ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยถูกยิงตายสองศพ ในอำเภอเจาะไอร้อง

ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวในวันอังคาร (7 มิ.ย. 2559) นี้ ว่า กลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ ได้ลอบยิงเจ้าหน้าที่รัฐ และชาวบ้านจนเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย ในเวลาหลังเที่ยงคืนของวันจันทร์นี้

ในเวลาตอนเช้าของวันอังคาร นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้นำกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทหาร และชาวบ้าน รวมห้าราย ซึ่งกำลังช่วยกันขุดบ่อน้ำเพื่อใช้ในฤดูแล้ง บริเวณริมถนนในหมู่บ้านบาโงดุดุง หมู่ 6 ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง นราธิวาส

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิต 2 คน คือ 1. นายอานูวา สูหลง 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านบาโงดุดุง 2. นายอับดุลปาตะห์ มูเนาะ 35 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบาโงดุดุง  ส่วนอีก 3 ราย ได้รับบาดเจ็บแต่อาการไม่สาหัส มีดังนี้ คือ อส.ทพ.อิสฮา ยาโก๊ะ 28 ปี ทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 48 นายมือลี กรือซง 44 ปี และนายอาพีนันท์ ยูโซ๊ะ 25 ปี ทั้งสามคน นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

“เจ้าหน้าที่สามฝ่ายลงความเห็นว่า เป็นเหตุที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบที่เกิดโดยกลุ่มขบวนการ ในตอนนี้ได้สั่งให้จ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตทั้งห้าคน” นายสิทธิชัย กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ ในวันอังคารนี้

นายสิทธิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวบ้าน รัฐจ่ายเงินชดเชยให้รายละ 500,000 บาท ส่วนเจ้าหน้าที่ได้รายละ 600,000 บาท

เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนที่ใช้ยิงจากปืนเอ็ม-16 จำนวน 17 ปลอกจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

เหตุที่เกิดเป็นความรุนแรงก่อนการเริ่มถือศีลอดประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1437 ที่เริ่มต้นในวันอังคารนี้ โดยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บ 6 ราย ส่วนในวันจันทร์ เกิดเหตุวางระเบิดสถานที่สาธารณะหลายครั้งในสามอำเภอของจังหวัดปัตตานี

ในเดือนรอมฎอนปี 2558 มีสถิติความรุนแรงลดลงเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจาก ทางการไทยได้มีการเจรจาเพื่อสันติสุข กับองค์กรมาราปาตานี ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกของฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ เช่น กลุ่มพูโล และกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่ได้สะดุดลงไปเมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องจากคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขของรัฐบาลไทย ยังเห็นว่าฝ่ายผู้เห็นต่างยังไม่สามารถช่วยลดเหตุรุนแรงได้

บรรยากาศวันก่อนถือศีลอดในนราธิวาส

ในวันจันทร์ (6 มิย. 2559) นี้ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ประชาชนชาวไทยมุสลิมพากันเดินทางไปจับจ่ายซื้ออาหารภายในตลาดเป็นจำนวนมาก เพื่อซื้ออาหารไปทำพิธีเปิดบวช ในช่วงเดือนรอมฏอน ทำให้พ่อค้า แม่ค้าต่างดีใจ เนื่องจากมีการซื้อขายอาหารกันอย่างคึกคัก หลังจากเงียบเหงามานานนับเดือน

เจ้าหน้าที่กองกำลังสามฝ่าย คือ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังเดินลาดตระเวนภายในตลาด เพื่อดูรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบเข้ามาก่อเหตุร้ายได้

ชาวไทยมุสลิมจับจ่ายอาหารที่ตลาดนัดบาเละฮิเล ในเขตเทศบาลเมือง นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2559 (รพี มามะ/เบนานิวส์)

นางฮามีดะ ซูเล็ง  แม่บ้านชาวนราธิวาส กล่าวแก่เบนานิวส์ว่า ในวันอังคารนี้ จะวันแรกที่ชาวมุสลิม ทุกคนที่อายุเข้าเกณฑ์ ชายหญิง จะรวยหรือจน มียศบรรดาศักดิ์ สูงส่ง หรือเป็นชาวบ้านธรรมดา หากเป็นมุสลิม เป็นข้อบังคับ ให้ถือศีลอด ไม่มีการละเว้น

จากก่อนอาทิตย์ขึ้น จนตะวันตกดิน ตนในฐานะแม่บ้าน จำเป็นที่จะต้องจับจ่ายซื้อของในตลาด อาทิ ปลา เนื้อ ผัดต่างๆ รวมถึงของใช้ที่จำเป็น ซื้อเข้าครัว เพื่อนำมาปรุงอาหาร ในยามค่ำคืน ไว้รับประทานในครอบครัว ในยามดึกหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป ก่อนจะมีเสียงอาซานในช่วงใกล้ยามหัวรุ่ง

“ช่วงถือศีลอด จะรับประทานหรือดื่ม หรือกระทำพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่ได้เด็ดขาด ส่วนยามเปิดบวช ทุกคนจะนำผลอินทผาลัม มาทานในอันดับแรก ก่อนจะทานสิ่งอื่นๆ ส่วนอาหาร ปรุงทานกินเองบ้าง และซื้ออาหารที่พ่อค้าแม่ค้ามาขายในตลาดบ้าง ถือว่าเป็นการถือศีลอดที่มีความสุขมากค่ะ ใจทั้งใจ อิ่มด้วยบุญ” นางฮาดีมะกล่าว