การรื้อฟื้นการพูดคุยเพื่อสันติสุขแดนใต้ประสบปัญหา

การพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ดูเหมือนว่ามีการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ หลังจากที่นายกมาเลเซียได้แต่งตั้งให้นายอับดุล ราฮิม นูร์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย เป็นผู้อำนวยการในการพูดคุยคนใหม่เมื่อปีที่แล้ว เพื่อพยายามยุติความรุนแรง กลับดูเหมือนว่าจะสะดุดลงอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าฝ่ายมาราปาตานี เกิดความไม่พอใจที่พลเอกอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ หัวหน้าคณะพูดคุยฯ คนใหม่ของไทย ไม่ยอมเข้าพบปะสนทนากับฝ่ายตน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้

นายอับดุล ราฮิม นูร์ ผู้อำนวยความสะดวกคนใหม่ของมาเลเซีย กล่าวกับเบนาร์นิวส์ เมื่อวันจันทร์ว่า ตนรู้สึกตกใจกับพฤติกรรมที่แปลกของ พลเอกอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ในขณะที่หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขของไทยกล่าวว่า กำหนดการเดินทางครั้งนี้ เป็นไปเพื่อการพบปะกับผู้อำนวยความสะดวกเท่านั้น ส่วนการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ต้องผ่านขั้นตอนของคณะทำงานเทคนิคเสียก่อน

ในเรื่องนี้ พลเอกอุดมชัย อธิบายแก่เบนาร์นิวส์ว่า สาเหตุที่ตนไม่ได้ร่วมการสนทนาเต็มคณะกับมาราตานีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะว่ามีวัตถุประสงค์ในการเดินทางเพื่อพบปะกับผู้อำนวยความสะดวกเท่านั้น รวมทั้ง ตนได้วางหลักการพูดคุยไว้ว่า จะใช้การสนทนาอย่างไม่เป็นทางการกับทุกกลุ่ม ก่อนที่จะมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ

พลเอกอุดมชัย กล่าวอีกว่า ตนได้เสนอให้นายมะสุกรี ฮารี หัวหน้าคณะของมาราปาตานี เข้าพบเพื่อแยกสนทนา แต่นายมะสุกรีกลับไม่ยอมรับและได้ออกวิดีโอคลิป ประกาศขอยุติการพูดคุย จนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และขอให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายไทย

"ผมยืนยันว่า ผมพร้อมคุยกับทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน แต่ต้องเป็นการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ ส่วนการพูดคุยอย่างเป็นทางการต้องผ่านขั้นตอนของคณะทำงานเทคนิคเสียก่อน เพื่อกำหนดประเด็นพูดคุย จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทะเลาะกันในบางเรื่องที่สามารถตกลงกันก่อนได้ ข้อเท็จจริงก็มีอยู่เท่านี้" พลเอกอุดมชัย กล่าว

“ส่วนกลุ่มมาราปาตานี จะมีการพบปะกันของคณะทำงานเทคนิคของทั้งสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายเรานำโดย พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เลขานุการคณะพูดคุยสันติสุข” พลเอกอุดมชัย กล่าวเพิ่มเติม

ในวันจันทร์นี้ นายอับดุล ราฮิม นูร์ ผู้อำนวยความสะดวกของมาเลเซีย ได้กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ ว่า ทั้งคณะพูดคุยของฝ่ายไทย ที่นำโดยพลเอกอุดมชัย และสมาชิกคณะพูดคุยของมาราปาตานีห้าหกคน ที่นำโดยอุสตาซมะสุกรี มีกำหนดพบปะสนทนากันในมาเลเซียเมื่อวันอาทิตย์ แต่พลเอกอุดมชัยกลับไม่มาพบ เพียงแต่กล่าวผ่านทางผู้อำนวยความสะดวกเมื่อคืนวันเสาร์ว่า จะพบกับหัวหน้าคณะพูดคุยของมาราปาตานี คือ อุสตาซมะสุกรี เพียงคนเดียว แม้ว่าคนอื่นๆ จะรอสนทนาอยู่ด้วยก็ตาม

“ต้องย้ำว่าเป็นการสนทนา ไม่ใช่การเจรจา... ดังนั้น คำร้องขอนี้ เป็นสิ่งที่แปลกต่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและต่อผมด้วย เป็นพฤติกรรมที่แปลกของท่านอุดมชัย ซึ่งผมตกใจ เป็นเรื่องปกติที่สมาชิกในคณะทุกคนต้องพบปะกัน รวมทั้งหัวหน้าคณะพูดคุย” นายราฮิม นูร์ กล่าว

มาราปาตานีกล่าว ‘รับไม่ได้’

ทั้งนี้ ในวิดีโอคลิปที่นายมะสุกรี โพสต์ทางยูทูปเมื่อวันอาทิตย์ นายมะสุกรี อธิบายว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม นี้ ทางกลุ่มได้รับแจ้งจากผู้อำนวยความสะดวกว่า คณะพูดคุยฯ ของไทย จะเดินทางมาถึงมาเลเซียในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ เพื่อพบปะกับทางมาราปาตานี เพื่อการแนะนำตัว

“เราผิดหวังกับการกระทำของพลเอกอุดมชัยที่ขัดแย้งกับการแถลงของท่านเองในก่อนหน้านี้ ที่ว่าท่านจะให้เกียรติสนทนากับทุกกลุ่มและทุกฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสีย มาราปาตานี เห็นว่าการปฏิเสธที่จะพบกับทีมพูดคุยของมาราปาตานี เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และสงสัยว่าท่านมีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือไม่ ที่ต้องการพบกับผมเพียงคนเดียว” นายมะสุกรี กล่าวในวิดีโอคลิปเป็นภาษามลายู

นายมะสุกรี กล่าวว่า ทางกลุ่มจึงตัดสินใจไม่ร่วมการสนทนาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นี้  ขอยุติการสนทนาเป็นการชั่วคราวจนถึงหลังการเลือกตั้ง  และขอให้ทางการไทยเปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะพูดคุยฯ ของฝ่ายไทยเป็นบุคคลที่น่าเชื่อได้มากกว่านี้เพื่อให้ได้ทางออกให้กับความขัดแย้งในปาตานี”

อย่างไรก็ตาม พลเอกอุดมชัย ได้อธิบายย้ำว่า กำหนดการเดินทางครั้งนี้นั้น เป็นไปเพื่อการพบปะกับผู้อำนวยความสะดวกเท่านั้น

"ยืนยันว่าเราพร้อมคุยกับทุกกลุ่ม คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพียงแต่การเดินทางไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียในครั้งนี้ เป็นการเดินทางไปพบผู้อำนวยความสะดวก คือ ตันสรี อับดุล ราฮิม นูร์ ไม่ได้ตั้งใจไปพูดคุยกับกลุ่มไหนเป็นพิเศษ” พลเอกอุดมชัยกล่าว

“ผมยังยึดหลักให้เกียรติทุกกลุ่มเหมือนเดิม และจะไม่ออกคลิปตอบโต้ใครทั้งนั้น” พลเอกอุดมชัยกล่าวเพิ่มเติม

อับดุล ราฮิม นูร์ กล่าวอีกว่า ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายในการพิจารณาว่าพวกเขาจะพบกันเมื่อใด และบทบาทของเขาเป็นหนึ่งในผู้อำนวยความสะดวก การยกเลิกการประชุมของ พลเอกอุดมชัยนั้น อาจมาจากเจ้าหน้าที่ทางการระดับสูงของไทย

“ท่านอุดมชัยบอกกับทีมมาเลเซียว่า เขาทำเช่นนั้น เพราะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้เขาทำ” นายราฮิม นูร์กล่าว

และนายราฮิม นูร์ ยังกล่าวถึง การที่พลเอกอุดมชัยอ้างการเดินทางมาเพื่อพบกับเขาเท่านั้น โดยไม่มีการพบกลุ่มผู้เห็นต่างแบ่งแยกดินแดน ว่า

“หากพลเอกอุดมชัย จะมาพบผมเท่านั้น ทำไมต้องพาคณะผู้แทนทั้งคณะ มาเพื่อพักเพียงคืนเดียว ในกัวลาลัมเปอร์” นายราฮิม นูร์ บอกกับเบนาร์นิวส์

การตัดสินใจของคณะผู้แทนไทย ทำเพื่อชะลอการเจรจา นายชาห์ริมัน ล็อกแมน นักวิเคราะห์อาวุโส สถาบันยุทธศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศ ในกัวลาลัมเปอร์ กล่าว

“และอาจจะทำเพราะได้รับคำแนะนำจากผู้นำทางการเมืองของพลเอกอุดมชัยเท่านั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม รวมถึงการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึง” นายชาห์ริมัน เผยแก่เบนาร์นิวส์

“ไม่ว่าในกรณีใด มาเลเซียควรส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงประเทศไทยว่า ทางมาเลเซียจะอำนวยความสะดวกแก่การพูดคุยฯ นี้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจริงจังกับพวกเขา และจะได้ไม่เสียเวลาของเราในอนาคต”

องค์กรมาราปาตานี นั้น รวมถึงตัวแทนจาก กลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ที่ใหญ่และมีกำลังมากที่สุด แต่ผู้นำของสภาปกครองบีอาร์เอ็น ยังคงไม่ออกมาปรากฏตัวเพื่อร่วมการพูดคุยฯ กับฝ่ายรัฐบาลทหารไทย