ตำรวจฟ้อง 9 ข้อหา คดีเปรมชัยและพวกล่าเสือดำ

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2018.03.13
กรุงเทพฯ
180313-TH-premchai-620.jpg นายเปรมชัย กรรณสูต (คนนั่ง) ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ถูกจับในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเศวร เมื่อคืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561
ภาพโดยเจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่นเรศวร

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งสำนวนคดีของตำรวจให้กับสำนักงานอัยการ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี แล้วในวันอังคารนี้ โดยฟ้องร้องนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน ทั้งหมด 9 ข้อหา จากการลักลอบล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า และถูกจับพร้อมซากเสือดำ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า พยานบุคคล และพยานวัตถุในคดีนี้ชัดเจน จึงมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้ และอัยการจะสั่งฟ้องคดีดังกล่าวแน่นอน

“ผมเชื่อว่า 99 เปอร์เซ็นต์ พนักงานอัยการจะสั่งให้ส่ง(ฟ้อง)แน่ เขียงและมีด ยึดได้จากที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาอยู่ในที่เกิดเหตุ ดังนั้นเรื่องดีเอ็นเอคนไม่ใช่ปัญหา เราสามารถใช้พยานบุคคลซึ่งเป็นผู้ตรวจยึดมาเป็นพยานได้ เขียงก็มีดีเอ็นเอของเสือดำ ถือว่าหลักฐานสมบูรณ์ไม่มีปัญหา” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว

“อย่างที่ผมบอก 99 เปอร์เซ็นต์ ยังไง(เสือดำ)ก็ไม่ตายฟรี สั่งการไปแล้วให้นำตัวฝากขัง มาตรฐานเดียว ผมเชื่อ 99 เปอร์เซ็นต์” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 กล่าวหลังจากรับสำนวนฟ้องของพนักงานสอบสวนว่า คดีล่าเสือดำของนายเปรมชัย และพวก ความยาว 857 หน้า และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ 225 ชิ้นว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะส่งฟ้องได้เมื่อใด แต่จะเร่งรัดกระบวนการให้เร็วที่สุด

“นโยบายของสำนักงานอัยการสูงสูด มีมาโดยตลอดเรื่องการเร่งรัดคดี การอำนวยความยุติธรรมต้องไม่ล่าช้า อย่างไรก็ตาม สำนวนจะเร็วหรือไม่เร็วก็อยู่ที่เนื้อหาของพนักงานสอบสวนรวบรวมมา ซึ่งขณะนี้ เรายังตอบไม่ได้ว่าเราจะสั่งสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ หรือจะสั่งฟ้องคดีนี้ได้เลย เพราะเรายังไม่ได้อ่านสำนวน แล้วถ้าสั่งสอบสวนเพิ่มเติม ล่าช้าหรือไม่อยู่ที่พนักงานสอบสวน แต่เรามอบนโยบายไปแล้วว่า จะเร่งรัดทุกๆ 7 วัน” นางสมศรีกล่าว

คดีล่าเสือดำ ได้สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน ซึ่งได้มีการรณรงค์ด้วยการแสดงความคิดเห็นและโพสต์ภาพล้อเลียนผู้ถูกกล่าวหาทางโซเชียลมีเดีย รวมทั้งการรณรงค์ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ ในย่านธุรกิจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวกอย่างเฉียบขาด

ด้านนายเปรมชัยนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งให้เข้ารายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในเวลา 10.00 น. ของวันพุธ (14 มีนาคม 2561) นี้แล้ว อย่างไรก็ตาม ทนายความของนายเปรมชัย ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าต้องการขอเลื่อนนัด แต่พนักงานสอบสวนไม่อนุญาต ซึ่ง พล.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขออำนาจศาลนำตัวนายเปรมชัยฝากขังทันที หากไม่เข้าพบเจ้าหน้าที่ตามเวลาที่นัดหมาย

สำหรับคดีการลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก หรือคดีล่าเสือดำนั้น มีผู้ต้องหารวม 4 คน ประกอบด้วย 1. นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี 2. นายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี 3. นางนที เรียมแสน อายุ 43 ปี และ 4. นายธานี ทุมมาศ อายุ 56 ปี ทั้งหมดถูกจับกุมได้พร้อมซากสัตว์ และอาวุธ ในวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 โดยเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช เบื้องต้นเชื่อว่า บุคคลทั้งหมดแอบเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ รวมทั้งนำเนื้อเสือดำและอื่นๆ มาประกอบอาหาร จึงถูกจับกุมตัวและฟ้องร้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังจากการทำสำนวนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ วันอังคารนี้ พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคำฟ้องทั้งหมดให้กับพนักงานอัยการแล้ว โดยให้เอาผิดกับผู้ต้องหาทั้งหมด 9 ข้อหาประกอบด้วย 1. ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2. ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 3. ร่วมกันล่าและพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 4. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5. ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิด 6. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 7. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 8. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 9. ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน

โดย หากกระบวนการยุติธรรมตัดสินว่า นายเปรมชัยและพวกมีความผิดจริง อาจถูกลงโทษด้วยอัตราสูงสุดจากการล่าเสือดำ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยให้จำคุก 4 ปี และปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง