ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีล่าเสือดำ เพิ่มโทษเปรมชัยเป็น คุก 2 ปี 14 เดือน

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2019.12.12
กรุงเทพฯ
191212-TH-poaching-premchai-800.jpg นายเปรมชัย กรรณสูต และนางนที เรียมแสน จำเลยในคดีล่าเสือดำ เดินลงจากอาคารศาลจังหวัดทองผาภูมิ กาญจนบุรี วันที่ 19 มีนาคม 2562
นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์

ในวันพฤหัสบดีนี้ ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้เพิ่มโทษจำคุกนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 2 ปี 14 เดือน จากความผิดในคดีล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จากเดิมที่ศาลชั้นต้นให้จำคุก 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยอีก 3 รายถูกพิพากษาเพิ่มโทษจำคุกทั้งหมด เพราะจำเลยและพวกเข้าไปตั้งแคมป์ในเขตพิทักษ์ป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไม่อนุญาต

การอ่านคำพิพากษาคดีนี้ สืบเนื่องจากในคืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 นายเปรมชัย กรรณสูต และพวกอีกสามราย ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เนื่องจากพบซากไก่ฟ้าหลังเทา หมูป่า และเสือดำ พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ใกล้บริเวณเต๊นท์ค้างแรมของคนกลุ่มดังกล่าวในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

ต่อมา นายเปรมชัย จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ถูกตั้งข้อหาต่างๆ เช่น ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต และ ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 เป็นโจทก์ฟ้อง และในวันที่ 19 มีนาคม 2562 ศาลได้พิพากษาว่า นายเปรมชัย และพวกมีความผิดจริง ทั้งหมดจึงได้ยื่นอุทธรณ์ และเดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้

“พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เพิ่มโทษ นายเปรมชัยจากจำคุก 16 เดือน เป็น 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญาใน 3 ข้อหา ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ ยกฟ้อง ข้อหาครอบครองซากเสือดำ” ตอนหนึ่งของคำพิพากษา ระบุ

ทั้งนี้เหตุผลที่ ศาลพิพากษาให้เพิ่มโทษจำคุก เนื่องจากศาลเห็นว่า นายเปรมชัย กับพวกเดินทางเข้าไปตั้งแคมป์ในหน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง ใกล้กับลำห้วยประชิ ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไม่อนุญาต

“มีการพกพาปืน มีด กล้องส่องสัตว์ เบ็ดตกปลา สวิงช้อนปลา รวมทั้งเครื่องครัวและเครื่องปรุง เข้าไปในพื้นที่ ไม่ใช่ อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการตั้งแคมป์เพื่อท่องเที่ยว ยังมีการตรวจยึดซากไก่ฟ้าหลังเทาได้ในแคมป์ที่พัก และซากเสือดำห่างจากแคมป์ประมาณ 7 เมตร พบอุจจาระของนายเปรมชัย ในจุดเดียวกับที่พบปลอกกระสุนปืน ห่างจากแคมป์ประมาณ 750 เมตร ทั้งหมดถือเป็นหลักฐานประกอบที่เชื่อได้ว่า นายเปรมชัย กับพวก มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันล่าสัตว์ป่า พยายามล่าสัตว์ป่าในเขตป่าสงวน โดยใช้อาวุธที่นำเข้ามาก่อเหตุ” คำพิพากษาโดยสรุป

ทั้งนี้ จำเลยรายอื่นๆ ประกอบด้วย นายยงค์ โดดเครือ จากเดิมจำคุก 13 เดือน เป็น จำคุก 2 ปี 17 เดือน, นางนที เรียมแสน แม่ครัว จากเดิม จำคุก 4 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 10,000 บาท เป็น จำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี นายธานี ทุมมาศ นายพราน ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นคนยิงเสือดำ จากจำคุก 2 ปี 17 เดือน เป็นจำคุก 2 ปี 21 เดือน ให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 4 กุมพาพันธ์ 2561

ในวันนี้นายเปรมชัย และพวกเดินทางมาถึงศาลในช่วงเช้า โดยนายเปรมชัยยังใช้ไม้เท้าพยุงตัว แต่มีสีหน้ายิ้มแย้มกว่าการขึ้นศาลทุกครั้ง แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ แก่สื่อมวลชน

และหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเรียบร้อยแล้ว นายเปรมชัยกับพวก ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดรายละ 6 เเสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยศาลพิจารณาแล้ว เห็นควรให้ส่งคำร้องของนายเปรมชัยกับพวกให้ศาลฎีกาพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวหรือไม่ แต่เมื่อครบเวลาราชการในวันนี้ ศาลฎีกายังไม่มีคำสั่งลงมา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงได้ควบคุมตัวนายเปรมชัยกับพวกไปควบคุมยังเรือนจำอำเภอทองผาภูมิต่อไป

ด้าน นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ซึ่งเป็นผู้ควบคุมตัวนายเปรมชัย และพวกเมื่อครั้งที่เข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า กล่าวแก่สื่อมวลชนหลังทราบคำพิพากษาว่า รู้สึกพอใจกับคำพิพากษา

“น้อมรับคำพิพากษาของศาล และรู้สึกพอใจที่ศาลได้ตัดสินเพิ่มโทษ ซึ่งถือเป็นการทวงคืนความยุติธรรมให้กับเสือดำ และทำให้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” นายวิเชียร ระบุ

ทั้งนี้ คดีของนายเปรมชัยที่เกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ป่า มีทั้งหมด 4 คดี ประกอบด้วย คดีล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกนายเปรมชัยในวันนี้ และเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ตัดสินจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา นายเปรมชัย คดีติดสินบนเจ้าพนักงาน เพื่อให้ปล่อยตัวหลังถูกจับกุมพร้อมซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และอาวุธปืนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยศาลให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 4 แสนบาท ปัจจุบัน คดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์

วันที่ 20 สิงหาคม 2562 ศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 1 ปี แต่ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากความผิดในข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างยื่นอุทธรณ์ โดยใช้หลักทรัพย์ 2 แสนบาท เป็นประกัน ส่วนคดีครอบครองงาช้างแอฟริกา 4 กิ่ง ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 พิพากษายกฟ้องนายเปรมชัย และภรรยา เนื่องจากศาลเห็นว่า จำเลยไม่มีเจตนาปกปิด และเป็นมรดกตกทอด

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง