ปลัดอำเภอฯ และพวกรวม 12 ราย ถูกแจ้งข้อหาล่าสัตว์ป่า ในเขตอุทยานฯ

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2018.10.08
กรุงเทพฯ
181008-TH-poaching-official-800.jpg เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ขณะคุมตัวผู้ต้องสงสัยพร้อมซากสัตว์ป่า และอาวุธปืน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561
เฟสบุ๊คเพจ ทีมพญาเสือ

ในวันนี้ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคง และกิจการพิเศษ ระบุว่าได้แจ้งข้อหาหนักอย่างน้อย 7 ข้อหา ต่อปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี และพวกรวม 12 คนแล้ว หลังทั้งหมดถูกคุมตัวพร้อมซากหมีขอ และอาวุธปืน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ให้ปลัดอำเภอรายดังกล่าวออกจากราชการแล้ว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้คุมตัวบุคคล 15 ราย ในพื้นที่อุทยานฯ หลังตรวจค้นรถยนต์ 6 คันของบุคคลกลุ่มดังกล่าวแล้วพบ ขาของหมีขอ 4 ขา และอาวุธปืนพร้อมด้วยเครื่องกระสุน โดยบุคคลกลุ่มดังกล่าวประกอบด้วย ผู้ชาย 10 คน ผู้หญิง 2 คน และเด็ก 3 คน ในนั้นมี นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย นายสกานต์ แก่งหลวง และนายอนุสรณ์ เรือนงาม ซึ่งเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอมะขามเตี้ย รวมอยู่ด้วย จากนั้น เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้นำตัวผู้ใหญ่ 12 รายแจ้งความดำเนินคดีที่ สถานีตำรวจภูธร อ.ไทรโยค

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรหาณกุล รอง ผบ.ตร. ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนในวันจันทร์นี้ว่า ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีกับ นายวัชรชัย สมีรักษ์ อายุ 41 ปี ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย และพวกรวม 12 คน อย่างน้อย 7 ข้อหา ซึ่งเบื้องต้น ทั้งหมดให้การปฏิเสธ และปัจจุบัน ถูกควบคุมตัวที่ สถานีตำรวจภูธร อ.ไทรโยค

“แม้พบขาหมี ซึ่งเบื้องต้นชี้ได้ว่า เป็นขาซ้าย ขาขวา มีทั้งหมด 4 ขา ของหมีขอ แต่เราต้องพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจดีเอ็นเอ ก่อนว่าเป็นขาของหมีตัวเดียวกันหรือไม่ เพราะถ้าเป็นขาของหมีคนละตัวกัน หมีขาขาดข้างเดียวมันไม่ตาย แต่ถ้าขาขาดทั้ง 4 ขา หมีตายแน่ ส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปในป่า เพื่อหาซากหมีที่เหลือแล้ว เพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติม การครอบครองขาหมี” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว

“มีความผิดแน่ แต่ในทางกฎหมาย ถ้าหมีตาย กับหมีไม่ตาย มีความผิดต่างกัน หากหมีตาย เข้าฐานความผิดล่าสัตว์ป่าโทษคุก 5 ปี ปรับ 50,000 บาท แต่ถ้าโทษครอบครองสัตว์ป่า คุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท รับโทษต่างกัน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าซากหมีเป็นของตัวเดียวกันตัดมา 4 ขา เข้าข้อหาล่าสัตว์ ทั้งนี้หากพิสูจน์ไม่ได้ยังแจ้งได้เพียงข้อหาครอบครองซากสัตว์ ตอนนี้จึงเร่งรัดให้ส่งขาทั้ง 4 ตรวจพิสูจน์” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับคดีนี้ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้ระบุไว้ในบันทึกการจับกุม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561 ว่า คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ได้ตรวจพบรถยนต์ออฟโรดจำนวน 6 คัน พร้อมผู้โดยสารจำนวนทั้งหมด 15 คน ที่กำลังเดินทางออกจากเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค จึงเข้าแสดงตัวและขอตรวจ ได้ค้นพบอาวุธปืนยาวไรเฟิลติดกล้องเล็ง และกระบอกเก็บเสียงจำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง พบอาวุธปืนสั้นขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน พบมีดพร้า 1 เล่ม มีดทำครัว 1 เล่ม

ทั้งยังพบเขียงไม้มีร่องรอยการใช้ในการเตรียมอาหาร และพบซากสัตว์ป่า หมีขอ หรือ บินตุรง (Arctictis binturong) ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง 4 เท้าใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงมิดชิดแช่น้ำแข็งไว้ในถังหลังรถ ซึ่งขณะตรวจค้น นายวัชรชัย แสดงตัวเป็นปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย อ้างว่า ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบริเวณดังกล่าวเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 ตุลาคม เพื่อทำบุญที่สำนักสงฆ์เหมืองเต่าดำ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงนำตัวทั้งหมดพร้อมของกลาง และบันทึกการจับกุม ส่งพนักงานสอบสวน อ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

“คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าวทั้ง 12 คนข้างต้น ได้ขับรถเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมถึงมีการนำอาวุธปืน เครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ เข้าไปล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ในเขตอุทยานแห่งชาติ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดว่าด้วยกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้และกฎหมายอื่นๆ” นายพนัชกร ระบุในบันทึกการจับกุม ที่นำส่งต่อพนักงานสอบสวน สภ.โทรโยค

ด้าน นายวัชรชัย ผู้ต้องหา ได้ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนทุกข้อกล่าวหา และระบุว่า กลุ่มของตนเข้าไปทำบุญที่สำนักสงฆ์เต่าดำ โดยไปบริจาคสิ่งของ และนอนพักค้างคืนอยู่ภายในสำนักสงฆ์ ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ป่า สำหรับซากสัตว์ป่าที่ถูกตรวจพบ ทราบเพียงว่า นายอนุสรณ์ได้ขอแบ่งซื้อมาจากบุคคลอื่น

ขณะที่ นายอนุสรณ์ เรือนงาม อาสาสมัครอำเภอด่านมะขามเตี้ย ระบุว่า พบกับชาวบ้านที่ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาเสนอขายของป่าที่บรรจุในถุงพลาสติกวางที่ตะกร้าหน้ารถให้ในราคา 100 บาท จึงได้ซื้อมาเพื่อหวังว่าจะเอาไปทำยา พร้อมยืนยันว่า ปลัดอำเภอฯ และคณะที่มาด้วยไม่รู้นี้เรื่องเพราะตนเป็นคนซื้อเพียงคนเดียว

ล่าสุด นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนระบุว่า ได้มีคำสั่งให้ นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน อำเภอด่านมะขามเตี้ย, นายสกานต์ แก่งหลวง และนายอนุสรณ์ เรือนงาม ซึ่งเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอด่านมะขามเตี้ย ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว ระหว่างการสอบสวนและดำเนินคดีทางกฎหมาย

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง