ชาวไทยมุสลิมเรียกร้องรัฐบาลเมียนมาดูแลชาวโรฮิงญาอย่างมีมนุษยธรรม

ในวันพุธ(30 พฤศจิกายน 2559) ชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้จัดกิจกรรมละหมาดเพื่อขอพระให้พระเจ้าคุ้มครองชาวโรฮิงญาในประเทศเมียนมา หลังจากมีกลุ่มกองกำลังโจมตีชุมชนโรฮิงญาในรัฐยะไข่อย่างหนัก โดยชาวไทยมุสลิมเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาดูแลชาวโรฮิงญาอย่างมีมนุษยธรรม และสนับสนุนนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในการร่วมเดินขบวนประท้วงการกระทำดังกล่าว

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประชาชนชาวไทยมุสลิมหลายกลุ่มร่วมกันทำพิธีละหมาดขอพรให้พระเจ้าคุ้มครองชาวโรฮิงญาในประเทศเมียนมา หลังจากเกิดความวุ่นวายในรัฐยะไข่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งรัฐบาลเมียนมาอ้างว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ ขณะที่ประชาชนบางกลุ่มเชื่อว่าเป็นการกระทำของทหารเมียนมาเอง

ขณะเดียวกันด่านชายแดนของไทยในหลายจังหวัดได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยเฉพาะชาวโรฮิงญา ที่อาจจะผ่านด่านสำคัญๆ เช่น ด่านชายแดนในจังหวัดสงขลา สตูล กระบี่ พังงา และระนอง

นางสนะ มะนาหิง ชาวไทยมุสลิมจากจังหวัดยะลาผู้ร่วมกิจกรรมละหมาดขอพรคุ้มครองชาวโรฮิงญาว่า ชื่นชมการตัดสินใจร่วมกิจกรรมต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาของนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และเรียกร้องทุกฝ่ายหันมาสนใจปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศเมียนมาครั้งนี้

“ขอชื่นชมนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่จะออกมาร่วมเดินขบวนประท้วง การปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาอย่างรุนแรงในพม่า” นางสนะกล่าว

“ทั้งสตรี เด็ก คนชรา และชาวโรฮิงญาไม่มีทางสู้ ไม่มีที่อยู่อาศัย แต่เขาก็เป็นมนุษย์สมควรได้รับสิทธิของความเป็นมนุษย์ และมั่นใจว่า รัฐบาลไทย รัฐบาลพม่า รัฐบาลมาเลเซีย และทุกฝ่ายจะเข้าไปยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญาโดยเร็ว ขอเรียกร้อง ขอทุกฝ่ายให้ความสนใจปัญหาของชาวโรฮิงญาด้วย” นางสนะเพิ่มเติม

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลมาเลเซียว่า ประเทศมาเลเซียจะมีการจัดการประท้วงต่อต้านความรุนแรงในรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมาขึ้น ซึ่งจะมีรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียเข้าร่วม และนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็จะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2559 แต่ยังไม่ระบุว่าจะจัดขึ้นที่ใด

นายแม เงาะ อีหม่ามจากจังหวัดยะลาเรียกร้องให้ฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา และชื่นชมความกล้าหาญในการต่อต้านการกระทำดังกล่าวของนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

“นายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล้าหาญมาก ขอชื่นชม ทุกๆวันชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกันทำพิธีละหมาดฮายัด เพื่อขอพรให้เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่าได้ยุติลง ชาวโรฮิงญาปลอดภัย ขอให้นานาชาติให้ความเป็นธรรมกับชาวโรฮิงญา” นายแมกล่าว

ด้านนายศิววงศ์ สุขทวี จากเครือข่ายสิทธิของผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ เปิดเผยว่า มีข้อมูลว่าชาวโรฮิงญาที่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ เริ่มอพยพออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากเป็นทางเลือกเดียวในการรอดชีวิตของพวกเขา

“มีข่าวว่ามีชาวโรฮิงญาอพยพออกมาแล้ว แต่มีจำนวนไม่มาก และเชื่อว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นชาวโรฮิงญาอพยพออกจากรัฐยะไข่มากขึ้น เพราะเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้” นายศิววงศ์กล่าว

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงซึ่งทำงานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ให้ข้อมูลแก่เบนาร์นิวส์ว่า ปัจจุบัน มีชาวโรฮิงญาจากประเทศเมียนมาจำนวนมากต้องการลี้ภัยเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย

“ในประเทศมาเลเซีย มีผู้อพยพชาวโรฮิงญา 150,000 คน ที่ยื่นเรื่องขอเป็นผู้ลี้ภัยประมาณ 55,000 คน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างกองทัพเมียนมากับชาวโรฮิงญา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2559 ทำให้ชาวโรฮิงญา 2,000 กว่าคน หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุ