คนร้ายขว้างระเบิดและยิงฐานชคต. เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 เจ็บ 3 ที่ปัตตานี
2019.07.23
ปัตตานี

ในคืนวันอังคารนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าเกิดเหตุคนร้ายใช้ระเบิด และอาวุธปืนโจมตี ฐานชุดคุ้มครองตำบล บ้านกอแลปิเละ ตำบลปะกาฮารัง อำเภอเมือง ปัตตานี เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ขณะที่ บนถนนเส้นทางจากอำเภอหนองจิก ปัตตานี ไปยัง จังหวัดยะลา มีการเผายางรถยนต์ และโรยตะปูเรือใบ
พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี เปิดเผยเมื่อเวลา 20.55 น.ว่าได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล บ.กอแลปิเละ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
“เหตุเกิดขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังรวมแถวที่หน้าฐาน คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาชะลอบริเวณฐาน แล้วขว้างระเบิดใส่ฐาน ชคต. และใช้อาวุธปืนยิงใส่ หลังจากนั้นคนร้ายได้ราดน้ำมันและจุดไฟเผาเจ้าหน้าที่ 2 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด และถูกอาวุธปืนยิง โดยเจ้าหน้าที่ภายในฐานได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ จนเกิดการปะทะเป็นระยะเวลานาน แต่คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้” พ.ต.อ.ญาณพงศ์ กล่าว
พ.ต.อ.ญาณพงศ์ ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย คือ อส.ไพศาล มูซอดี, อส.นิอามิน มะซาแม และ อส.อุสมาน ตาสาเมาะ และเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 นาย คือ จ.ส.อ.ชูธวัช มาศศรี และ อส. 2 นาย (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล) สาเหตุการโจมตีครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษแล้ว
“มีรายงานว่า บนถนนสาย 418 ตั้งแต่ ต.น้ำดำ และ ต.ปะการือสง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเส้นทางมุ่งไปยัง จ.ยะลา มีการเผายางรถยนต์ และโรยตะปูเรือใบหลายจุด ทำให้รถยนต์ที่สัญจรบนถนนเส้นนี้ได้รับความเสียหาย” พ.ต.อ.ญาณพงศ์ กล่าวเพิ่มเติม
ในวันเดียวกัน เมื่อเวลา 22.00 น. ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ขาวนวล รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกรงปินัง จ.ยะลา เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนสั้นยิง นายไฟซอล เจะเตะ ลูกชายของผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิต ที่หมู่ที่ 9 บ.อุเบ็ง ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์การความไม่สงบ
ในช่วงกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครลาดตระเวน ในพื้นที่ชายแดนใต้ถี่ขึ้น จนทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 25 รายแล้ว
นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ สมองยังไม่ตอบสนอง กองทัพตั้งกรรมการสอบแล้ว
ในวันเดียวกันนี้ โรงแรมปาร์ควิว จ.ปัตตานี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ภาคที่ 4 ส่วนหน้า และแพทย์โรงพยาบาลปัตตานี ร่วมกันแถลงข่าวกรณี นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะเข้ากระบวนการซักถามที่ค่ายอิงยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 62 โดยระบุว่า ปัจจุบัน นายอับดุลเลาะ สมองยังไม่ตอบสนอง ด้าน กองทัพได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว
แพทย์หญิงสุภัค พูลสวัสดิ์ แพทย์เจ้าของไข้ที่ดูแลอาการของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ กล่าวว่า นายอับดุลเลาะสมองยังไม่ตอบสนอง และไม่พบบาดแผลภายนอกร่างกายที่ทำให้คนไข้มีอาการหัวใจหยุดเต้น
“คนไข้มาถึงโรงพยาบาลโดยไม่รู้สึกตัว สัญญาณชีพคงที่ ด้วยยากระตุ้นหัวใจขนาดสูง ได้ใช้เครื่องหัวใจเต็มที่ โรงพยาบาลปัตตานีเจาะเลือดเบื้องต้น เอ็กซเรย์ปอด รักษาอาการแบบประคับประคองมาตลอด จนรุ่งเช้าอีกวัน สามารถลดยากระตุ้นหัวใจ กระตุ้นความดันได้ สมองยังไม่ตอบสนอง หลังจากนั้นได้ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์” แพทย์หญิงสุภัค กล่าว
ด้าน พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า กองทัพจะพยายามทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็ว ปัจจุบัน ได้ตั้งกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว
“ได้ตั้งคณะกรรมการอิสระเป็นคณะกรรมการชุดใหม่ ประกอบด้วยภาคประชาสังคม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และภาคส่วนต่างๆ ที่สังคมยอมรับ เข้ามาตรวจสอบเร่งด่วน โดยตั้งกรรมการ 2 คณะคือ คณะกรรมการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการด้านวินัยหรืออาญาทหาร และคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” พ.อ.ปราโมทย์ ระบุ
โดยเมื่อสื่อมวลชนถามถึงภาพจากกล้องวงจรปิดในศูนย์ซักถามฯ พันเอกปราโมทย์ระบุว่า ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า กล้องเสีย แต่จะได้ให้คณะกรรมการชุดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 03.00 น.นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 34 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงหมดสติ ขณะถูกควบคุมตัวภายใต้พระราชบัญญัติอัยการศึก ในหน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้ประชาชนชาวไทย-มุสลิม พรรคการเมือง และองค์กรสิทธิมนุษยชน เรียกร้องให้ กองทัพทำการตรวจสอบและชี้แจงเรื่องนี้
ชาวบ้านยะลา ร้องศูนย์ทนายมุสลิม กังวลการตรวจดีเอ็นเอของเจ้าหน้าที่
นายอดิลัน อาลีอิสเฮาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานศูนย์ทนายความมุสลิม จ.ยะลา เปิดเผยแก่เบนาร์นิวส๋ว่า วันนี้ตัวแทนชาวบ้าน ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา ได้เข้าร้องเรียนกับมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม จ.ยะลา เนื่องจาก มีความกังวลเรื่องการเก็บสารพันธุกรรม (DNA) ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หลังจากเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นหมู่บ้าน 2 แห่งในตอนเช้ามืด และขอเก็บดีเอ็นเอโดยที่ชาวบ้านไม่เต็มใจ
“เจ้าหน้าที่จะเก็บดีเอ็นเอ ต้องเป็นความสมัครใจของประชาชน หากไม่ได้รับความยินยอม จะไม่สามารถทำได้ และถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานกับประชาชน หลังจากนี้ ชาวบ้านจะยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มีการลบข้อมูลดีเอ็นเอของคนทั้งหมดที่เก็บไปโดยไม่ได้สมัครใจ” นายอดิลัน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์