แม่ทัพภาค 4 ให้ปฏิเสธการอ้างของฝ่ายผู้เห็นต่างว่าเป็นตัวแทนคนพื้นที่

มารียัม อัฮหมัด
2019.02.25
ปัตตานี
190225-TH-deepsouth-violence-1000.jpg เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบจุดระเบิดที่ทำให้ชุดคุ้มครองครูโรงเรียนบ้านตะโละซูแม และชาวบ้านบาดเจ็บ ใน ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา วันที่ 25 มกราคม 2562
มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์นี้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 ในฐานะหัวหน้าคณะประสานงานระดับพื้นที่ ได้กล่าวแก่ที่ประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานราชการฝ่ายต่างๆ และภาคประชาสังคมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ให้ปฏิเสธการกล่าวอ้างของฝ่ายผู้เห็นต่างที่อยู่ในประเทศมาเลเซียหรือต่างประเทศ ว่าเป็นตัวแทนของคนในพื้นที่

พล.ท.พรศักดิ์ ได้ร่วมประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่ ครั้งที่ 1 เพื่อรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการนำเสนอความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อการขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสร้างบรรยากาศในพื้นที่ให้เอื้อต่อการพูดคุยฯ โดยมีคณะประสานงานระดับพื้นที่ คือ เลขาธิการ ศอ.บต. (หรือผู้แทนคณะฯ) เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งมีหน่วยงานราชการต่างๆ พระสงฆ์ ผู้นำศาสนาอิสลาม และภาคประชาสังคมเข้าร่วมหารือ

“การพูดคุยสันติสุขขณะนี้ เราถือว่าคนที่อยู่มาเลหรือต่างประเทศ ไม่เกี่ยว พวกเราต้องออกมาปฏิเสธแบบนี้ด้วย มั่นใจว่าที่มาอ้างพื้นที่ เขาจะหายไป การพูดคุยกับฝ่ายประสานงาน ไม่ใช่ว่าจะคุยครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่จะมีการคุยอีก” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวแก่ที่ประชุม ที่จัดขึ้นที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี ในวันนี้

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้จัดระดับคณะที่ทำหน้าที่เกี่ยวเนื่องกับการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสามระดับ คือ หนึ่ง คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชุดใหญ่ที่มีพลเอกอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ เป็นหัวหน้าคณะ สอง คณะพูดคุยระดับเทคนิก ที่มีพลตรีเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นหัวหน้าคณะ และสาม คณะประสานงานระดับพื้นที่ ซึ่งมีพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าคณะ

สำหรับผู้ประสานงานทั้งหมดนี้ พล.ท.พรศักดิ์ ได้แต่งตั้งขึ้นมา เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 โดยมีวัตุประสงค์เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกื้อกูลเอื้ออำนวยต่อกระบวนการพูดคุยฯ ประสานงานระหว่างรัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในระดับพื้นที่ ติดตามประเมินสถานการณ์ที่เป็นผลสะท้อนจากการพูดคุยในทุกด้าน แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุนกระบวนการพูดคุยฯ เฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็น ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และปฏิบัติงาน หรือดำเนินการอื่นใดตามที่ประธานคณะกรรมการอำนวยการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบหมาย

“ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานประสานงานในพื้นที่ ได้มาพบปะกลุ่มต่างๆ ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ เพื่อหาแนวทาง ในการวางนโยบาย ว่าคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ มีความต้องการอย่างไร เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ให้กับพื้นที่ เพื่อนำเสนอให้กับทางพลเอกอุดมชัย หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำมาเป็นข้อมูลในการเปิดการพูดคุยเจรจาเพื่อให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่ให้มากที่สุด” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้ปรับยุทธวิธีเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับฝ่ายความมั่นคง เสริมประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน อันจะนำไปสู่อำนาจในการพูดคุย

“ในส่วนของการแก้ปัญหาต่อไป ทหาร ผบ.ฉก. จะไม่อยู่ในฐาน ต้องออกมาอยู่ในหมู่บ้าน ท้ายหมู่บ้านหรือหัวหมู่บ้าน ออกมาดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน เพื่อสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการพูดคุยสันติสุข ต้องมาดูแล วัด โรงเรียน ต่อไปจะไม่มีแผนเชิงรับ จะมีรุกทั้งหมด เพราะตราบใดที่รัฐอ่อนแอ หงายท้องอยู่ทุกวัน ไม่มีทางที่จะพูดคุยรู้เรื่อง ต้องลุยในป่า ในเขา และการพูดคุย รัฐต้องเข้มแข็ง พี่น้องทุกคนพุทธ-มุสลิม ต้องปลอดภัย” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม

“ที่สำคัญ ทหารจะไม่เดินบนถนน แต่จะเดินทุกพื้นที่ ในหมู่บ้าน เพื่อดูแลผู้บริสุทธิ์ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนทุกอย่างก็จะเปลี่ยน เราต้องยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกวันให้หายให้ได้ โดยเฉพาะคนในพื้นที่ต้องการอะไร ต้องโปร่งใสและพูดได้ทุกเรื่อง” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวว่า การพูดคุยเพื่อสันติสุขที่ดูนิ่งอยู่โดยรวมนั้น เพราะฝ่ายผู้เห็นต่างรอเจรจากับรัฐใหม่

“ยังนิ่งๆ อยู่ แต่ขณะที่ท่าทีของฝ่ายรัฐมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ส่วนฝ่ายที่คิดเห็นต่าง หรือ BRN หรือ มารา เขาก็นิ่งๆ เพราะรอท่าทีการเมือง ให้มีการเลือกตั้งก่อน เขาต้องการคุยกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มันจึงทำให้เขาต้องรอ” ผศ.ดร.ศรีสมภพ ให้ทัศนะแก่เบนาร์นิวส์

“สำหรับความคืบหน้าของการพูดคุยสันติสุข ยังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เราทำมาตลอด ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติไม่มีปัญหาอะไร” ดร.ศรีสมภพ กล่าวเพิ่มเติม

แม่ทัพขอให้ชาวกัมพูชาเรียนศาสนาเข้าเมืองอย่างถูกต้อง

ในเรื่องการที่มีชาวกัมพูชาหรือนักเรียนจากต่างประเทศ เดินทางเข้ามาเรียนศาสนาตามปอเนาะต่างๆ ในสามจังหวัดชายแดนใต้นั้น พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร หากว่ามีการเดินทางเข้ามาถูกต้องตามกฎหมาย

“จากที่ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับโรงเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีอะไร ส่วนประเด็นที่มีความรุนแรงยังไงก็จะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ รับที่จะไปแก้ปัญหา ส่วนรายละเอียดจะต้องมาหารือกันอีกทีระหว่างผู้เกี่ยวข้อง” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวต่อที่ประชุม

ทั้งนี้ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังเพื่อความมั่นคง

"สำหรับนักเรียนต่างชาติ เราไม่เคยมีประวัติที่เข้ามาก่อเหตุ แต่จะต้องระวังเพื่อความมั่นคง ในส่วนของจำนวนเด็กที่มีในพื้นที่ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการร่วมกับโรงเรียน" พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

ด้านนายอับดุลอาซิส ยานยา นายกสมาคมสถาบันการศึกษาปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้ทรงคุณวุฒิคณะประสานงานพูดคุยสันติสุข กล่าวว่า ตนขอโอกาสให้นักเรียนต่างชาติ โดยเฉพาะจากกัมพูชาและมาเลเซีย ได้เข้ามาร่ำเรียน

“หลังจากเกิดเรื่องที่โรงเรียนในอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ได้มีการประชุมกับเจ้าของโรงเรียนและผู้เกี่ยวข้องหลายครั้ง เพื่อหาข้อยุติปัญหา และได้ชี้แจงให้ทุกพื้นที่ที่มีเด็กนักเรียนต่างชาติที่จะเข้ามา ต้องเข้ามาตามระเบียบ ตามกฎหมายของ ตม.” นายอับดุลอาซิส กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว โดยอ้างถึงการควบคุมตัวนักเรียนชาวกัมพูชาที่เข้ามาเรียนโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมและต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง