กสทช.ยื่นหนังสือปิดพีซทีวี 21 ก.ค. 2559

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2016.07.21
กรุงเทพฯ
TH-peacetv-1000 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. และแกนนำเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดง นั่งให้บันทึกภาพก่อนการออกอากาศรายการของพีซทีวี ที่สถานีพีซทีวี ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2557
เอเอฟพี

ในวันพฤหัสบดี (21 กรกฎาคม 2559) นี้ สำนักงานกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ยื่นหนังสือต่อสำนักข่าวพีซทีวี เพื่อให้ยุติการออกอากาศ เนื่องจากที่ผ่านมาพีซทีวีได้ออกอากาศเนื้อหาที่เป็นการละเมิดบันทึกข้อตกลงตามกฎหมาย โดยการยุติการออกอากาศครั้งนี้ มีผลบังคับ 30 วัน ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ หนึ่งในผู้ดำเนินรายการ เผยว่าจะใช้อินเตอร์เน็ตในการนำเสนอข้อมูลแทนช่องโทรทัศน์ที่ถูกสั่งปิด

นายสมบัติ ลีลาพตะ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายกระจายเสียงโทรทัศน์ สำนักงานกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติกำหนดให้ปิดช่องพีซทีวี เนื่องจากออกอากาศเนื้อหาละเมิดบันทึกข้อตกลงตามกฎหมาย และยังยืนยันอีกว่า คำสั่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 41/2559 ที่ให้อำนาจ กสทช. ดูแลการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน

“เป็นการพิจารณากำหนดมาตรการทางปกครองของช่องพีซทีวี เนื่องจากทำขัดเงื่อนไขในบันทึกข้อตกลงที่พีซทีวีทำไว้กับ กสทช. โดยออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาต้องห้ามตามกฎหมาย ได้แก่ รายการเข้าใจตรงกันนะ วันที่ 11 มีนาคม และ 21 มีนาคม 59 รายการเข้มข่าวดึก วันที่ 24 มีนาคม 59 และรายการห้องข่าวเล่าเรื่อง วันที่ 28 มีนาคม 59” นายสมบัติ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

โดย นายสมบัติระบุว่า การดำเนินการของพีซทีวียังขัดต่อ ประกาศ คสช. ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 และขัดต่อบันทึกข้อตกลง ที่ บริษัท พีซ เทเลวิชั่น ทำกับ สำนักงาน กสทช. ซึ่งเป็นเงื่อนไขการประกอบกิจการโทรทัศน์ จึงเป็นการขัดต่อเงื่อนไขการประกอบกิจการโทรทัศน์ ตามข้อ 14 (27) ของประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ 2555 ซึ่งที่ผ่านมาได้แจ้งเตือนให้พีซทีวีแก้ไขมาแล้วหลายครั้ง แต่พีซทีวีกลับไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง

ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หนึ่งในผู้ดำเนินรายการช่องพีซทีวี เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า การปิดพีซทีวีครั้งนี้เกิดจากคำสั่งของ คสช. และเป็นการปิดกั้นพื้นที่ของคนเห็นต่างที่จะแสดงความคิดเห็นต่อการประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 7 สิงหาคม 2559

“ทั้งหมดทั้งปวงที่ปิดพีซทีวีก็มาจากเรื่องประชามติ การปิดพื้นที่คนเห็นต่าง” นายจตุพรกล่าว โดยระบุเพิ่มเติมว่า มีแผนรองรับการถูกยุติการออกอากาศครั้งนี้ไว้แล้ว โดยการย้ายช่องทางนำเสนอสู่อินเตอร์เน็ต

“ได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว เชื่อว่าการปิดพีซทีวีครั้งนี้ จะเป็นการเริ่มต้นของการยกระดับของประชาชนเข้ามาสู่การใช้โซเชียลมีเดีย เห็นว่าการปิดครั้งนี้จะเป็นคุณูปการในอนาคต เพราะว่าเป็นโอกาสเมื่อประชาชนถูกยกระดับขึ้นมาแล้ว เขาก็ยิ่งพัฒนาการไปเรื่อยๆ การปิดครั้งนี้ คสช.ไม่ได้กำไรอะไร” ประธาน นปช.กล่าว

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2559 กสทช. ตรวจพบการออกอากาศของสถานีพีซทีวี ซึ่งมีเนื้อหาเข้าข่ายประกาศต้องห้ามตาม คำสั่ง คสช.ฉบับที่ 97/2557 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่103/2557 และฝ่าฝืนเงื่อนไขบันทึกข้อตกลงระหว่างผู้ฟ้องคดีกับ กสทช. ประกอบด้วย รายการเข้าใจตรงกันนะ รายการเข้มข่าวดึก และรายการห้องข่าวเล่าเรื่อง โดยคณะอนุกรรมการได้เสนอที่ประชุม กสท.ลงโทษทางปกครอง ให้เพิกถอนใบอนุญาต แต่มติที่ประชุม กสท.ให้อนุกรรมการฯ กลับไปทบทวนกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ต่อมาวันที่ 4 กรกฎาคม 2559 ที่ประชุม กสท.เสียงข้างมาก เห็นสมควรให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2559 ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2559

ซึ่งหลังจากนั้นพีซทีวี ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการพิจารณาของที่ประชุม กสท.มาโดยต่อเนื่อง ตั้งแต่การประชุมเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2559 วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 และวันที่ 11 กรกฎาคม 2559 ประกอบกับผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 ศาลปกครองกลางได้รับร้องไว้ แล้วนัดคู่กรณีมาไต่สวนเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2559 และเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินและคุ้มครองชั่วคราวอีกครั้ง และศาลนัดมาไต่สวนวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 แต่ตัวแทนผู้ถูกฟ้องคดีไม่มา เพราะติดต่อไม่ได้ ศาลจึงนัดไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 โดยตัวแทนผู้ถูกฟ้องคดีชี้แจงว่า สำนักงาน กสทช.จะส่งหนังสือทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตมาถึงผู้ฟ้องคดีในวันที่ 21 กรกฎาคม 2559

ในวันเดียวกันนี้ ตัวแทนพีซทีวีจึงได้เดินทางไปที่ศาลปกครองพร้อมทนาย เพื่อขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน และใช้อำนาจคุ้มครองชั่วคราวคำสั่งดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นศาลได้นัดตัวแทนพีซทีวีและ กสทช. มาไต่สวนในวันที่ 26-27 กรกฎาคม 2559

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง