รมว. กระทรวงยุติธรรมเผย จับกุมพระธัมมชโยแน่นอน หากไม่มอบตัว
2016.05.27
กรุงเทพฯ
พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในวันศุกร์ (27 พฤษภาคม 2559) นี้ ว่า กระทรวงยุติธรรมโดย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จะจับดำเนินการจับตัวพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามหมายจับในคดีฟอกเงินและยักยอกทรัพย์ รับของโจร โดยจะแจ้งหมายจับให้กับฝ่ายปกครองและตำรวจ ส่งหนังสือชี้แจงคดียังมหาเถรสมาคม หากยังไม่เข้ามอบตัวในเร็วๆ นี้
“เรื่องแรกคือการทำแผนเข้าไปตามหมายจับ ได้ให้หมายจับนี้กับฝ่ายปกครองและตำรวจ ให้มีหนังสือไปหาฝ่ายปกครองของคณะสงฆ์ทุกระดับ ตั้งแต่เถรสมาคมมาทั้งหมด จะใช้กฎหมายอาญามาตราที่ 189 ในการที่จะดำเนินคดีผู้ใดที่ช่วยเหลือให้ที่พักพิง” พลเอกไพบูลย์กล่าว ในการแถลงข่าวที่กระทรวงยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม พลเอกไพบูลย์ชี้แจงว่า การดำเนินการทุกอย่างจะต้องดำเนินไปตามขั้นตอน และหลีกเลี่ยงการขัดแย้ง หรือการกระทบกระทั่งระหว่างฝ่ายสนับสนุนพระธัมมชโย และเจ้าหน้าที่ด้วย
“ขอให้มันพัฒนาไปเป็นขั้น อย่ารีบร้อน เพราะคนปฎิบัติงานเขาระมัดระวัง เพราะมันอาจเกิดเหตุหลายๆ เรื่องขึ้นมาโดยไม่คาดคิด ไม่มีใครอยากให้มันเกิดโดยไม่จำเป็น เพราะเราเป็นคนดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เห็นใจเจ้าหน้าที่เขานิดนึง...” รมว.กระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติม
พลเอกไพบูลย์ยังย้ำอีกว่า จะไม่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44 ในการจัดการกับเรื่องนี้ แต่จะพยายามให้ DSI สรุปสำนวนคดีส่งฟ้องให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์
วัดพระธรรมกายชี้แจง
ขณะที่ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน วัดพระธรรมกายได้ออกแถลงถึงเหตุผลที่ทำให้พระธัมมชโยไม่ได้ไปมอบตัว โดยนายองอาจ ธรรมนินทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยผ่านโทรทัศน์ช่อง DMC ของวัดพระธรรมกายว่า พระธัมมชโย มีความตั้งใจที่จะไปมอบตัวจริง แต่เกิดอาการอาพาธหนักกระทันหัน ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปได้ตามที่ตั้งใจ
“ท่านยินดีที่จะเดินทางออกไปแล้ว แต่เมื่ออาพาธอย่างนี้ ท่านก็คงพักรักษาอาการตามคำแนะนำของแพทย์... พระเดชพระคุณหลวงพ่อ(พระธัมมชโย)ปรารถนาที่จะทำความสบายใจให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ท่านรู้ว่าถ้าท่านไม่ไปตามสิ่งที่ถูกขีดเส้นตายไว้ ความไม่สบายก็จะเกิดขึ้น” นายองอาจกล่าว
เรืออากาศโทนายแพทย์ชูชัย พรพัฒนาพันธุ์ คณะแพทย์ที่ให้การรักษาพระธัมมชโย ได้ร่วมชี้แจงถึงอาการอาพาธด้วยโดยระบุว่า พระธัมมชโย มีร่างกายที่อ่อนแอมาก คณะแพทย์จึงมีความกังวลว่าหากต้องเดินทางออกนอกตัววัดจะทำให้สภาพร่างกายแย่ลง
คดีฟอกเงินและรับของโจรของพระธัมมชโย
ในเดือนมีนาคม นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถูกตัดสินลงโทษจำคุก 32 ปี แต่ศาลลดโทษลงกึ่งหนึ่งเหลือ 16 ปี ฐานยักยอกทรัพย์และจัดการทรัพย์ผู้อื่นโดยมิชอบเป็นเงินกว่า 22 ล้าน ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคดีนี้ แล้วพบว่า มีเงินบางส่วนเชื่อมโยงกับวัดพระธรรมกาย
DSI ตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2552-15 ก.พ. 2554 พระธัมมชโย รวมถึงเครือข่ายวัดพระธรรมกาย รับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รวม 21 ครั้ง เป็นเงิน 1,205,160,000 บาท โดยไม่มีมูลหนี้กับสหกรณ์ฯ
ส่งผลให้ DSI พิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ดังกล่าวของพระธัมมชโยกับพวก อาจมีส่วนเป็นผู้สนับสนุนนายศุภชัย และเครือข่าย ในการยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ฯ หรือสนับสนุนให้ลักทรัพย์นายจ้าง หรือรับของโจร รวมถึงมีความผิดฐานฟอกเงิน และความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตได้
ในวันที่ 29 มีนาคม กรมดีเอสไอจึงแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายเรียกให้เข้ามาชี้แจงกับดีเอสไอในทันที แต่พระธัมมชโยก็ไม่ดำเนินการตามนั้น โดยส่งทนายมาแทนพร้อมอ้างว่า อาพาธเนื่องจากเท้าซ้ายมีอาการบวม จึงได้มีการออกหมายจับในวันที่ 25 เมษายน นี้