หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้บอกกระบวนการพูดคุยคืบหน้าด้วยดี

พลเอกอักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวที่ประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ท่ามกลางความตื่นตัวของทั้งฝ่ายราชการ ผู้นำศาสนา ชาวบ้าน ภาคประชาสังคมที่ต่างได้ร่วมแสดงนานาทรรศนะคติต่อเรื่องนี้

พล.ต. บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้อ้างคำพูดของ พล.อ. อักษรา เกิดผล ว่าคณะพูดคุยฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากฝ่ายมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยการความสะดวก และกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ ขณะนี้ยังอยู่ในระยะของการสร้างความไว้วางใจ ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ผลสัมฤทธิ์ที่ปรากฏชัดขณะนี้คือ ทุกฝ่ายแสดงออกถึงความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการสร้างสันติสุข ซึ่งต้องมีการกำหนดวิธีการที่เหมาะสมร่วมกันต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 25-28 ม.ค. 2559 คณะทำงานทางเทคนิคร่วมได้เดินทางไปประชุมหารือ ในการจัดทำร่างบันทึกข้อตกลงร่วมด้านธุรการและการสนับสนุน อันเป็นเสมือนกรอบกติกาหรือคำแนะนำทั่วไปสำหรับใช้ในการพูดคุย ที่สำคัญได้แก่ การกำหนดชื่อเรียกต่างๆ การกำหนดขอบเขตพื้นที่ จชต. การอำนวยความสะดวกตามกระบวนการยุติธรรม และด้านธุรการและการสนับสนุน ซึ่งคณะพูดคุยฯ จะได้รวบรวมรายงานขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการอำนวยการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

“ในทัศนะสากลของการดำเนินกระบวนการพูดคุยนั้น ทุกฝ่ายจำเป็นต้องมีความจริงใจ ก้าวข้ามอดีตบางช่วงบางตอนที่ผ่านมา รวมตลอดถึงการก้าวข้ามความพยายามแสดงศักยภาพของแต่ละกลุ่มในห้วงการพูดคุยด้วย เพื่อร่วมกันมุ่งแสวงหาทางออกโดยสันติวิธีสู่อนาคตที่ดีกว่า” พล.อ.อักษรากล่าว

พูโลออกโฆษณาชวนเชื่อ

นอกจากนั้น พล.อ.อักษรา กล่าวถึงการพบระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอม ในอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า “ในส่วนรายละเอียดทางเทคนิคเกี่ยวกับวัตถุระเบิดที่ตรวจพบ จำเป็นต้องรอการยืนยันจากหน่วยพิสูจน์หลักฐานในพื้นที่ให้แน่ชัดก่อนที่จะให้ความเห็นใดๆ เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีนำไปบิดเบือนใช้ประโยชน์ได้ ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ทุกฝ่ายต้องให้ความระมัดระวัง”

เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญกิจการชายแดนภาคใต้ท่านหนึ่ง กล่าวว่า สติ๊กเกอร์ธงชาติเป็นธงของขบวนการพูโล เอ็มเคพี (PULO MKP) ที่มีนายกัสตูรี มาห์โกตา เป็นหัวหน้า โดยกลุ่มนี้ แยกตัวออกมาจากกลุ่มพูโลเก่าเมื่อหลายปีก่อน และนายกัสตูรีก้าวขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่ม ที่จากเดิมเป็นโฆษกของกลุ่มพูโลเก่า

“คำว่า NAMPRA ARMY เป็นชื่อกองกำลัง ย่อมาจากคำในภาษามาเลย์ว่า Negara Melayu Patani Raya อาจแปลเป็นไทยได้ว่า กองทัพแห่งชาติมาลายูปาตานี ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อกองกำลังพูโลในอดีต เคยมีชื่อเสียงในระหว่างปี 2519-2533” เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามท่านเดียวกันกล่าว

ทางด้านนายกัสตูรี มาห์โกตา ผู้นำกลุ่ม ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บเฟซบุ๊คส่วนตัวในทันทีที่มีข่าวพบระเบิดแสวงเครื่องไปป์บอมบ์ ลักษณะหัวเป็นโลหะเรียว ที่ปัตตานีว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่งบอกถึงพัฒนาการของกลุ่มที่อยู่พื้นที่ และได้มีแถลงการณ์ของกลุ่มพูโลในโอกาสครบรอบ 48 ปีของการสถาปนาองค์กร วันที่ 22 มกราคม 2559 ก็อ้างว่าพูโลจำเป็นต้องใช้แนวทางที่แข็งกร้าว ไม่ว่าในพื้นที่ หรือในระดับนานาชาติ เพื่อกดดันรัฐบาลไทย

เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอีกท่านหนึ่งของไทย กล่าว “ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า กลุ่มพูโล เอ็มเคพี สร้างสถานการณ์เรื่องระเบิดแสวงเครื่องขึ้นมา เพื่อกล่าวอ้างถึงศักยภาพของกลุ่มเท่านั้น ทั้งๆ ที่อาจไม่มีศักยภาพอยู่จริง เพราะจรวดแสวงเครื่องที่พบ ซึ่งถูกระบุว่ามีทั้งหมด 5 ลูก ระเบิดไปแล้ว 3 ลูก ยังไม่พบว่าสร้างความเสียหายให้กับฐานทหารหน่วยใด”