ศาลปัตตานีเริ่มการไต่สวนในคำร้องคดีวิสามัญฆาตกรรมบ้านโต๊ะชูด

นาซือเราะ
2015.10.15
TH-killing-750 อาสาสมัครมูลนิธิการกุศล เก็บศพผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ตรวจค้นบ้านโต๊ะชูด เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558
เบนาร์นิวส์

เจ้าหน้าที่มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้กล่าวในวันนี้ว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดปัตตานี ได้เริ่มต้นการไต่สวนเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนในเหตุการณ์ตรวจค้นหมู่บ้านโต๊ะชู๊ด จนมีผู้เสียชีวิตสี่รายในตอนปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่ากระทำการเกินกว่าเหตุ หรือเพียงแค่กระทำวิสามัญฆาตกรรม

นางสาวมาซีเตาะ หมันและ เจ้าหน้าที่มูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า ศาลจังหวัดปัตตานี ได้ไต่สวนคำร้องคดีหมายเลขคำที่ ช.11/2558 คดีชันสูตรพลิกศพ (ไต่สวนการตาย) โดยพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี ซึ่งในวันดังกล่าว ได้มีการไต่สวนแพทย์ที่ทำการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ นอกจากนั้น ได้ไต่สวนเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และทหารพราน 3 นาย จากจำนวนทั้งสิ้น 7 นาย ที่มีส่วนในเหตุการณ์นี้

"ศาลได้ทำการไต่สวนพยานไปแล้ว 4 ปาก คือ พ.ต. ลิขิต กระฉอดนอก เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 41  จ.ส.ต.อัมพร เลี่ยเห้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปฏิบัติการชายแดนใต้ อส.ทพ. วิรัตน์ชัย บือซา อาสาสมัครทหารจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 41 และ นายแพทย์อรัญ รอกา แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพ โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย ได้ยืนยันกับศาลว่า ถูกอีกฝ่ายยิงออกมาก่อน จึงต้องยิงออกไปเพื่อตอบโต้ ส่วนแพทย์ให้การกับศาลว่าผู้ตายส่วนใหญ่ถูกยิงจากด้านหน้า” นางสาวมาซีเตาะกล่าว

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคม 2558 ที่มีการสนธิกำลังระหว่าง หน่วยเฉพาะกิจ ปัตตานี 25  หน่วยปฏิบัติการพิเศษ 431 ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจ 41 ตำรวจ จาก สภ.ทุ่งยางแดง ได้เข้าปฏิบัติการตรวจสอบความผิดปกติในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านโต๊ะชูด ต. พิเทน อ. ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้มีการจับกุมประชาชน 22 คน และมีการใช้อาวุธปืนจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน คือ นายสุไฮมี เซ็น ว่าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนประจำอำเภอทุ่งยางแดง จ. ปัตตานี (ในตอนนั้น) นายซัดดัม วานุ นายคอลิด สาแม็ง นักศึกษามหาวิทยาฟาฎอนี และนายมะดารี แม้เราะ นักศึกษามหาวิทยาฟาฎอนีเช่นกัน  หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะว่า ผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นายอันวาร์ ดือราแม และนายมากูรอซี แมเราะ ซึ่งเป็นแกนนำก่อความไม่สงบในพื้นที่ทุ่งยางแดงระดับปฏิบัติการ (RKK) และได้ใช้อาวุธทำการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่

ทางมหาวิทยาลัยฟาฏอนีได้กล่าวหลังเกิดเหตุว่า นักศึกษาทั้งสองคน ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุรุนแรง ทำให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ออกคำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่ 3639/2558 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ภายหลังตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ ในวันที่ 7 เมษายน คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีนายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้แถลงผลการสอบสวนต่อสาธารณชนว่า จากคำให้การของพยานบุคคล ไม่ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน มีพฤติการณ์เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหรือแนวร่วมมาก่อน มีเพียงบางรายที่เคยถูกจับเพราะเสพน้ำกระท่อม ก่อนเกิดเหตุขณะที่วิ่งหลบหนี และไม่ปรากฏว่าผู้ตายทั้ง 4 ราย ครอบครองอาวุธปืนแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบอาวุธปืนที่ตกอยู่ในพื้นที่ก็ไม่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการจึงมีความเห็นเชื่อว่าผู้ตายทั้ง 4 ราย ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุรุนแรงและไม่ใช่แนวร่วมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแต่อย่างใด

นายปรีดา นาคผิว ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ในวันนี้ว่า ในชั้นนี้ พนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการตั้งข้อหากับเจ้าหน้าที่ทั้งเจ็ดนายแต่ประการใด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกสี่รายนั้น จะมีการไต่สวนในต้นเดือนพฤศจิกายน ศกนี้

“สำหรับเจ้าหน้าที่ ทั้ง 7 นายนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นของการสืบสวนสอบสวน และพนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด สำหรับการไต่สวนนัดหน้า จะมีขึ้นในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 เวลา 09.00 น. ที่ศาลนัดไต่สวนเพิ่มเติม น่าจะเสร็จในส่วนของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด และหลังจากนั้น ศาลจะไต่สวนพยานปากอื่นๆ” นายปรีดากล่าว

สำหรับที่มาของการไต่สวนนั้น นางสาวมาซีเตาะ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2558 มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ว่า พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเป็นคดีชันสูตรพลิกศพ (ไต่สวนการตาย) คดีอาญาหมายเลขดำที่ ช.11/2558 ศาลได้ส่งสำเนาคำร้องของพนักงานอัยการผู้ร้องให้แก่ญาติผู้ตายแล้ว นัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 12 ตุลาคม  โดยญาติผู้ตายทั้งสี่ ได้ตั้งทนายความเพื่อซักถามพยานผู้ร้องและนำพยานหลักฐานฝ่ายญาติผู้ตายเข้าสืบในคดี

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง