ชาวมุสลิมภาคใต้เตรียมพร้อมเข้าสู่เดือนถือศีลอด จุฬาราชมนตรีประกาศเริ่ม 7 มิถุนายนนี้

วันจันทร์ (6 มิถุนายน 2559)นี้ ในภาคใต้ประชาชนชาวมุสลิมต่างเตรียมซื้ออาหาร พัฒนาบ้าน มัสยิด กูโบ(สุสาน) ก่อนเข้าสู่ช่วงถือศีลอดในวันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2559 ตามประกาศของนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีที่ให้ถือว่าวันที่ 1 ของเดือนรอมฏอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1437 ตรงกับวันดังกล่าว หลังจากสังเกตพบว่า หลังพระอาทิตย์ตกในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่พบดวงจันทร์ปรากฏบนท้องฟ้า

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังได้เปิดเผยผ่านสื่อมวลชนในวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ด้วยว่า รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนชาวมุสลิมในการประกอบกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ

“ในช่วงเดือนรอมฎอนที่ชาวมุสลิมถือศีลอด ขอให้ประสบความสำเร็จในการสร้างบุญสร้างกุศลตามวัฒนธรรมประเพณีที่มีความเชื่อถือ เช่นเดียวกับไทยพุทธที่หวังให้ตัวเอง ครอบครัว สังคมมีความสุข และแบ่งปันให้คนอื่น ในฐานะที่เป็นคนไทยพุทธ ก็ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วย รัฐบาลให้การสนับสนุนตลอดเวลา โดยรัฐบาลนี้กับจุฬาราชมนตรีมีการติดต่อประสานงานกันตลอดในทุกเรื่อง รวมไปถึงการเดินทางไปทำพิธีฮัจญ์ อาหารฮาลาล” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายอิสมะแอ ดอเลาะ ชาวจังหวัดยะลา กล่าวว่า ทุกวันนี้หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญกับการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยอิสลามมากกว่าอดีต ยกตัวอย่างเช่น ที่ศาลาดูดวงจันทร์บนเขาปาเร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งเป็นจุดเดียวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะสามารถดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดเดือนตามปฏิทินอิสลามได้ ก็จะมีประชาชน หน่วยงานรัฐก็ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธีกับพี่น้องชาวมุสลิมจากหลายจังหวัดในภาคใต้

“หน่วยงานภาครัฐได้มาให้ความสำคัญ และวางกำลังเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างหนาแน่น เพื่อเฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น บริเวณจุดดูดวงจันทร์วันนี้ ทั่วตลาดในเขตเทศบาล จังหวัด และตามชุมชน เจ้าหน้าที่มีการวางกำลังอย่างเต็มที่ กลัวว่าจะมีคนร้ายมาทำร้ายประชาชน” นายอิสมะแอกล่าว

นางมากลือซง แวนาแว ชาวจังหวัดปัตตานีกล่าวว่า พิธีถือศีลอดเป็นพิธีที่ดีที่ชาวมุสลิมทุกคนจะได้ปฎิบัติกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน

“ก่อนที่จะถือศีลในวันพรุ่งนี้ครอบครัวได้ซ้อมถือศีลมาแล้ว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พอเข้าสู่เดือนรอมฎอนก็สามารถถือศีลอย่างสมบูรณ์ อยากให้ทุกๆเดือนเป็นแบบนี้ ทุกคนปฏิบัติศาสนากิจตามหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด เด็ก เยาวชน ผู้หญิง ผู้ชาย คนแก่ ต่างร่วมมือกับกิจกรรมละศีลอด และละหมาดตารอเวี๊ยะ เป็นอะไรที่สมบูรณ์มากในเดือนนี้” นางมากลือซงกล่าว

นายซะฮารี ดอมะ ชาวจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่สำคัญอย่างยิ่ง สำหรับการตักตวงผลบุญของพี่น้องมุสลิม

“นับตั้งแต่ละศีลอดเสร็จในช่วงเย็นย่ำของแต่ละวันแล้ว หลังจากนั้น คือเวลาตักตวงผลบุญ คือการละหมาดตะรอเวียะห์ในมัสยิดต่างๆ ถือเป็นการปฏิบัติศาสนกิจสำคัญ ในช่วงเดือนรอมฎอน นอกจากนั้น ตลอดทั้งคืนก็จะมีการอ่านอัลกุรอ่าน โดยเฉพาะ 10 วันสุดท้ายก่อนสิ้นสุดเดือนรอมฎอนภารกิจในการแสวงหาผลบุญจะยิ่งเข้มข้น บางคนถึงกับร้องไห้เสียใจไม่อยากให้เดือนรอมฎอนจากไป” นายซะฮารีกล่าว

นางดวงฤทัย สมยาดี ชาวพุทธจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า แม้จะเป็นชาวพุทธ แต่ก็ชื่นชอบเดือนถือศีลอด เนื่องจากทำให้มีอาหารแปลกๆ ให้กิน และบรรยากาศในพื้นที่ยังดูสุภาพเรียบร้อยกว่าปกติ

“ชอบมาก ดีใจทุกครั้งที่มาถึงเดือนรอมฎอน ของพี่น้องมุสลิม เพราะมีอาหารมีของกินแปลกๆที่ไม่สามารถหาซื้อได้ช่วงเดือนปกติ เมื่อมาถึงเดือนนี้ก็สามารถหาซื้อได้ นอกจากนี้นั้น คนในพื้นที่ รู้สึกว่าเป็นคนดีมากกว่าเดือนอื่นๆ คงเป็นเพราะเขาถือศีลกันอยู่ ไม่แสดงความไม่สุภาพออกมา อยากให้ปัตตานีอยู่ในช่วงเทศกาลรอมฎอนตลอด เป็นบรรยากาศที่หาไม่ได้แน่นอนในช่วงเดือนอื่นๆ” นางดวงฤทัยกล่าว

เตือนสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้

หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า จากการตรวจสอบพบความเคลื่อนไหวกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบ ที่มีการเตรียมพร้อม เพื่อก่อเหตุช่วงวันที่ 7 มิถุนายน-7 กรกฎาคมนี้ ในพื้นที่บ้านโต๊ะเมาะ บริเวณฝายชะลอน้ำ หมู่ที่ 3 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส พบการเคลื่อนไหวของ นายมะรอมือลี กาแจกาซอ ซึ่งเป็นสมาชิกระดับปฏิบัติการ และผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา พร้อมสมาชิก 2 คน มีอาวุธปืนยาวครบมือ บริเวณบ้านนาซิบุกุ หมู่ 9 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา พบความเคลื่อนไหวของสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย 8 คน เข้าไปในพื้นที่

“คิดว่าแฝงตัวเข้ามา เพื่อพบปะกับมวลชนแนวร่วม หรือเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ เพื่อแสดงศักยภาพของกลุ่มขบวนการในเชิงสัญลักษณ์ และมีความเป็นไปได้ว่า กลุ่มดังกล่าวอาจรวมกำลังกับกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา โจมตีฐานที่ตั้งหน่วยเจ้าหน้าที่ที่มีกำลังน้อย” เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองฯ กล่าว

สถานการณ์ความไม่สงบล่าสุด

ในวันจันทร์นี้ เมื่อเวลา 00.30 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิดชนิดแสวงเครื่อง ที่หน้าร้านซ่อมรถ เลขที่ 103/9 บ้านปาลัส ม.5 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 06.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิด 3 ลูก ใน จ.ปัตตานี โดยจุดแรกเกิดขึ้นบริเวณห้องน้ำหอสมุดประชาชน ม.1 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทำให้ห้องน้ำ และ อาคารหอสมุดได้รับความเสียหาย

ต่อเมื่อเวลา 07.00 น. เกิดระเบิดครั้งที่ 2 บริเวณ บ้านตาแบ๊ะ ม.3 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี

เวลา 08.00 น.เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกครั้งที่หลังห้องน้ำหอสมุดประชาชน ม.1 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจปะนาเระ กำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ แต่อย่างไรก็ตามทั้ง 3 จุด ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เวลา 11.00 น. คนร้ายแขวนป้ายผ้า และวางกล่องต้องสงสัยใกล้ถังขยะ หน้าประตูมัสยิดบ้านบ่ออิฐ ม.6 ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี

นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2559 เมื่อเวลา 12.40 น. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนดักยิงนายอับดุลกอเดร์ เจ๊ะเต๊ะ อายุ 43 ปี อาชีพครู ขณะขับรถยนต์ส่วนตัวกลับบ้านพัก บนถนนสาย 4107 บ้านบูกิตตีงี หมู่ 2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ส่งผลให้กระสุนถูกบริเวณแขนขวา,ไหปลาร้าด้านขวาได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาในเวลา 13:50 เกิดเหตุคนร้าย 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จํานวน 2 คัน ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่ร้านขายของชํา เลขที่ 8/2 บ้านแม่กัง หมู่ ที่1 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ส่งผลให้กระสุนปืนถูกประชาชนที่นั่งพูดคุยกันบริเวณหน้าร้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ประกอบด้วย ร.ต.ต.พุฒิเศรษฐ์ ศรีสุวรรณ อายุ 66 ปี  กระสุนถูกบริเวณชายโครงด้านขวา ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส นายธํารงศักดิ์ พรหมสุข อายุ 44 ปี กระสุนถูกบริเวณขาขวา นายวินัย นนทสุวรรณ์ อายุ 57 ปี กระสุนถูกบริเวณขาซ้าย  นายศิลาจารึก สร้อยสมบูรณ์ อายุ 59 ปี กระสุนถูกบริเวณขาซ้ายและสะโพกซ้าย และนายพิน แก้วคงทน อายุ 52 ปี กระสุนเฉี่ยวบริเวณท้ายทอย

และในเวลา 23.30 เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงในพื้นที่ บ้านพอเบาะ ม.2 ต.กระหวะ อ.มายอ จ.ปัตตานี จำนวน 2 จุด โดยจุดที่ 1 คืออาคารสำนักงาน อบต.กระหวะ และจุดที่ 2 ที่สัญญาณโทรศัพท์ระบบเอไอเอส ทั้ง 2 จุดส่งผลให้มีอุปกรณ์เสียหายบางส่วน

ในเวลาเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงหม้อแปลงไฟฟ้า ที่บ้านบาลูกาตือเงาะ ม.1 ต.ลุโบ๊ะยิไร อ.มายอ และ เผายางรถยนต์และยิงก่อกวน บนถนนใกล้กับสะพานลาเกาะ ม.1 ต.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี ทั้ง 2 เหตุการณ์ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการก่อความไม่สงบ เพื่อตอบโต้การเสียชีวิตของสมาชิกกลุ่ม