เด็ก 8 ขวบ ถูกยิงเสียชีวิตพร้อมครอบครัว - ยอดตายรวม 8 รายในวันพฤหัส
2017.03.02
นราธิวาส

ในวันพฤหัสบดี (2 มีนาคม 2560) นี้ ได้เกิดเหตุคนร้ายยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและครอบครัว รวมทั้งลูกๆ เจ้าหน้าที่รัฐ และชาวบ้าน ในสามเหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 8 ราย และบาดเจ็บรวม 4 ราย หลังจากคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขและมาราปาตานีตกลงในเบื้องต้นว่าจะตั้งพื้นที่ปลอดภัยนำร่องขึ้นมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
โดยเมื่อวันอังคาร สองสามี-ภรรยา ในตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา สงขลา ถูกฆ่าตายแล้วนำศพไปทิ้งลงในแม่น้ำเทพา ในขณะที่รถยนต์กระบะของทั้งสอง ถูกคนร้ายนำไปประกอบคาร์บอมบ์ หมายโจมตีฐานตำรวจตระเวนชายแดนแห่งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ทันท่วงที
สำหรับเหตุการณ์แรกของวันพฤหัสบดีนั้น เกิดขึ้นในตอนเช้าของวัน ร.ต.อ.วันชัย รักบุญเมือง รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอรือเสาะ นราธิวาส เปิดเผยว่า คนร้ายซึ่งคาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง ได้ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่รถยนต์กระบะของนายสมชาย ทองจันทร์ อายุ 57 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านศรีภิญโญ ในขณะกำลังขับรถพร้อมด้วยญาติและลูกหลาน ในพื้นที่หมู่บ้านเจริญธรรม อำเภอรือเสาะ นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตผู้ช่วย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวม 4 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย
ผู้เสียชีวิต 4 คน ประกอบด้วย นายสมชาย ทองจันทร์ อายุ 57 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านศรีภิญโญ ม.6 ต.โคกสะตอ ด.ช.ธนกฤต ทองจันทร์ อายุ 8 ปี (บุตรชาย) นางรสิกา ดาดวง (ภรรยา) อายุ 39 ปี นางสน ทองจันทร์ (พี่สะไภ้) อายุ 42 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ ด.ญ.ศิรลภัสสร ทองจันทร์ อายุ 12 ปี (บุตรสาว) บาดเจ็บสาหัส ส่วนด.ญ.ญานิศา ศรีสุวรรณ อายุ 6 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย
“เหตุเกิดขณะที่นายสมชายขับรถยนต์อีซูซุ พร้อมครอบครัวรวม 6 คน เพื่อเดินทางไปส่งบุตรที่โรงเรียน และไปทำธุระในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะ ระหว่างทางเป็นเนินเขาห่างจากชุมชน มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว” ร.ต.อ.วันชัย กล่าว
“เบื้องต้นเชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่” ร.ต.อ.วันชัย กล่าวเพิ่มเติม
นางรอปิอะ สงวนนามสกุล ชาวไทยมุสลิมจากบ้านศรีภิญโญกล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาคนไทยพุทธและไทยมุสลิม สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติ และเสียใจที่เหตุเกิดกับครอบครัวของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่ากลัวมาก ศาสนาอิสลามไม่สอนแบบนี้ ทุกคนต้องร่วมประณาม และขอให้คนร้ายที่ทำได้รับผลตอบแทนโดยเร็ว คิดว่าคนร้ายต้องการตอบโต้การเจรจา และตอบโต้รัฐ ขอให้อย่าได้เกิดเหตุแบบนี้อีกเลย” นางรอปิอะกล่าวแก่เบนาร์นิวส์
เหตุการณ์ที่สอง เกิดขึ้นในตอนเย็นของวันนี้ ที่บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน ม.7 บ.บูเก๊ะกง ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มายอ เปิดเผยว่า นายเกษม โตะโยะ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานเทศบาลนครยะลา ถูกยิงเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ขณะผู้ตายกำลังเดินทางจะกลับบ้านพัก ส่วนสาเหตุนั้น เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนและสืบสวน
ในเวลา 19.45 น. คนร้ายได้ยิงทหารพรานเสียชีวิตสามนาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสองราย เป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์และพลเรือน ในตลาดบ้านตาแบะ ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี
ร.ต.อ.มูฮะหมาด หมาดวัง รอง สว. สอบสวน สภ.มายอ จ.ปัตตานี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วย จ.ส.อ.อาหามัด สะมะอาลี พลทหารธนากรณ์ ขิมทองดอนดู่ และพลทหารณรงค์ศักดิ์ มามุ่ย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายดอแมง ปะดอ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ปาลัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลมายอ และพลเรือน ชื่อนายนาวาวี มะเด็ง ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลปะนาเระ
“จากการสอบสวนทราบว่าเหตุเกิดขณะที่ทั้งหมดกำลังเดินอยู่ในตลาด ได้มีคนร้าย 7-8 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ยิงเข้าใส่ภายในตลาด ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่” ร.ต.อ.มูฮะหมาด กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
เหตุรุนแรงระลอกสองนับจากวันพูดคุยสันติสุขเมื่อวันอังคาร
เหตุรุนแรงในวันนี้ การเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง นับตั้งแต่จากวันอังคารนี้ ที่คณะผู้แทนรัฐบาลไทยและมาราปาตานี ได้ตกลงพบปะกันในมาเลเซีย และตกลงใจที่จะทดลองตั้งเขตปลอดภัยนำร่องขึ้นมาหนึ่งเขต โดยจะเลือกพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งจากห้าพื้นที่ในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ซึ่งในวันนี้ นายอาบู ฮาฟิซ อัล-ฮากิม โฆษกมาราปาตานี ได้ออกแถลงการณ์ทางเฟซบุค แสดงความเสียใจ ขอให้ทางการไทยสอบสวนสืบสวนคดีอย่างครอบคลุม และนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
“มาราปาตานี ขอเน้นย้ำความถึงมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งปาตานีอย่างสันติด้วยการพูดคุยทางการเมือง และหาทางจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งจะเป็นขั้นตอนการปกป้องประชาชน” นายอาบู ฮาฟิซ กล่าว
ในเรื่องนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้
กระบวนการพูดคุยสันติสุขสันติสุข ซึ่งถือว่าก็ยังมีทางออก พร้อมทั้งได้กล่าวถึงศักยภาพในการควบคุมกองกำลังในพื้นที่ของคู่เจรจา
"เรื่องของการกราดยิงก็จะต้องมีการหามาตรการวิธีป้องกัน ขณะนี้การแก้ไขปัญหาความไม่สงบอยู่ยังไม่จบ ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการพูดคุยสันติสุข ถ้ายังมีกระบวนการพูดคุย ก็ยังมีทางออก” พลเอกประยุทธ์ กล่าว
“วันนี้ สิ่งที่กำลังพูดคุยกันอยู่คือเรื่องของการมีพื้นที่ปลอดภัย เมื่อมีพื้นที่ปลอดภัยก็ต้องทดลองว่ามีศักยภาพหรือไม่ ถ้ามีศักยภาพก็คุยเรื่องอื่นต่อ ถ้าไม่มีก็ต้องทำให้ได้ แล้วก็ต้องไปดูเป้าหมายของพื้นที่ปลอดภัย นั่นคือ ครู นักเรียน โรงเรียน และวัด ที่จะต้องไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอีก”
ประชาสังคม-รัฐ ร่วมกันประณามผู้ก่อเหตุ
ภาพหน้าจอเฟซบุคของ Keris Tajong Patani ที่ออกมาแสดงความต่อต้านรัฐบาลไทย
ในคืนวันพุธนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ Keris Tajong Patani มีความหมายว่า “กริชทะลวงปาตานี” ที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ได้เผยแพร่ข้อความเป็นภาษามลายูว่าจะต่อสู้จนได้เอกราช
“พวกเรานักรบจูแว (อุดมการณ์) จะไม่ยุติ จะรบกับพวกยึดครองบาบี(หมู)สยาม ถึงแม้กลุ่มมาราฯ ทำสนธิสัญญากับสยาม เราบรรดานักรบจูแวไม่มีอะไรเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มมาราฯ สำหรับพวกเรา เราจะดำเนินรบรานพวกบาป บาบีสยามนี้ จนกว่าปัตตานีรับเอกราช” เนื้อความส่วนหนึ่งกล่าว
ในวันนี้ ภายหลังเหตุการณ์สังหารโหดในตอนเช้า ภาคประชาสังคม กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า ต่างได้ออกมาประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เชื่อว่ากลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี และ กลุ่มด้วยใจ ได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำที่เกิดขึ้น โดยเรียกร้องให้กลุ่มก่อความไม่สงบยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงทันที อย่างไม่มีเงื่อนไข
“การกระทำดังกล่าวนับว่าเป็นการกระทำที่ขัดหลักการศาสนาและกฎหมายอย่างร้ายแรง... ผู้ก่ออาชญากรรมและผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้ากองกำลัง แม้ว่าจะเป็นกองกำลังที่ไม่ใช่รัฐ (non-state actor) จะต้องรับผิดชอบถูกดำเนินคดีในศาลอาญาในประเทศหรือศาลอาญาระหว่างประเทศ” แถลงการณ์บางส่วนระบุ
นายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ กล่าวว่า เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้ (B4P) และองค์กรขอประณามการก่อเหตุ และกลุ่มบุคคลที่ให้การสนับสนุนการก่อความรุนแรงต่อเป้าหมายอ่อนแอ ผู้พิการ ผู้หญิง และเด็ก และขอแสดงความเสียใจต่อผู้ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ขอให้ผู้ที่ก่อเหตุ หรือผู้ให้การสนับสนุน กองกำลังที่ใช้อาวุธ ต้องยุติการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เจ้าหน้าที่รัฐ ต้องเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันความขัดแย้งในพื้นที่ ทุกภาคส่วนมีมาตรการป้องกันประชาชนในพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายอ่อนแอ อย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน” นายรักชาติกล่าว
ทางด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้ากล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะพยายามหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว
“การกระทำของกลุ่มคนร้ายในครั้งนี้ บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า กลุ่มโจรเหล่านี้เป็นคนขี้ขลาด มีพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ป่า ไร้อุดมการณ์ และอย่ามาแอบอ้างว่าพวกคุณมีอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชน และเราจะใช้มาตรการทางกฏหมายในการติดตามจับกุมผู้ที่กระทำความผิดในครั้งนี้มาลงโทษ ตามกระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด” พ.อ.ปราโมทย์กล่าว