เปรมชัยเจอเพิ่มอีก 3 ข้อหา ก่อนได้รับประกันตัว

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2018.03.14
กรุงเทพฯ
180314-TH-premchai-1000.jpg นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เดินทางถึง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กรุงเทพฯ วันที่ 14 มีนาคม 2561
เอพี

พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) แจ้งข้อกล่าวหากับ นายเปรมชัย กรรณสูต เพิ่มเติมอีกสามข้อหา ในวันพุธนี้ หลังจากถูกตั้งข้อหาจากการล่าเสือดำ ไปเมื่อวานนี้ ก่อนได้รับการประกันตัวเป็นวงเงิน 300,000 บาท พร้อมเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ

นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปทส. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในอีก 3 ข้อหา ตามความผิดฐานครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองงาช้าง-ซากสัตว์ผิดกฎหมาย จากการตรวจค้นบ้านนายเปรมชัย ในก่อนหน้านี้ ส่วนข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานนั้น เกิดขึ้นระหว่างนายเปรมชัยและพวก ถูกเจ้าหน้าที่คุ้มครองสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ควบคุมตัวเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

นายเปรมชัย ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยขอต่อสู้คดีในชั้นศาล พร้อมกล่าวว่า ตนไม่ได้ฆ่าเสือดำ

“ผมไม่ได้ฆ่าเสือดำ” นายเปรมชัย กรรณสูต กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวที่ บก.ปทส.

“ผมปฏิเสธทั้งสามข้อหาในวันนี้ ผมเสียใจที่ทุกคนรู้สึกอย่างนี้ กับเรื่องนี้ของผม แต่ผมคิดว่าความจริงจะปรากฏในชั้นศาล” นายเปรมชัย ระบุเพิ่มเติม

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายัง บก.ปทส. เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีก่อนจะส่งให้อัยการเพิ่มเติม และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนมั่นใจว่าสามารถดำเนินคดีกับนายเปรมชัย ในคดีหลักได้ เพราะสำนวนมีความสมบูรณ์ จากการรวบรวมพยานหลักฐาน การสอบปากคำทั้งหมด 51 ปาก ยึดของกลางในที่เกิดเหตุได้ 28 รายการ 225 ชิ้น ซึ่งส่งให้หน่วยงานนิติวิทยาศาสตร์ทั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรมอุทยานฯ ร่วมกันตรวจดีเอ็นเอ รวมถึงสำนวนคดีที่ส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องใน 9 ข้อหา จำนวน 857 หน้า ส่วนในคดีที่จะแจ้งเพิ่มเติมมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวพันหลายหน่วยงาน แต่เชื่อว่าจะเสร็จทันตามกรอบเวลา

“ผมว่าอัยการฟ้อง เพราะผมมีความเห็นว่าสมควรสั่งฟ้อง แม้แต่ข้อหาเข้าไปในอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ผมว่าก็ไม่น่าหลุด นิติกรของกรมอุทยานฯ ยืนยันแล้วว่าเป็นความผิด ไม่ได้มีการอนุญาต” รอง ผบ.ตร. ระบุเพิ่มเติม

12 ข้อกล่าวหา หรือ มากกว่า

นายเปรมชัย กรรณสูต และพวก รวม 4 คน ถูกจับกุมในคืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ขณะตั้งแค้มป์ล่าสัตว์ในพื้นที่หวงห้าม และเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืน ซากสัตว์ และหนังเสือดำ  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องคดีในความผิด 9 ข้อหา เมื่อวานนี้ (13 มีนาคม 2561) อ้างถึงผลการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอของหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ กับดีเอ็นเอของนายเปรมชัยและพวก

“ผลการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พบว่ามีความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนและของกลางที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นมีด เขียง หนังเสือดำ ซากเสือดำ ซากซุปในหม้อเป็นเสือดำ และเป็นดีเอ็นเอ ของเสือดำตัวเดียวกัน” พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช สรุปรายงานคดีฆ่าเสือดำต่อผู้สื่อข่าว

“แม้มันระบุไม่ได้ (ว่าเปรมชัยทำ) แต่สามารถระบุได้ว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำ เพราะทั้งปืน รถ และผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำการล้วนเป็นบริวารของคุณเปรมชัยทั้งสิ้น ผมยังไม่เห็นว่าจะไปทางไหนได้เลย” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว

สำหรับ ผลการตรวจค้นบ้านของนายเปรมชัย พบว่าอาวุธปืนจำนวน 6 กระบอก ในจำนวนทั้งหมด 43 กระบอกมีปัญหาเนื่องจากเป็นอาวุธปืนที่มีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต บางกระบอกนายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ได้ และบางกระบอกเป็นปืนที่ผลิตขึ้นเอง นอกจากนี้ ยังพบงาช้างจากทวีปแอฟริกา จำนวน 2 คู่ ซึ่งไม่สามารถมีไว้ในครอบครอง

ทั้งหมดนี้ ตำรวจ บก.ปทส. ได้แจ้งหาข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนายเปรมชัย ฐานครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย ส่วนคดีงาช้าง จะได้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย และภรรยา ในฐานะเจ้าของผู้ครอบครอง รวมถึง น.ส.วันดี สมภูมิ อดีตเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ผู้รับรองการครอบครองงาช้างที่ผิดกฎหมาย

ในวันเดียวกัน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. ยังได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายเปรมชัย ในฐานความผิดให้สินบนเจ้าพนักงาน จากการที่นายเปรมชัย เจรจายื่นข้อเสนอให้นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าอุทยานฯ ระหว่างถูกควบคุมตัวว่าจะให้ผลประโยชน์ หากนายวิเชียรไม่นำนายเปรมชัยและพวกไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ

“มันเป็นคำพูดที่ให้ประโยชน์ ประมาณว่าให้อะไรก็ได้ ขออะไรก็ให้ แต่คุณวิเชียรต้องชัดเจนในประเด็นนี้… เป็นการพูดระหว่างการควบคุมตัวที่สำนักงาน หลังออกมาจากป่า มีพยานบุคคลอื่นอยู่ด้วยหลายคน” พล.ต.ต.กมล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว

จากคดีล่าเสือดำนำไปสู่การตรวจสอบ รังเย็นรีสอร์ท จ.เลย ที่นายเปรมชัย ในฐานะกรรมการ บริษัท ซี.พี.เค.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เข้าครอบครองว่าอาจเข้าข่ายบุกรุกป่าที่อุทยานแห่งชาติภูเรือกว่า 6 พันไร่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเอาไว้แล้วจำนวน 3 คดี ซึ่ง รอง ผบ.ตร. จะได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

กระแสโซเชียลจับตา รองฯ ศรีวราห์ และ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ

ตั้งแต่นายเปรมชัย ถูกตั้งข้อหาลักลอบล่าเสือดำ เป็นต้นมา สังคมออนไลน์ตั้งข้อสังเกตว่า ซีอีโอ บริษัทยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย มีโอกาสรอดจากการถูกดำเนินคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพ พล.ต.อ. ศรีวราห์ ถอดหมวกและก้มศรีษะรับไหว้นายเปรมชัย ถูกแชร์ผ่านโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ประกอบกับการลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความให้ดำเนินคดีนายเปรมชัยในข้อหา “ทารุณสัตว์” เพราะขาดหลักฐานยืนยันชัดเจน ทำให้ผู้คนในสังคมด่วนตัดสินไปแล้วว่า ผู้รักษากฎหมายมีความเกรงใจต่อนายเปรมชัยเป็นอย่างมาก

กระแสดังกล่าว ทำให้นักอนุรักษ์ทั่วประเทศจุดกระแส “เสือดำต้องไม่ตายฟรี” โดยการทำกิจกรรมใส่หน้ากากเสือดำ วาดภาพเสือดำบนกำแพงสาธารณะตรงข้ามตึกอิตาเลียนไทย และร่วมกันเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จนถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปลด พล.ต.อ.ศรีวราห์ ออกจากการเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีฆ่าเสือดำ แต่คำร้องขอดังกล่าวถูกปฏิเสธ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า รอง ผบ.ตร. สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดี

“ในกฎหมาย ไม่มีรวยหรือจน มีแต่ผู้กระทำผิดกับผู้ไม่กระทำผิด ผมยืนยันได้เท่านี้ ในฐานะที่ผมเป็นผู้รักษากฎหมาย... ผมทำทุกอย่างตามหน้าที่ พยานหลักฐานพอฟ้องก็สรุปสำนวน ถ้าเห็นว่ายังไม่พอก็ยังไม่สรุป ไม่ได้เป็นห่วงว่าโซเชียล หรือสื่อจะว่ายังไง ผมเป็นห่วงเขาจะฟ้องกลับพนักงานสอบสวนว่าไงมากกว่า” พล.ต.อ.ศรีวราห์ ตอบผู้สื่อข่าว

เสือดำ เป็นกลุ่มย่อยสปีซีส์ของเสือดาวอินโดจีน นักสิ่งแวดล้อมระบุ

"กลุ่มย่อยสปีชีส์... หายาก มีประมาณ 900 ถึง 2,500 ตัว ที่เหลืออยู่ในป่า และมีเพียง 11 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เป็นสีดำ" เอ็ดวิน วีค ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย (Wildlife Friends Foundation Thailand – WFFT) กล่าวกับผู้สื่อข่าว ในกรุงเทพฯ

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง