด้าน เจ้าหน้าที่ข่าวกรองด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า พบการเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมก่อเหตุในวันชาติมาเลเซีย
“พบข้อมูลฝ่ายตรงข้ามระดับแกนนำสั่งการให้แนวร่วมในพื้นที่เคลื่อนไหว เตรียมก่อเหตุช่วงวันชาติมาเลเซีย เราต้องไม่ประมาท เพราะหลายปีที่ผ่านมามีการป่วน และสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างรุนแรง ประกอบกับตรงช่วงเทศกาลรายอ พี่น้องจากมาเลเซียทะยอยกลับบ้านเป็นจำนวนมาก กลุ่มคนร้ายอาจแฝงตัวเข้ามาในประเทศ จึงต้องเฝ้าระวังอย่างหนัก” เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ผู้ไม่ประสงค์ระบุชื่อกล่าวต่อเบนาร์นิวส์