สามนักสิทธิมนุษยชน ได้รับหมายเรียกจากตำรวจปัตตานีแล้ว
2016.06.15
ปัตตานี

ในวันพุธ (15 มิถุนายน 2559) นี้ สามนักสิทธิมนุษยชน เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ทั้งหมดได้รับหมายเรียกรายงานตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตำรวจภูธรเมืองปัตตานีแล้ว หลังถูกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาคที่ 4 ส่วนหน้า แจ้งความในคดีหมิ่นประมาท และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากการนำเสนรายงานว่า เจ้าหน้าที่ซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยในสามจังหวัดชายแดนใต้
นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม หนึ่งในผู้ถูกฟ้อง กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า ตนได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ปัจจุบัน อยู่ในระหว่างการปรึกษาทนายความเพื่อจะต่อสู้คดี และยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปรายงานตัวตามหมายเรียกหรือจะขอเลื่อนนัดไปก่อน
“เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ได้รับหมายเรียกที่เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่ง ตอนนี้ มีทนายแล้ว เป็นทนายอาสา ทั้งสามคน มีหมายเรียกเหมือนกันหมด” นางสาวพรเพ็ญ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์
“ตอนนี้ ก็อยู่ระหว่างปรึกษาหารือกับทนายว่าจะไปตามวันนัดหรืออาจขอเลื่อน” นางพรเพ็ญ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน พ.ต.ท.วิญญู เทียมราช รองผู้กำกับสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน นี้ เจ้าพนักงานได้ออกหมายเรียกให้ นายสมชาย หอมลออ ที่ปรึกษา มูลนิธิผสานวัฒนธรรม นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และนางสาวอัญชนา หีมมิน๊ะห์ ประธานกลุ่มด้วยใจ ให้เข้าพบในวันที่ 26 มิถุนายน 2559 เวลา 11.00 น. ที่ สภ.เมืองปัตตานี
“ทาง กอ.รมน.4 ได้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดี กรณีที่มีการรายงานสถานการณ์การทรมานและมีการเผยแพร่ทางเวบไซต์ และมีการทำเอกสารเผยแพร่ข้อมูล ได้มีการแจ้งความไว้ 2 คดี คดีหมิ่นประมาท กับคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” พ.ต.ท.วิญญู กล่าวเพิ่มเติม
“ตอนนี้ อยู่ระหว่างการสอบสวน(พยาน) ไปแล้วเกือบ 10 ราย และได้ออกหมายเรียกแล้วทั้งสามคน ตอนนี้ ยังไม่มีการติดต่อกลับมาว่าจะเข้ามาวันไหน หรือเขาอาจขอเลื่อนก็ได้” พ.ต.ท.วิญญูกล่าว
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า มูลเหตุการแจ้งความดำเนินคดี มาจากการเผยแพร่ “รายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรี ในจังหวัดชายแดนใต้” เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ซึ่งเป็นรายงานที่นำเสนอโดยองค์กรพัฒนาเอกชนสามองค์กร คือ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี และกลุ่มด้วยใจ
รายงานดังกล่าว มีความยาวรวม 120 หน้า มีการกล่าวถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่อ้างว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กระทำการทรมานผู้ถูกต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวตามพระราชบัญญัติกฎอัยการ ศึก พ.ศ. 2457 และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยรายงานดังกล่าว ได้อ้างอิงคำบอกเล่าของผู้ต้องสงสัยจำนวน 54 ราย
“จากนั้น เขาก็ได้ทำหนังสือให้เราตรวจสอบ ทางแม่ทัพก็เลยมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ จึงขอรายชื่อจากเขามาทั้ง 54 คน เพื่อจะไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อตรวจสอบแล้ว จำนวน 54 คน ที่กล่าวมาในรายงาน พบว่า โคว้ต (คำบอกเล่า) ที่เขาใช้ มีซ้ำกันสิบกว่าราย พบข้อมูลแค่ 18 ราย และเป็นเคสของหลายปีที่ผ่านมา" พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวที่ห้องประชุม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า ใน ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่เอ็นจีโอทั้งสามคน ได้กล่าวหาทางการในลักษณะนี้หลายครั้งแล้ว “เป็นการหมิ่นเจ้าหน้าที่ แล้วสร้างความเสื่อมเสียต่อประเทศชาติ”
ในวันที่ 17 พ.ค. นี้ พันโทเศรษฐ์สิทธิ์ แก้วคูณเมือง เป็นผู้รับมอบอำนาจ ฟ้องร้องนักสิทธิมนุษยชนทั้ง 3 คน โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมาย พ.ศ. 2477 มาตรา 52 ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 โดยการยื่นฟ้องครั้งนี้ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ให้รายละเอียดว่า นักสิทธิฯ ทั้ง 3 คน ได้นำรายงานดังกล่าว ซึ่งเป็นความเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในเว็บไซต์ https//voicefromthais.wordpress.com และจัดพิมพ์แจกจ่ายให้คนทั่วไปทราบ