องค์กรนานาชาติตำหนิกองโจรใต้ที่บุกยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง

นาซือเราะ และ รพี มามะ
2016.03.16
กรุงเทพฯ
TH-insurgent-hospital-620 ภาพทีวีวงจรปิดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ขณะที่กองกำลังแบ่งแยกดินแดนหลายสิบคน บุกเข้ายึดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559
ภาพโดย โรงพยาบาลเจาะไอร้อง

สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ (UN Human Rights Office for South-East Asia) และองค์กรฮิวแมนไรท์สวอทช์ (Human Rights Watch) ได้ออกแถลงการณ์ตำหนิกองโจรแบ่งแยกดินแดนที่ได้บุกเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เพื่อยิงฐานที่ตั้งกองร้อยทหารพรานที่ 4816 เมื่ออาทิตย์ที่ 13 มีนาคมนี้

ในแถลงการณ์ที่ส่งให้สื่อมวลชนในวันพุธที่ 16 มีนาคม นี้ สำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ได้กล่าวแสดงการคัดค้านต่อการที่กองกำลังติดอาวุธเข้ายึดโรงพยาบาล สถานที่ซึ่งเป็นที่สาธารณะในการยิงต่อสู้โจมตีกองกำลังของเจ้าหน้าที่รัฐบาล

“เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศ เรารู้สึกตกใจต่อการใช้โรงพยาบาลที่เป็นของส่วนรวมไปในแนวทางนี้ เป็นเหตุให้เกิดความสี่ยงต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและประชาชน” นายเลอฮอง เมลแลน รักษาการผู้แทนสำนักงานประจำภูมิภาคของสำนักงานเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าว

แถลงการณ์ดังกล่าว ยังได้อ้างอิงข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขว่า นับตั้งแต่การเกิดเหตุการณ์รุนแรงมาเป็นเวลา 12 ปี เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครสาธารณสุข ถูกฆ่าหรือได้รับบาดเจ็บแล้ว 112  ราย สถานพยาบาลถูกเผาหรือถูกวางระเบิด 28 แห่ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการเข้ายึดพื้นที่โรงพยาบาลเพื่อใช้เป็นฐานยิงโจมตี

“แทคติกใหม่นี้ เป็นสิ่งที่น่ากังวลยิ่ง เราขอเตือนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการขัดแย้งว่า ต้องปฏิบัติตามหลักกฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนสากลและกฎหมายสิทธิมนุษยชน” นายเลอฮอง เมลแลน กล่าว

ทางด้าน องค์กรฮิวแมนไรท์สวอทช์ ซึ่งมีที่ตั้งในนิวยอร์คได้ออกแถลงการ์ว่า การเข้ายึดโรงพยาบาลและการก่อให้เกิดความเสียหายแก่สถานที่นี้โดยกองโจรแบ่งแยกดินแดน เป็นการละเมิดต่อกฎสงคราม “การยึดโรงพยาบาลในภาคใต้ของไทย ได้สร้างความเสียหายเกินกว่า ทั้งเครื่องไม้เครื่องมือและสถานที่ แต่ยังเป็นการก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้ป่วย หมอ และเจ้าหน้าที่พยาบาลทั่วทั้งภาคใต้ของประเทศไทย” นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการ ฮิวแมนไรท์สวอทช์ ประจำภูมิภาคเอเชียกล่าว

“กลุ่มกองกำลังต้องแสดงให้สาธารณชนเห็นว่า จะยุติการโจมตีสถานพยาบาลในทันที” นายแบรด อดัมส์ กล่าวเพิ่มเติม

ในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ได้ประกาศการขยายเวลาการใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกอำเภอของจังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอแม่ลาน ออกไปอีกเป็นเวลาสามเดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

และในวันนี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เดินทางให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่อำเภอเจาะไอร้อง พร้อมติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และร่วมประเมินสถานการณ์ เพื่อปรับแผนมาตรการการดูแลความปลอดภัย ให้กับประชาชนในพื้นที่ทั่วทั้ง 37 อำเภอ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กับอีก 4 จังหวัดสงขลา ให้รัดกุมมากขึ้น

ในวันเดียวกัน ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้าย 50 กว่าคน บุกเข้าไปในโรงพยาบาลเจาะไอร้องว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย ถูกควบคุมตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

ส่วนการป้องกันกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุหลบหนีออกนอกประเทศ หน่วยป้องกันชายแดนได้ เพิ่มความเข้มงวด ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว นอกจากนี้ ได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยอีกทางในส่วนพื้นที่ โดย พลโทวิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เปิดยุทธการไล่ล่าอย่างบนเทือกเขาตะเว ในเขตอำเภอจะแนะ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอระแงะ อำเภอสุไหงปาดี และ อำเภอสุคิริน รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเข้มงวด พร้อมเพิ่มความกดดันตามพื้นที่เป้าหมาย

พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีเบาะแสของกลุ่มคนร้ายมากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะการได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งตามมุมต่างๆ ของโรงพยาบาลเจาะไอร้อง อีกทั้งยังมีพยานหลักฐานที่กลุ่มคนร้ายทำหล่นไว้แบบที่ไม่ได้ตั้งใจอีกรายหลายรายการ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวผู้ที่เข้าร่วมก่อเหตุในครั้งนั้นได้ ซึ่งจากเบาะแสที่ได้ และจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 40 คน และจากการข่าวทราบว่า ในจำนวนนี้ เป็นกลุ่มแนวร่วมที่เคลื่อนไหวทั้งในพื้นที่เจาะไอร้อง สุคิริน ระแงะ และศรีสาคร ซึ่งหลายเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกัน และบางรายมีชื่อถูกออกหมายจับมาแล้ว และภายใน 7 วันจากนี้ จะมีความคืบหน้าทางคดีมากขึ้น

นอกจากนั้น พ.อ.รุ่งโรจน์ อนันตโท ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 ได้สั่งการให้หน่วยเปิดยุทธการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุบุกโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เพื่อใช้เป็นที่มั่นในการโจมตีฐานปฏิบัติการณ์กองร้อยทหารพรานที่ 4816 หลังจากได้รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านว่า มีชายฉกรรจ์ต้องสงสัยจำนวนหลายคน ได้มาแฝงตัวเคลื่อนไหวอยู่ในหมู่บ้านลาแป หมู่ที่ 2 และบ้านบองอ หมู่ที่ 4 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ แต่ผู้ต้องสงสัยซึ่งคาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการบุกโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ได้ไหวตัวหลบหนีขึ้นเทือกเขาหลังหมู่บ้านไปได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 5 คน มาสอบสวนขยายผลในเบื้องต้น พร้อมของกลางซึ่งเป็นถังน้ำมันเชื้อเพลิงของรถจักรยานยนต์ และคอมเพรสเซอร์ของตู้เย็น ที่สามารถนำมาใช้เป็นภาชนะในการประกอบระเบิดแสวงเครื่องได้ หากสอบปากคำในเบื้องต้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะปล่อยตัวกลับต่อไป

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง