คณะกรรมการแก้ปัญหาช่วยเหลือครอบครัวปอเนาะญิฮาด แจงแนวทางการใช้ประโยชน์หลังโดนรัฐยึด

ในวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 คณะกรรมการศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวปอเนาะญิฮาดวิทยา ได้ชี้แจงถึงแนวทางการนำโรงเรียนปอเนาะญิฮาดวิทยา หลังถูกศาลแพ่งสั่งให้ตกเป็นของรัฐจากการถูกใช้เป็นสถานที่ฝึกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในอดีตว่า อาจจะนำมาสถานที่แห่งนี้มาใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวม เช่น ศูนย์เรียนรู้วิถีอิสลาม ปอเนาะเปิด หรือศูนย์ฝึกผู้จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์

นายกิติ สุระคำแหง ผอ.สำนักงานกฎหมายสิทธิมนุษยชนและเยียวยา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ทางราชการได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสองชุด เพื่อการดำเนินการนำอดีตโรงเรียนญิฮาดวิทยามาใช้ประโยชน์ตามเจตนารมณ์ของเจ้าของเดิม

“ได้ดำเนินการตามขั้นตอนตั้งคณะกรรมการแล้ว 2 ชุด ประชุมชี้แจงแล้ว และตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการขอใช้ที่ดิน ซึ่งจะทำอะไรก็จะมาวางแผนกันหลังจากนั้น” นายกิติ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

“อาจจะทำเป็นศูนย์การเรียนรู้วิถีอิสลาม อาจเป็นปอเนาะเปิด โดยให้เจ้าหน้าที่รัฐหรือใครก็ได้ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัด ก็สามารถมาเรียนรู้ที่นี่ได้ หรืออาจจะทำเป็นศูนย์ฝึกการประกอบพิธีฮัจญ์ อาจจะสร้างเป็นสถานที่จำลอง มีทุ่งมีนา มีหลายๆ อย่าง ที่เกี่ยวกับการฝึกประชาชนก่อนไปทำฮัจญ์” นายกิติ กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนั้น นายมูฮัมหมัดนาวาวี หะยีอับดุลกอเดร์ โต๊ะอีหม่ามประจำมัสยิดท่าด่าน ได้แถลงถึงรายรับ-รายจ่าย จากการจัดงานเลี้ยงข้าวยำ เพื่อระดมทุนช่วยเหลือครอบครัวแวมะนอ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม นี้ ให้ประชาชน ที่มัสยิดบ้านท่าด่าน ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้รับทราบ

การระดมทุนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวแวมะนอ ที่รัฐยึดโรงเรียนญิฮาดวิทยามาแล้วนั้น มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,075,522 บาท หักค่าใช้จ่ายในการจัดงาน 975,000 บาท จากนั้นจะนำเงินส่วนนี้ไปซื้อที่ดินวอกัฟ 700,000 บาท และสร้างที่อยู่ใหม่ให้กับครอบครัวแวมะนออีก 400,000 บาท และอีก 1,000,000 เป็นค่าทำขวัญจากการถูกยึดโรงเรียน นอกจากนั้น จะใช้เป็นค่าก่อสร้างอาคารสาธารณประโยชน์หลังใหม่ 300,000 บาท ค่าต่อเติมมัสยิดท่าด่าน 600,000 บาท และยังมียอดคงเหลือ 100,522 บาท

การชี้แจงของศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวปอเนาะญิฮาด วันนี้ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจ และทราบถึงแนวทางการดำเนินงานที่ศูนย์ช่วยเหลือจะดำเนินการ รวมทั้งได้ชี้แจงจำนวนเงินที่ได้มาทั้งหมด และจะนำไปใช้อะไร อย่างไร เท่าไหร่

เมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2558 ศาลแพ่ง มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ฟ.26/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สิน ซึ่งเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 699 หมู่ 4 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เนื้อที่ 14 ไร่ 1งาน 42 ตารางวา ราคาประเมิน 591,090 บาท เป็นที่ตั้งของโรงเรียนญิฮาดวิทยา หรือ "ปอเนาะญิฮาด" ซึ่งนายดูนเลาะ แวมะนอ หรือ เป็นครูใหญ่ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่สนับสนุนการก่อการร้ายในช่วง ปี 2547

เจ้าหน้าที่การข่าวของไทย กล่าวว่า นายดูนเลาะ แวมะนอ หรือเป๊าะซูเลาะ ซึ่งเป็นครูใหญ่ในขณะนั้น เป็นรองประธานสภากองกำลังทหาร (Dewan Pimpinan Parti - DPP) ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น และได้หลบหนีไปอยู่ประเทศมาเลเซีย เมื่อถูกปิดล้อมโรงเรียนในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2548

ปัจจุบัน ครอบครัวแวมะนอ มี นางยาวาฮี แวมะนอ ภรรยาของนายดูนเลาะ เป็นเสาหลักให้กับลูกๆ สามคน