กอ.รมน.4 ส่วนหน้า ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง 14 ราย
2016.03.24
ปัตตานี

ในวันพฤหัส (24 มีนาคม 2559) พันเอกยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐบวร บำรุงรส รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายกฤษณะ ดวงดาว ผบ.ร้อย อส. จ.นราธิวาสที่ 1 และ เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าเหตุการณ์บุกรุกโรงพยาบาลเจาะไอร้อง และเหตุการณ์รุนแรง ในวันครบรอบการสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็น ปีที่ 56 เมื่อ 13 มีนาคม 2559 ว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ทั้งหมด 14 คน
พ.อ.ยุทธนามกล่าวแก่สื่อมวลชนว่า ทางการมีมูลเหตุในการเชิญตัว ผู้ต้องสงสัยกรณีร่วมก่อเหตุปฏิบัติการในโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จำนวน 3 คน เชิญตัวผู้ต้องสงสัย กรณีการลอบวางระเบิด หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 48 บริเวณสะพานบ้านยานิง ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง เพื่อสกัดกั้นการเข้าช่วยเหลือกองร้อยทหารพรานที่ 4816 จำนวน 3 คน ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย กรณีการโจมตีหมวดเฉพาะกิจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 31 บริเวณสถานีรถไฟเจาะไอร้อง จำนวน 4 คน และได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย กรณีที่ดำเนินการแล้วว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ทั้ง 3 กรณี และเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก่อความไม่สงบในพื้นที่ จำนวน 4 คน
“โดยผู้ต้องสงสัยทั้ง 14 คน มีการแยกสถานที่ซักถาม 10 คน ควบคุมที่หน่วยซักถาม หน่วยข่าวกรองทางทหาร ส่วนหน้า ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี อยู่ที่หน่วยซักถาม กรมทหารพรานที่ 46 จำนวน 3 คน และอีก 1 คน อยู่ที่หน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ” พ.อ.ยุทธนามกล่าว
“การปฏิบัติการของกำลังร่วม 3 ฝ่าย เป็นไปตามหลัก ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติการเป็นไปตามขั้นตอนมีการเชิญ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ และท้องถิ่น เป็นพยานในการปฏิบัติโดยยึดถือหลักความเป็นธรรม ทั้งนี้เพื่อบังคับใช้กฎหมาย และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก” พ.อ.ยุทธนามกล่าวเพิ่มเติม แต่ไม่ได้เปิดเผยชื่อของผู้ถูกควบคุมตัว
นายชาติชาย สุทธิกลม ประธานอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวภายหลังจากลงพื้นที่ ให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง และเจ้าหน้าที่ทหาร ในก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้เผชิญกับปัญหาอย่างอดทน ทำให้สถานการณ์ไม่ลุกลาม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีความเห็นว่า การกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบในครั้งนี้ เป็นการละเมิดหลักการระหว่างประเทศ ซึ่งถือว่าโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม นายชาติชายได้กล่าวถึงการควบคุมตัวว่า ญาติต้องมีสิทธิรับรู้สถานที่ควบคุมตัวและอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้
"ในการติดตามคนผิดมาดำเนินคดี หากมีการเชิญบุคคลเพื่อซักถาม หรือมีการควบคุมตัวควรแจ้งให้ญาติทราบ สถานที่ควบคุมตัวและอนุญาตให้เยี่ยมได้ ในช่วงเวลาแรก เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และหลักการตามสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะช่วยในการลดความขัดแย้ง และสร้างความไว้วางใจแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง” นายชาติชาย กล่าว
หลังเกิดเหตุการณ์ สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ (UN Human Rights Office for South-East Asia) และองค์กรฮิวแมนไรท์สวอทช์ (Human Rights Watch) ได้ออกแถลงการณ์ตำหนิกองโจรแบ่งแยกดินแดนที่ได้บุกเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ